ที่ประชุมคณะ กก.สบศ.ย้ำ เปิด ป.โทดุริยางคศิลป์-นาฏศิลป์ไทย ครั้งแรก ต้องมีคุณภาพ เน้นทำงานศิลปะนิพนธ์เป็นที่ยอมรับ เตรียมเปิดสาขาที่ 3 ทัศนศิลป์ต่อในปี 54 รองรับนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของรัฐบาล
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการสภาสถาบันบัณฑิตย์พัฒนศิลป์ (สบศ.) เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบตามที่ สบศ.จัดทำแผนพัฒนาจัดตั้งหลักสูตรมหาบัณฑิต 2 สาขาวิชา ได้แก่ สาขาวิชาดุริยางคศิลป์ไทย และนาฏศิลป์ไทย ถือเป็นการเปิดหลักสูตรระดับปริญญาโทครั้งแรกของวิทยาลัยนาฏศิลป์ของประเทศไทย คาดว่า จะสามารถเปิดการเรียนการสอบหลักสูตรมหาบัณฑิตได้ภายในปีการศึกษา 2553 ซึ่งที่ประชุมได้เสนอแนะให้ทาง สบศ.ดูแลคุณภาพนักศึกษาอย่างเข้มข้น ทุกคนที่ผ่านหลักสูตรจะต้องมีผลงานศิลปะนิพนธ์ที่เป็นที่ยอมรับ และได้รับการตีพิมพ์ จัดแสดงเผยแพร่สู่สาธารณะ ส่วนความพร้อมของคณาจารย์ที่จะมาสอนนักศึกษาปริญญาโทนั้น สบศ.ได้พัฒนาบุคลากร คณาจารย์ที่มีอยู่ไว้แล้ว โดยให้ทุนศึกษาต่อในระดับปริญญาเอกปีละ 40 ทุนเพื่อกลับมาสอนนักศึกษาทั้ง 2 สาขา รวมไปถึงในส่วนของอาคารสถานที่ ได้รับอนุมัติงบ 10 ล้านบาทเพื่อปรับปรุงอาคารที่บริเวณวังหน้าเป็นสถานที่รองรับ
ปลัด วธ.กล่าวต่อไปว่า นอกจากหลักสูตรมหาบัณฑิตทั้ง 2 สาขา คือ สาขาวิชาดุริยางคศิลป์ไทย และนาฏศิลป์ไทย แล้ว ที่ประชุมยังได้มีการหารือถึงการเปิดสาขาที่ 3 คือ สาขาทัศนศิลป์ การศึกษาด้านการวาดภาพ การศึกษาภาพลายไทย สถาปัตยกรรม เป็นต้น ขณะนี้ได้มอบหมายให้ นายกมล สุวุฒโฑ อธิการบดี สบศ.ไปศึกษารายละเอียด แล้วนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการสภา สบศ.ครั้งต่อไป หากที่ประชุมเห็นชอบการเปิดสอนระดับปริญญาโทสาขาทัศนศิลป์ คาดว่าจะสามารถเปิดสอนได้ภายในปี 2554
“การผลิตมหาบัณฑิตของ สบศ.ครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการพัฒนานักการศึกษา นักวิชาการ นักวิจัยด้านดุริยางคศิลป์ไทย นาฏศิลป์ไทย แล้ว ยังเป็นการผลิตบุคลากรด้านศิลปวัฒนธรรมไว้รองรับนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในระยะยาวด้วย” ปลัด วธ.กล่าว
