เอแบคโพลเผยผลสำรวจกรณี “หวย” ระบุตัวอย่างกว่า90%มองทั้งหวยรัฐและใต้ดินเป็นเรื่องปกติ และกว่า 2 ใน 3 หรือ 71.4% เคยมีประสบการณ์การซื้อหวย ส่วนแรงจูงใจส่วนใหญ่เกินครึ่งระบุ “ชอบลุ้น” ส่วนชนิดของหวยนั้นปรากฏว่า “หวยรัฐ” ยังครองใจ
ดร.นพดล กรรณิการ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเอแบคนวัตกรรมทางสังคม การจัดการและธุรกิจ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยเรื่อง ประสบการณ์และพฤติกรรมการเล่นหวยของประชาชน : กรณีศึกษาประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ใน 17 จังหวัดของประเทศ ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร แม่ฮ่องสอน พิจิตร ลำปาง เชียงราย สมุทรสาคร ลพบุรี นครปฐม ชลบุรี อำนาจเจริญ หนองคาย สกลนคร ศรีสะเกษ อุดรธานี ขอนแก่น ชุมพร และสงขลา จำนวนทั้งสิ้น 1,199 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 17 กรกฎาคม - 15 สิงหาคม 2552 ผลการสำรวจพบว่าตัวอย่างร้อยละ 77.1 ระบุติดตามข่าวสารผ่านสื่อมวลชนเป็นประจำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 วัน ในขณะที่ร้อยละ 11.5 ระบุติดตามเป็นบางสัปดาห์ และร้อยละ 11.4 ระบุไม่ได้ติดตามเลย
เมื่อสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับการซื้อหวย ทั้งสลากกินแบ่งรัฐบาล และหวยใต้ดินนั้น พบว่า ตัวอย่างส่วนใหญ่มากกว่าร้อยละ 90 คิดว่าการซื้อหวยเป็นเรื่องปกติธรรมดาในสังคมไทย ในขณะที่มีเพียงร้อยละ 4.7 เท่านั้น ที่ไม่คิดว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดา
ดร.นพดล กล่าวต่อว่า ตัวอย่างส่วนใหญ่คือร้อยละ 85.2 เคยได้ยินข่าวชาวบ้านไปขอเลขเด็ดจากแหล่งต่างๆ อาทิ พระ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือร่างทรง ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ในขณะที่ร้อยละ 14.8 ระบุไม่เคยได้ยินข่าว อย่างไรก็ตามเมื่อสอบถามความคิดเห็นว่าเมื่อได้ยินข่าวคนได้เลขเด็ดมาแล้วมีส่วนทำให้ตนเองอยากเล่นหวยหรือไม่นั้น พบว่า ประมาณ 2 ใน 3 คือร้อยละ 60.9 ระบุไม่มีส่วนทำให้อยากเล่นหวยเลย
นอกจากนี้ เมื่อสอบถามถึงประสบการณ์ในการซื้อหวยทั้งหวยรัฐบาล/หวยใต้ดินนั้นพบว่ามากกว่า 2 ใน 3 คือร้อยละ 71.4 เคยซื้อหวย (อย่างน้อย 1 ครั้งในชีวิต) ในขณะที่ร้อยละ 28.6 ระบุไม่เคยซื้อหวยเลย ทั้งนี้เมื่อสอบถามถึงเหตุผลที่ซื้อหวยนั้นพบว่า ร้อยละ 59.2 ระบุชอบลุ้น/ตื่นเต้น รองลงมาคือร้อยละ 54.7 ระบุซื้อเพื่อช่วยเหลือสังคม ร้อยละ 52.9 ระบุหวังรวยทางลัด ร้อยละ 46.3 ระบุซื้อเพื่อคลายเครียด ร้อยละ 45.0 ระบุเป็นความชอบส่วนตัว ร้อยละ 43.0 ระบุคนใกล้ชิด เช่นพ่อ แม่ ญาติพี่น้อง หรือคนรอบข้างซื้อเลยซื้อตาม
และเมื่อสอบถามความคิดเห็นต่อการเล่น/ซื้อหวยรัฐบาลเปรียบเทียบกับหวยใต้ดินนั้นพบว่า ร้อยละ 64.7 ระบุชอบเล่น/ซื้อหวยรัฐบาลมากกว่า ในขณะที่ร้อยละ 21.4 ระบุชอบเล่น/ซื้อหวยใต้ดินมากกว่า และร้อยละ 13.9 ระบุชอบพอๆ กัน
