ข่าวดี! อภ.ไทยเผยวัคซีนไข้หวัด 2009 เพาะเชื้อล็อต 2 ได้ปริมาณเชื้อจำนวนมาก เตรียมคัดเลือกอาสาสมัครให้เหลือ 40 คน เพื่อเริ่มทดลองวัคซีนในคน วันที่ 21 ก.ย.นี้ เล็งหาไข่ไก่ปลอดเชื้อในประเทศ โดยขอ FDA วางเกณฑ์ก่อนหารือ “สหฟาร์ม-ซีพี-เบทาโกร” ผลิตไข่ไก่ปลอดเชื้อเพื่อผลิตวัคซีน
นพ.วิชัย โชติวิวัฒน ประธานกรรมการองค์การเภสัชกรรม กล่าวว่า ขณะนี้ทราบผลปริมาณวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 หรือไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่ได้ 8.32-9.33 ล็อก จากนั้นจะนำมาทดสอบความปลอดภัย และแบ่งเป็น 2 ขนาด คือ 6.5 และ 7.5 เพื่อนำมาทดลองในอาสาสมัคร จำนวน 24 คน ในวันที่ 21 กันยายน ซึ่งเท่ากับล่าช้าไปเพียง 2 สัปดาห์ จากกำหนดการเดิมที่จะทำการทดลองในอาสาสมัคร 12 คนในวันที่ 7 กันยายน ทั้งนี้ ในการทดลองกับมนุษย์จะใช้วัคซีนล็อตที่ 2 ส่วนล็อตแรก ซึ่งอยู่ระหว่างการทดสอบในสัตว์ทดลอง จะไม่มีการนำผลผลิตจากล็อตแรกมาใช้
“ขณะนี้คณะกรรมการวิจัยในคนของกระทรวงสาธารณสุข และของมหาวิทยาลัยมหิดล อนุมัติให้มีการทดลองในเฟสแรกเรียบร้อยแล้ว สามารถเริ่มคัดเลือกอาสาสมัครโดยการตรวจคัดกรอง โดยการตรวจร่างกาย เจาะเลือด และให้ผู้ที่ไม่เคยมีประวัติเป็นโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่มาก่อน โดยจะคัดเลือกให้เหลืออาสาสมัครจำนวน 40 คน จากผู้สมัครจำนวนมาก จากนั้นจึงจะทดลองให้วัคซีน” นพ.วิชัยกล่าว
นพ.วิชัย กล่าวอีกว่า ถือเป็นข่าวดีมากที่ในล็อตการเพาะเชื้อในล็อตที่ 2 ได้ปริมาณวัคซีนจำนวนมาก จากเดิมที่มีปัญหาได้ปริมาณวัคซีนน้อย เนื่องจากปัญหาทางเทคนิคก็สามารถปรับปรุงแก้ไขได้ โดยการเพาะเชื้อในไข่ฟักด้วยระยะเวลาที่นานขึ้น คาดว่าในการผลิตวัคซีนล็อตต่อๆ ไป น่าจะได้ปริมาณวัคซีนมากถึง 10 ล็อก หรือจะได้เชื้อประมาณ 10,000 ล้านตัวต่อซีซี และสามารถนำมาใช้ผลิตวัคซีนได้จำนวนมาก โดยขณะนี้ล็อตที่ 3 อยู่ระหว่างเริ่มผลิต แต่ปัญหาขณะนี้คือ ไข้ไก่ปลอดเชื้อไม่เพียงพอ เพราะอยู่ระหว่างการขนส่ง โดยขณะนี้พยายามหาไข่ไก่ปลอดเชื้อจากประเทศอื่น รวมถึงให้สามารถผลิตในประเทศได้เอง อย่างไรก็ตามจะต้องมีกำหนดเกณฑ์ และศึกษาไข่ไก่ที่ผลิตในประเทศไทย
“ขณะนี้ได้ติดต่อสำนักง่านอาหารและยา (FDA) ของประเทศสหรัฐอเมริกา รวมถึงองค์การอนามัยโลกให้มีการตรวจสอบคุณภาพของไข่อย่างใกล้ชิด จากนั้นจะนำเกณฑ์ดังกล่าวหารือกับผู้ผลิตไข่ไก่ของไทยทั้ง 3 ราย คือ สหฟาร์ม ซีพี และเบทาโกร ซึ่งขณะนี้ได้มีการนำเข้าไข่ไก่ปลอดเชื้อจากประเทศเยอรมนีเพื่อนำมาใช้ผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 2009 แล้ว จำนวน 4,500 ฟอง”ประธานกรรมการองค์การเภสัชกรรม กล่าว
