“นวลพรรณ” รุดช่วยหญิงพิการซ้ำซ้อนถูกข่มขืน หว่านล้อมแม่ปล่อยเหยื่อให้ พม.ดูแล

“คุณแป้ง” รุดช่วยหญิงพิการซ้ำซ้อนถูกข่มขืนท้อง 8 เดือน พร้อมรับดูแลเด็กจนคลอด ¬ขณะที่ พม.จ.สระบุรี เผยแม่เด็กยันจะเลี้ยงลูกเอง เตรียมหว่านล้อมแม่ปล่อยมาอยู่ในความดูแล พม.ชี้ปลอดภัยกว่า

จากกรณีเหยื่อสาววัย 18 ป่วยพิการซ้ำซ้อน หูหนวก ตาบอด ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ บ้านยากจนแม่ปล่อยให้นอนเปลือยกายอยู่หน้าบ้านจนถูกวัยรุ่นบุกข่มขืนตั้งครรภ์ 8 เดือน วันนี้(28 ก.ย.) นางนวลพรรณ ล่ำซำ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าว่า เบื้องต้นทราบว่าเด็กเคยอยู่ในความดูแลในสถานสงเคราะห์ผุ้พิการ โดยการนำส่งของพม.มาก่อน กระทั่งเมื่อปี 45 ทางพ่อแม่ของเด็กได้ไปขอรับตัวเด็กออกไปเลี้ยงดูเอง โดยเด็กได้ขึ้นทะเบียนคนพิการแล้ว และได้รับเบี้ยยังชีพคนพิการเดือนละ 500 บาท ทั้งนี้กระทรวงได้ประสานไปยังแม่เด็กเพื่อขอรับเด็กกลับไปดูแล เนื่องจากทางบ้านเด็กก็ยากจน ต้องปล่อยเด็กให้อยู่บ้านคนเดียวหรือไม่ได้สวมเสื้อผ้าให้เด็ก เป็นปัญหาสังคมที่น่าเป็นห่วง

“พม.จะขอรับอุปการะเด็กมาดูแลจนกว่าเด็กจะคลอด และวางแผนต่อไปว่าจะดูแลลูกที่เกิดมาอย่างไร โดยดิฉันจะเดินทางไปเยี่ยมน้องพิการซ้ำซ้อนคนนี้ที่ รพ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี แต่จากการประสานไปยังแม่ของเด็กเพื่อขอรับเด็กมาดูแลในสถานสงเคราะห์ของกระทรวงพม. เพราะเห็นว่าพ่อแม่เด็กไม่พร้อมไม่น่าจะดูแลเด็กได้แล้วนั้น แม่ของเด็กยังยืนยันไม่ยอมให้ลูกมาอยู่กับ พม. แต่หลานที่จะคลอดออกมาจะไม่ดูแล ไม่เข้าใจว่าทางพ่อแม่เด็กทำไมจึงไม่ยินยอมให้อุปการะลูกที่พิการซ้ำซ้อนและดูแลไม่ได้ ดิฉันจะได้ไปพูดคุยกับทางผู้ปกครองเด็กในวันพรุ่งนี้เพื่อช่วยเหลือเด็กอย่างเต็มที่เพราะเห็นว่าหากเด็กอยู่กับกระทรวงน่าจะปลอดภัยกว่า” ผช.รมว.พม.กล่าว

ด้าน นางบุญมี แสวงธรรม หัวหน้าสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสระบุรี (พม.จ.สระบุรี) เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านั้นผู้เป็นแม่ของผู้พิการแจ้งความจำนงว่าคิดถึงลูกจึงติดต่อขอรับตัวกลับไปเลี้ยงดูเองซึ่งขั้นตอนในการตรวจสอบว่าผู้ปกครองมีศักยภาพในการดูแลหรือไม่นั้นคงต้องเป็นเรื่องของสถานสงเคราะห์ผู้พิการ ส่วนนอกจากเบี้ยยังชีพที่ผู้พิการได้รับเดือนละ 500 บาทแล้วผู้พิการยังได้รับเงินสงเคราะห์เป็นเงินก้อนอีก ปีละ 2000 บาท

“ภายหลังที่ได้ทราบข่าวว่าผู้พิการถูกข่มขืนหลังจากนั้นเราก็พานำตัวส่งโรงพยาบาล ตอนนั้นในช่วงเดือนมิถุนายนแพทย์ระบุว่าตั้งครรภ์ได้ 5 เดือนแล้วทาง พม.จึงให้คำแนะนำในเรื่องของการดำเนินการขั้นต่อไปแต่แม่เด็กยืนยันจะรับเด็กไว้ดูแลเองเช่นเดิม ส่วนเรื่องหลานในท้องก็จะหารืออีกครั้งหนึ่ง ตรงนี้เราก็ต้องเคารพสิทธิของผู้เป็นแม่ที่เขาตัดสินใจ จนกระทั่งมีคนไปร้องมูลนิธิปวีณาตอนนี้เราก็ส่งเจ้าหน้าที่ไปดูแลอีกครั้งและช่วยให้คำแนะนำ ตลอดจนตามติดในการตรวจดีเอ็นเอหาผู้กระทำผิด” พมจ.สระบุรีกล่าว