ดร.นพดลกล่าวว่า ประเด็นสำคัญที่น่าพิจารณาอย่างยิ่งที่ค้นพบจากการสำรวจในครั้งนี้คือเมื่อสอบถามถึงจำนวนครั้งที่เคยซื้อหวยเปรียบเทียบกับจำนวนครั้งที่ถูกรางวัลพบว่า ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมานี้ จำนวนครั้งโดยเฉลี่ยที่ซื้อหวยเท่ากับ 8.40 ครั้ง ในขณะที่เคยถูกรางวัลมีเพียง 1.06 ครั้งเท่านั้น
และเมื่อสอบถามต่อไปถึงการได้รับเลขเด็ดจากแหล่งต่างๆ ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาพบว่า ร้อยละ 96.2 ระบุได้เลขเด็ดจากสัตว์ที่มีรูปร่างแปลกประหลาดผิดธรรมชาติ และได้จากวัตถุแปลกประหลาด ร้อยละ 93.6 ระบุได้จากร่างทรง (คนทรงเจ้า-เข้าผี) ร้อยละ 93.0 ระบุได้จากต้นไม้ใหญ่หรือพืชพันธุ์แปลกๆ ร้อยละ 91.9 ระบุได้จากอาจารย์ใบ้หวย ร้อยละ 91.1 ระบุได้จากศาลเจ้าพ่อ เจ้าแม่ ผู้ล่วงลับ ร้อยละ 88.2 ระบุได้จากการบูชาวัตถุบางอย่าง ร้อยละ 86.7 ระบุได้จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ร้อยละ 83.4 ระบุได้จากพระ นอกจากนี้ยังมีแหล่งเลขเด็ดอื่นๆ อาทิ จากเด็กเล็ก /บุตรหลาน จากหนังสือพิมพ์/สิ่งพิมพ์เกี่ยวกับหวย และเลขเด็ดจากทะเบียนรถ ตามลำดับ
ทั้งนี้ เมื่อสอบถามถึงการถูกรางวัลจากเลขเด็ดที่ได้มาพบว่า ประมาณ 2 ใน 3 ระบุว่าไม่เคยถูกรางวัลจากเลขเด็ดเลย ในขณะที่ร้อยละ 35.5 ระบุเคยถูกรางวัลจากเลขเด็ดมาบ้าง โดยค่าเฉลี่ยที่เคยถูกรางวัลจากผลการสำรวจในครั้งนี้อยู่ที่ 0.83 ครั้ง อย่างไรก็ตามเมื่อให้เปรียบเทียบระหว่างเงินที่ใช้ซื้อหวยกับเงินที่ถูกรางวัลจากหวยนั้นพบว่าตัวอย่างส่วนใหญ่มากกว่าร้อยละ 80 ระบุว่าเสียเงินซื้อหวยมากกว่าเงินที่ได้รับจากการถูกรางวัลจากหวย นอกจากนี้ร้อยละ 60.9 ยังเชื่อว่ามีการล็อคเลขในการออกหวยในบางครั้ง
เมื่อสอบถามถึงโอกาสในการได้รับเงินเมื่อเปรียบเทียบระหว่างการทำงานหนักเพื่อให้ได้เงินมากับการซื้อหวย พบว่า ตัวอย่างเกือบร้อยละร้อย คือร้อยละ 98.5 ระบุว่าการทำงานหนักมีโอกาสได้รับเงินมากกว่าการซื้อหวย ทั้งนี้มีเพียงร้อยละ 1.5 เท่านั้นที่ระบุว่าการซื้อหวยมีโอกาสได้เงินมากกว่า
นอกจากนี้ ผลสำรวจยังพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 59.6 ไม่เห็นด้วยต่อการมีหวยออนไลน์ โดยให้เหตุผลว่า สังคมไทยเป็นสังคมแห่งพระพุทธศาสนาควรช่วยกันลดอบายมุขมากกว่าส่งเสริม/หวยออนไลน์จะเป็นการมอมเมาประชาชน ทำให้คนเล่นการพนันมากขึ้น ยังไม่มีกฎเกณฑ์และเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้มงวดเพียงพอ และจะทำให้เกิดปัญหาสังคมหลายอย่างตามมา ในขณะที่ร้อยละ 40.4 เห็นด้วย เพราะ ถึงไม่มีหวยออนไลน์คนก็เล่นหวยกันอยู่แล้ว จะได้ไม่ต้องมีหวยใต้ดิน รัฐบาลมีรายได้มากขึ้น เป็นการเสี่ยงโชคทางเลือกของคนจน และประชาชนจะได้เล่นหวยที่ถูกกฎหมาย
ดร.นพดล กล่าวว่า ผลสำรวจเรื่องหวยครั้งนี้ทำให้เห็นถึงความน่าเป็นห่วง เพราะคนไทยจำนวนมากอาจถูกมองว่างมงายและหลงไปกับแหล่งที่มาของตัวเลขที่คิดว่าจะทำให้ถูกรางวัล เพราะผลสำรวจชี้ให้เห็นชัดเจนว่าคนไทยส่วนใหญ่ไม่ถูกรางวัลจากเลขเด็ดที่ได้มา ส่วนคนที่ถูกรางวัลก็ต้องซื้อหวยมาหลายครั้งสูญเสียเงินเป็นจำนวนมากได้ไม่เท่าเสีย