อภ.เผยปริมาณเชื้อจากไข่ต่ำกว่าเป้า ส่งคำถามถึงฮูแต่ส่อเค้านับหนึ่งใหม่

อภ.เผยปริมาณเชื้อที่เก็บได้จากไข่ผลิตได้ต่ำกว่าเป้า ส่งผลอาจเลื่อนการทดลองในคนออกไปอีก 2 เดือนซึ่งอาจไม่ทันการระบาดของโรค ส่งคำถามถึงฮู ศึกษาความเป็นไปได้ในการลดปริมาณวัคซีนลง หากไม่ได้จำเป็นต้องนับหนึ่งใหม่ ระบุรัสเซีย สหรัฐฯ เจอปัญหาเดียวกัน

นพ.วิชัย โชควิวัฒน ประธานคณะกรรมการบริหารองค์การเภสัชกรรม (อภ.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 ว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการขอคำปรึกษาผู้เชี่ยวชาญขององค์การอนามัยโลก (WHO) ชาวเบลเยียมที่ อภ.จ้าง และผู้เชี่ยวชาญขององค์การอนามัยโลก เนื่องจากปริมาณเชื้อที่สามารถเก็บเกี่ยวได้ 6.7 ล็อก ซึ่งในการทดลองจะต้องใช้ 2 ขนาดคือ 6.5 ล็อก กับ 7.5 ล็อก เมื่อผลไม่เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ จึงได้หารือใน 2 ประเด็น คือ 1. จะมีการผลิตวัคซีนโดยเริ่มใหม่ทั้งหมด ซึ่งต้องรออีก 1-2 เดือนจึงจะเริ่มทดลองใหม่ได้ 2. จะมีการปรับขนาดของปริมาณวัคซีนลงตามผลผลิตที่ได้ ซึ่งแนวโน้มไม่อยากเลือกการทดลองใหม่เพราะจะได้วัคซีนช้า ซึ่งคือเดือนธันวาคมจากที่ตั้งเป้าไว้ว่าจะสามารถทดลองในคนได้ในวันที่ 4 ก.ย. และอาจจะไม่ทันกับการระบาดของโรคด้วย โดยการวิจัยในครั้งนี้จะทดลองกับอาสาสมัครจำนวน 24 คนเท่านั้น ตนคิดว่าการปรับขนาดวัคซีนลดลงน่าจะเป็นแนวทางที่ดีกว่าการเริ่มผลิตใหม่ทั้งหมด ซึ่งในการทดลองจะมีการใช้ปริมาณวัคซีนที่ใช้กับคนจำนวนเท่าใด WHOจะเป็นผู้ให้คำตอบ

“ได้ส่งคำถามนี้ไปยังองค์การอนามัยโลกเมื่อเที่ยงวันนี้ แต่ไม่รู้ว่าคำตอบจะออกมาเป็นอย่างไร แต่คาดว่าจะได้คำตอบภายใน 2-3 วัน ถ้าเป็นคำตอบว่าต้องทดลองใหม่ก็จำเป็นต้องทำ แม้ว่าจะช้าไป ซึ่งการทดลองครั้งนี้ของไทยเป็นครั้งแรกมีปัญหาเฉพาะหน้าให้แก้ไขตลอดเวลา และยังมีความรู้จำกัด และมีเวลาทำการทดลองน้อย ซึ่งหากมีเวลามากกว่านี้ก็สามารถจะแก้ไขปัญหาทุกอย่างได้ ซึ่งที่ผ่านมาแต่ละขั้นตอนก็ผ่านไปตามที่กำหนดแต่ครั้งนี้เราเจอสิ่งที่ควบคุมไม่ได้” นพ.วิชัย กล่าว

ประธาน อภ.กล่าวอีกว่า สำหรับการปรับลดขนาดวัคซีนลง หากผลออกมาว่าปริมาณ 6.5 ล็อก ก็สามารถใช้กระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ก็ไม่มีปัญหา และยังมีเวลาสำหรับการทดลองกับอาสาสมัครในระยะที่ 2 จำนวน 400 คนด้วย ส่วนความคืบหน้าในการผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ในต่างประเทศเท่าที่ตนทราบคือ การผลิตวัคซีนจากเชื้อตายมีปัญหาเช่นกัน โดยสามารถผลิตได้ 25 เปอร์เซ็นต์ ของเชื้อไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ดังนั้น สาเหตุที่ผลิตปริมาณวัคซีนได้น้อย อาจจะมาจากธรรมชาติของเชื้อที่กระตุ้นการสร้างวัคซีนได้ไม่ดี และขณะนี้กำลังหาวิธีในการแก้ไขอยู่ ส่วนการผลิตวัคซีนจากเชื้อเป็นซึ่งทั่วโลกมี 3 แห่ง คือ สหรัฐอเมริกา รัสเซีย และไทยนั้น ในสหรัฐอเมริกาไม่ทราบว่าการผลิตเมื่อเทียบกับวัคซีนตามฤดูกาลไม่ทราบว่าผลเป็นอย่างไร เพราะการทดลองผลิตวัคซีนเป็นคนละเทคนิคกับของไทย ส่วนในรัสเซียผลออกมาในลักษณะกับของไทยคือ ได้ปริมาณวัคซีนน้อย

ทั้งนี้ สาเหตุที่ปริมาณวัคซีนน้อยอาจมาจาก 4 ปัจจัย ได้แก่ 1.การเพาะเชื้อจากไข่ ในการทดลองพบว่า ไข่ปลอดเชื้อจากประเทศเยอรมนีเมื่อเปรียบเทียบกับไข่สะอาดของไทยพบว่า การเพาะเชื้อในไข่สะอาดมีมากกว่าเกือบ 2 เท่า 2.เป็นธรรมชาติของเชื่อไวรัสไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่ไม่สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกัน 3.หัวเชื้อไวรัส ที่ได้มาจากต่างประเทศ 4.เทคนิคในการผลิตวัคซีน ซึ่งยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่าจาก 4 ปัจจัยดังกล่าวข้อใดคือสาเหตุหลักเนื่องจากไม่มีประสบการณ์