สธ.แนะประชาชนในพื้นที่ชนบทเข้มป้องกันหวัด 2009 สั่งการทุกจังหวัดใช้มาตรการ 2 ลด คือ “ลดการติดเชื้อ-ลดการเสียชีวิต” และ 3 เร่งคือ “ค้นหาผู้ป่วย-ให้ความรู้-บริหารจัดการ”
นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยความคืบหน้าสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ว่า ขณะนี้แนวโน้มการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ฯ แพร่กระจายจากเขตเมืองสู่ชนบทตามจังหวัดต่างๆมากขึ้น สธ.ได้ให้ทุกจังหวัดดำเนินการตามมาตรการ 2 ลด คือ ลดการติดเชื้อและป่วยให้มากที่สุด ลดการเสียชีวิตให้มากที่สุด และ 3 เร่ง คือ เร่งให้ อสม.ทุกหมู่บ้านค้นหาผู้ป่วยในความรับผิดชอบคนละ 10-15 หลังคาเรือน ทุกวันจันทร์ พุธ และศุกร์ เร่งเผยแพร่ความรู้แก่ประชาชนในการป้องกันตนเอง และเร่งรัดการบริหารจัดการความร่วมมือของทุกฝ่ายทั้งในส่วนกลาง ภูมิภาคและท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง
นพ.สุพรรณ กล่าวด้วยว่า พร้อมกันนี้ได้เปิดสายด่วนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ ให้บริการคำปรึกษาแนะนำประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง ทางโทรศัพท์หมายเลข 1422 และ 0-2590-3333 ประชาชนที่มีข้อสงสัยสามารถโทร.สอบถามได้ทันที จากการประเมินผลในช่วงวันที่ 17-23 สิงหาคม 2552 มีประชาชนโทร.สอบถามทั้งหมด 6,486 ครั้ง เฉลี่ยชั่วโมงละ 39 ครั้ง ประเด็นที่ยังสอบถามและขอรับคำปรึกษามากที่สุดยังเป็นเรื่องของข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ เช่น อาการของโรค การติดต่อ การป้องกัน และการรักษา
โฆษก สธ.กล่าวว่า ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 วิธีที่ดีที่สุดคือการหลีกเลี่ยงการรับเชื้อ และรักษาสุขภาพให้สมบูรณ์แข็งแรง โดยออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ไข่ นม ผัก ผลไม้ที่มีวิตามินซีมาก เช่น ฝรั่ง มะขามป้อม นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการคลุกคลีกับผู้ที่มีอาการไข้หวัด งดสูบบุหรี่ งดดื่มเครื่องดื่มมึนเมา ขอให้ประชาชนหมั่นล้างมือบ่อยๆด้วยสบู่หรือใช้เจลแอลกอฮอล์ ภายหลังไอจาม หรือภายหลังสัมผัสสิ่งของที่มีผู้ใช้ร่วมกันเช่น ลูกบิดประตู ราวบันได มือจับตู้เย็น เป็นต้น โดยเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ มีชีวิตอยู่ที่มือได้นานประมาณ 5 นาที และมีชีวิตอยู่ตามพื้นผิวและสิ่งของเครื่องใช้ได้นานอย่างน้อย 2 ถึง 8 ชั่วโมง ขึ้นกับสภาวะแวดล้อม หากความชื้นต่ำ อากาศแห้งและเย็น เชื้อจะอยู่ได้นานขึ้น ผู้ที่มีอาการป่วยเป็นไข้หวัด ขอความร่วมมือให้หยุดพักอยู่บ้าน 7 วันจนหายป่วย และคาดหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่ไปติดคนอื่น