xs
xsm
sm
md
lg

สธ.ย้ำไม่ประมาทหวัด 09 เผยติดเชื้อเฉียด 6 ล้านราย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สธ. ยันห้ามประมาท หวัด 2009 ไทยติดเชื้อแล้ว 5.7 ล้านคน ป่วย 4 ล้านคน ตาย 3.5 ต่อแสนคน ยอดเสียชีวิตทั่วโลก 2 พันกว่าศพ จับมือ สสส.-สมาคมรถตู้ฯ จัดโครงการ “รถตู้ร่วมใจ รวมพลังสู้หวัด 2009” ด้าน “หมอมงคล” ย้ำสำคัญผู้ใช้บริการไม่ต่ำกว่า 1 ล้าน 6 แสนคนต่อวัน วิ่งไกล 32 จังหวัด

วันที่ 24 กันยายน ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ คณะอนุกรรมการสนับสนุนป้องกัน ควบคุม และการแก้ปัญหาการแพร่ระบาด ของไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) องค์การเภสัชกรรม (อภ.) จัดโครงการ “รถตู้ร่วมใจ รวมพลังสู้หวัด 2009” โดย นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า รายงานล่าสุดจากองค์การอนามัยโลก ระบุว่าตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัด 2009 ในเดือน พ.ค.-ส.ค.ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิต 2,185 คน ขณะที่สถานการณ์ในไทยมีผู้ติดเชื้อ 5.7 ล้านคน ในจำนวนนี้มีอาการป่วย 4 ล้านคน เสียชีวิต 141 ราย คิดเป็นอัตราการป่วยตาย 3.5 รายต่อแสนคน

“ผมจึงขอย้ำว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัด 2009 ยังไม่สิ้นสุด ทั้งในต่างประเทศและในประเทศไทย ดังนั้น การรณรงค์ป้องกันต้องทำอย่างต่อเนื่อง ประมาทไม่ได้ โดยเฉพาะทุกสถานที่ๆมีประชาชนร่วมกันอยู่จำนวนมาก รวมถึงระบบขนส่งมวลชน ซึ่งน่ายินดีที่ สสส.ได้จับมือกับพี่น้องผู้ให้บริการรถตู้ จัดโครงการ “รถตู้ร่วมใจ รวมพลังสู้หวัด 2009” เพื่อให้ผู้บริการรถตู้ เป็นอีกหนึ่งพลังสำคัญ ในการรณรงค์ป้องกันไข้หวัด 2009 โดยรถตู้ที่ให้บริการทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และจังหวัดใกล้เคียง มีประมาณ 30,000 คัน มีผู้ใช้บริการไม่ต่ำกว่า 1 ล้าน 6 แสนคนต่อวัน”นายวิทยา กล่าว

นพ.มงคล ณ สงขลา ประธานคณะอนุกรรมการฯ กล่าวว่า โครงการ “รถตู้ร่วมใจ ร่วมพลังสู้หวัด 2009” จะเริ่มนำร่องกับสมาคมธุรกิจรถตู้กรุงเทพฯ-ต่างจังหวัด จำนวน 3,779 คัน จากนั้นจะขยายให้ครอบคลุมรถตู้ทั้ง 30,000 คัน ซึ่งในจำนวนนี้ 6,700 คัน วิ่งในเส้นทางกรุงเทพฯ อีก 23,000 คัน วิ่งในเส้นทางกรุงเทพฯ-ต่างจังหวัด จำนวน 139 เส้นทาง ครอบคลุม 32 จังหวัด อาทิ สิงห์บุรี ลพบุรี ระยอง เพชรบูรณ์ พิจิตร รถตู้จึงถือเป็นหนึ่งในระบบขนส่งมวลชนที่มีความสำคัญ มีประชาชนใช้บริการทุกเพศ ทุกวัย บางเส้นทางต้องใช้เวลาเดินทางร่วมกันนานกว่า 1-2 ชม. โดยไม่มีการถ่ายเทระบายอากาศภายในรถ จึงต้องดูแลสุขภาพของผู้ขับขี่และรถตู้ให้ถูกสุขลักษณะ

นพ.มงคล กล่าวอีกว่า มาตรการสำคัญผู้ให้บริการรถตู้จะร่วมใจกันสู้หวัด 2009 คือ 1.คนขับปลอดภัย หากผู้ขับรถตู้มีอุณหภูมิสูงกว่า 38 องศาฯ จะหยุดปฏิบัติงานทันที 2.รถปลอดภัย เช็ดทำความสะอาดรถด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคทุกวัน 3.ผู้โดยสารปลอดภัย เพราะคนขับสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และล้างมือบ่อยๆ อย่างถูกวิธี 4.จุดเสี่ยงปลอดภัย หมั่นทำความสะอาดจุดสัมผัสร่วม เช่น ที่เปิดประตู พวงมาลัย เบาะ 5.อากาศปลอดภัย หลังส่งผู้โดยสารจะเปิดกระจกรถ ให้อากาศถ่ายเทและแสงเข้า เพื่อฆ่าเชื้อโรค นอกจากนี้คณะอนุกรรมการฯ จะสนับสนุนสื่อสื่อรณรงค์ป้องกันไข้หวัด 2009 ด้วย เพื่อติดตั้งทั้งในรถตู้และนอกรถตู้ด้วย

นพ.วิทิต อรรถเวชกุล ผอ.องค์การเภสัชกรรม กล่าวว่า อภ.จะมอบเจลล้างมือขนาดใหญ่ 1 ขวด ให้กับรถตู้ที่เข้าร่วมโครงการ และจะสนับสนุนให้จำหน่ายเจลล้างมือ หน้ากากอนามัย บนรถตู้เพื่อความสะดวกและให้เข้าถึงประชาชนมากที่สุด โดยจะจำหน่ายเจลล้างมือหลอดใหญ่ขนาด 50 กรัม ในราคา 25 บาท หน้ากากอนามัยชนิดกระดาษ 4 ชิ้น 10 บาท และหน้ากากอนามัยชนิดผ้าชิ้นละ 10 บาท พร้อมทั้งจัดทำป้ายแขวนเพื่อให้ความรู้เรื่องหวัด 2009 ติดตั้งในรถตู้ ซึ่งรถตู้ที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่หมายเลข

จากนั้น นายวิทยา นพ.มงคล และ นพ.วิทิต ได้ร่วมกันสาธิตวิธีการทำความสะอาดรถตู้ ด้วยการทำความสะอาดกระจกรถด้านหน้า และใช้สเปรย์ฆ่าเชื้อโรคก่อนเช็ดล้างทำความสะอาดเบาะที่นั่งคนขับและผู้โดยสาร จากนั้นได้ร่วมกันปล่อยขบวน “รถตู้ร่วมใจ รวมพลังสู้หวัด 2009” จำนวน 30 คัน เพื่อวิ่งรณรงค์ในบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
กำลังโหลดความคิดเห็น