“สุขุมพันธุ์” เตรียมตั้งคณะกรรมการ ป.ป.ช.กทม.2 ชุดทั้งชุดใหญ่-เล็ก เชิญอดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ-คตส.-ป.ป.ช.-อดีตอธิบกรมตำรวจ นั่งแทนชุดใหญ่ ฟันข้าราชการ กทม.ทุจริตคอร์รัปชัน สร้างความโปร่งใส คาดตรวจสอบหน่วยงานแรกการพาณิชย์ กทม.
นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ตนได้เข้าหารือกับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.ถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาความไม่โปร่งใสในการบริหารราชการ กทม.ซึ่งท่านผู้ว่าฯ เห็นควรที่จะให้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการ กทม.ในหน่วยงานต่างๆ ของกทม.ซึ่งจะทำหน้าที่เหมือนกับคณะกรรมการปปช.แต่จะตรวจสอบเฉพาะ กทม.เท่านั้น โดยอาจจะเริ่มจากหน่วยงานด้านการพาณิชย์ของ กทม.ก่อน ทั้งนี้ เพื่อเน้นย้ำในเรื่องการบริหารงานอย่างโปร่งใส และแสดงความเอาจริงเอาจังในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชันขึ้นในองค์กร
สำหรับคณะกรรมการ ป.ป.ช.กทม.นั้น จะเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งจะได้เชิญอดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) อดีตอธิบดีกรมตำรวจ อดีตคณะกรรมการ ป.ป.ช.เป็นต้น ซึ่งผู้ว่าฯ กทม.จะลงนามแต่งตั้งในสัปดาห์นี้ นอกจากนี้ จะมีการตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาโดยจะมอบหมายให้รองปลัด กทม.ที่เกี่ยวกับเป็นประธานคณะทำงานอีกด้วย
ขณะที่นายธราดล เปี่ยมพงศ์สานต์ ที่ปรึกษาและโฆษก กทม.เปิดเผยว่า บุคคลที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งป.ป.ช.กทม.นั้น ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ เป็นผู้ที่ทาบทามด้วยตัวเอง ซึ่งบุคคลส่วนใหญ่จะเป็นคนนอกที่เคยผ่านงานด้านการตรวจสอบมาก่อน ทั้งนี้ คาดว่า จะทาบทามและลงนามแต่งตั้งได้ภายในสัปดาห์นี้
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับคณะกรรมการ ป.ป.ช.กทม.นั้น จะมีทั้งหมด 7 คน โดยเป็นบุคคลภายนอกองค์กร กทม.จำนวน 4 คน ซึ่งมีผู้ที่ตอบตกลงเข้าร่วมแล้ว คือ 1.พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร รองประธาน และ 2.ดร.จุรี วิจิตรวาทการ เลขาธิการองค์กรเพื่อความโปร่งใสในประเทศไทย ส่วนอีก 2 คนที่เหลือนั้น ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ จะเป็นผู้ที่ทาบทามด้วยตัวเอง และเป็นบุคคลภายใน 3 คน ประกอบด้วย 1.นายเจริญรัตน์ ชูติกาญจน์ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานคร ให้ดำรงตำแหน่งเลขานุการคณะกรรมการ ป.ป.ช.กทม.2.นายกฤษฎา กลันทานนท์ ผอ.สำนักงานกฎหมายและคดี และ 3.น.ส.ปัทมา รุ่งเรือง ผู้อำนวยการสำนักงานตรวจสอบภายใน เป็นผู้ช่วยเลขานุการ นอกจากนั้นแล้ว ยังมีนักกฎหมายอีก2 คน คือ 1.นายอิสสระ นิติทัณฑ์ประภาศ อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ 2.นายสุจิต บุญบงการ ประธานสภาพัฒนาการเมือง และอาจารย์ประจำภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ยินดีที่จะร่วมเป็นที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิด้วย
นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ตนได้เข้าหารือกับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.ถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาความไม่โปร่งใสในการบริหารราชการ กทม.ซึ่งท่านผู้ว่าฯ เห็นควรที่จะให้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการ กทม.ในหน่วยงานต่างๆ ของกทม.ซึ่งจะทำหน้าที่เหมือนกับคณะกรรมการปปช.แต่จะตรวจสอบเฉพาะ กทม.เท่านั้น โดยอาจจะเริ่มจากหน่วยงานด้านการพาณิชย์ของ กทม.ก่อน ทั้งนี้ เพื่อเน้นย้ำในเรื่องการบริหารงานอย่างโปร่งใส และแสดงความเอาจริงเอาจังในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชันขึ้นในองค์กร
สำหรับคณะกรรมการ ป.ป.ช.กทม.นั้น จะเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งจะได้เชิญอดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) อดีตอธิบดีกรมตำรวจ อดีตคณะกรรมการ ป.ป.ช.เป็นต้น ซึ่งผู้ว่าฯ กทม.จะลงนามแต่งตั้งในสัปดาห์นี้ นอกจากนี้ จะมีการตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาโดยจะมอบหมายให้รองปลัด กทม.ที่เกี่ยวกับเป็นประธานคณะทำงานอีกด้วย
ขณะที่นายธราดล เปี่ยมพงศ์สานต์ ที่ปรึกษาและโฆษก กทม.เปิดเผยว่า บุคคลที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งป.ป.ช.กทม.นั้น ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ เป็นผู้ที่ทาบทามด้วยตัวเอง ซึ่งบุคคลส่วนใหญ่จะเป็นคนนอกที่เคยผ่านงานด้านการตรวจสอบมาก่อน ทั้งนี้ คาดว่า จะทาบทามและลงนามแต่งตั้งได้ภายในสัปดาห์นี้
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับคณะกรรมการ ป.ป.ช.กทม.นั้น จะมีทั้งหมด 7 คน โดยเป็นบุคคลภายนอกองค์กร กทม.จำนวน 4 คน ซึ่งมีผู้ที่ตอบตกลงเข้าร่วมแล้ว คือ 1.พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร รองประธาน และ 2.ดร.จุรี วิจิตรวาทการ เลขาธิการองค์กรเพื่อความโปร่งใสในประเทศไทย ส่วนอีก 2 คนที่เหลือนั้น ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ จะเป็นผู้ที่ทาบทามด้วยตัวเอง และเป็นบุคคลภายใน 3 คน ประกอบด้วย 1.นายเจริญรัตน์ ชูติกาญจน์ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานคร ให้ดำรงตำแหน่งเลขานุการคณะกรรมการ ป.ป.ช.กทม.2.นายกฤษฎา กลันทานนท์ ผอ.สำนักงานกฎหมายและคดี และ 3.น.ส.ปัทมา รุ่งเรือง ผู้อำนวยการสำนักงานตรวจสอบภายใน เป็นผู้ช่วยเลขานุการ นอกจากนั้นแล้ว ยังมีนักกฎหมายอีก2 คน คือ 1.นายอิสสระ นิติทัณฑ์ประภาศ อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ 2.นายสุจิต บุญบงการ ประธานสภาพัฒนาการเมือง และอาจารย์ประจำภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ยินดีที่จะร่วมเป็นที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิด้วย