นพ.วิชัย โชติวิวัฒน ประธานกรรมการองค์การเภสัชกรรม กล่าวว่า ขณะนี้ทราบผลปริมาณวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 หรือไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่ได้ 8.32-9.33 ล็อก จากนั้นจะนำมาทดสอบความปลอดภัย และแบ่งเป็น 2 ขนาด คือ 6.5 และ 7.5 เพื่อนำมาทดลองในอาสาสมัคร จำนวน 24 คน ในวันที่ 21 กันยายน ซึ่งเท่ากับล่าช้าไปเพียง 2 สัปดาห์ จากกำหนดการเดิมที่จะทำการทดลองในอาสาสมัคร 12 คนในวันที่ 7 กันยายน ทั้งนี้ ในการทดลองกับมนุษย์จะใช้วัคซีนล็อตที่ 2 ส่วนล็อตแรก ซึ่งอยู่ระหว่างการทดสอบในสัตว์ทดลอง จะไม่มีการนำผลผลิตจากล็อตแรกมาใช้
“ขณะนี้คณะกรรมการวิจัยในคนของกระทรวงสาธารณสุข และของมหาวิทยาลัยมหิดล อนุมัติให้มีการทดลองในเฟสแรกเรียบร้อยแล้ว สามารถเริ่มคัดเลือกอาสาสมัครโดยการตรวจคัดกรอง โดยการตรวจร่างกาย เจาะเลือด และให้ผู้ที่ไม่เคยมีประวัติเป็นโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่มาก่อน โดยจะคัดเลือกให้เหลืออาสาสมัครจำนวน 40 คน จากผู้สมัครจำนวนมาก จากนั้นจึงจะทดลองให้วัคซีน” นพ.วิชัยกล่าว
นพ.วิชัย กล่าวอีกว่า ถือเป็นข่าวดีมากที่ในล็อตการเพาะเชื้อในล็อตที่ 2 ได้ปริมาณวัคซีนจำนวนมาก จากเดิมที่มีปัญหาได้ปริมาณวัคซีนน้อย เนื่องจากปัญหาทางเทคนิคก็สามารถปรับปรุงแก้ไขได้ โดยการเพาะเชื้อในไข่ฟักด้วยระยะเวลาที่นานขึ้น คาดว่าในการผลิตวัคซีนล็อตต่อๆ ไป น่าจะได้ปริมาณวัคซีนมากถึง 10 ล็อก หรือจะได้เชื้อประมาณ 10,000 ล้านตัวต่อซีซี และสามารถนำมาใช้ผลิตวัคซีนได้จำนวนมาก โดยขณะนี้ล็อตที่ 3 อยู่ระหว่างเริ่มผลิต แต่ปัญหาขณะนี้คือ ไข้ไก่ปลอดเชื้อไม่เพียงพอ เพราะอยู่ระหว่างการขนส่ง โดยขณะนี้พยายามหาไข่ไก่ปลอดเชื้อจากประเทศอื่น รวมถึงให้สามารถผลิตในประเทศได้เอง อย่างไรก็ตามจะต้องมีกำหนดเกณฑ์ และศึกษาไข่ไก่ที่ผลิตในประเทศไทย
“ขณะนี้ได้ติดต่อสำนักง่านอาหารและยา (FDA) ของประเทศสหรัฐอเมริกา รวมถึงองค์การอนามัยโลกให้มีการตรวจสอบคุณภาพของไข่อย่างใกล้ชิด จากนั้นจะนำเกณฑ์ดังกล่าวหารือกับผู้ผลิตไข่ไก่ของไทยทั้ง 3 ราย คือ สหฟาร์ม ซีพี และเบทาโกร ซึ่งขณะนี้ได้มีการนำเข้าไข่ไก่ปลอดเชื้อจากประเทศเยอรมนีเพื่อนำมาใช้ผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 2009 แล้ว จำนวน 4,500 ฟอง”ประธานกรรมการองค์การเภสัชกรรม กล่าว
