ชายตุ้งติ้งซิ่งเก๋งฮอนด้าพุ่งชนแหลก 3 คันรวด เสยตู้โทรศัพท์ เสาไฟจราจรแยกสุทธิสารพังยับ แถมนายดาบที่ยืนโบกรถโดนลูกหลงถูกชนจนตัวลอยกระเด็นข้ามรถ แผ่นหลังบาดเจ็บ เจ้าตัวยังอยู่ในอาการเมายา สติไม่ค่อยดี พูดเพ้อเจ้อเหมือนคนทรงเจ้าเข้าผี
วันนี้ (20 ส.ค.) เมื่อเวลา 08.30 น. พ.ต.ท.ทศพล ทิพย์ศิริ พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.สุทธิสาร รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชนกันจำนวนหลายคัน และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บที่บริเวณแยกสุทธิสารตัดถนนวิภาวดีรังสิต ถนนวิภาวดีรังสิตขาเข้า แขวงสามเสนใน เขตพญาไท จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ชฐ-6025 กทม. จอดอยู่ในสภาพถูกเฉี่ยวชนบริเวณด้านหน้าขวาจนกันชนหลุด และรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซีอาร์-วี สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน วภ-7607 กทม. ถูกเฉี่ยวชนบริเวณท้ายเสียหายเล็กน้อย และฝั่งตรงข้ามจุดเกิดเหตุด้านขาออก พบรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน สษ-8803 กทม. เสียหลักพุ่งปีนทางเท้าขึ้นไปชนเสาไฟจราจรจนขาดสะบั้น ด้านหน้ารถติดอยู่กับตู้ร้านค้าและตู้ชุมสายโทรศัพท์จนพังยับ นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย คือ ด.ต.เกษม สีงาม ผบ.หมู่ จร.สน.สุทธิสาร รหัส จร.601 บาดเจ็บบริเวณแผ่นหลังจึงช่วยกันปฐมพยาบาล
ขณะเดียวกัน ร.ต.อ.สมบัติ เกตุกัปตัน รองสว.จร.สน.วิภาวดี พร้อมกำลังที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณใกล้เคียงกัน สามารถจับกุมเจ้าของรถเก๋งฮอนด้า ซิตี้ ผู้ก่อเหตุเฉี่ยวชนรถผู้อื่นเอาไว้ได้ ทราบชื่อต่อมาคือ นายทรงเกียรติ ทองมา อายุ 28 ปี พนักงานขายปูน บ.สามัคคีซีเมนต์ ย่านถนนบรรทัดทอง โดยเจ้าตัวอยู่ในสภาพคล้ายคนเมายาและสติไม่ค่อยดี พูดเพ้อเจ้อเหมือนคนทรงเจ้าเข้าผี นอกจากนี้ยังมีลักษณะตุ้งติ้งเหมือนกระเทย
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายทรงเกียรติได้ขับรถเฉี่ยวชนรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ชท 3991 กทม.ตั้งแต่บริเวณหน้าปากซอยวิภาวดี 16 จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.วิภาวดี ได้วิทยุสกัดการจับกุม เมื่อถึงจุดเกิดเหตุได้เฉี่ยวชนรถเก๋งอีกสองคันจนได้รับความเสียหายดังกล่าว ก่อนจะพุ่งชน ด.ต.เกษม ที่ยืนโบกรถอยู่บริเวณนั้นจนตัวลอยกระเด็นข้ามรถไป แต่ยังโชคดีที่ ด.ต.เกษม ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมาก หลังจากนั้นนายทรงเกียรติ ก็ยังพยายามกลับรถบริเวณแยกดังกล่าวเพื่อหลบหนีเข้ามาทางถนนวิภาวดีขาออก แต่รถเกิดเสียหลักปีนขึ้นทางเท้าพุ่งชนเสาไฟฟ้า และตู้ร้านค้าจนพังยับเยิน และถูกจับกุมตัวดังกล่าว
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายทรงเกียรติ ไปสอบปากคำเบื้องต้นพอจับใจความได้เพียงว่า เพิ่งกลับมาจากเที่ยวกลางคืนและเพิ่งเสพยามา แต่เจ้าตัวไม่มีกลิ่นเหล้า ทั้งนี้ เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบภายในรถของนายทรงเกียรติก็ไม่พบสิ่งผิดกฏหมายแต่อย่างใด พบเพียงเหล้าที่เหลืออยู่ประมาณครึ่งขวด จึงแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุทำให้เฉี่ยวชนทรัพย์ผู้อื่น และทรัพย์สินของทางราชการได้รับความเสียหาย และขับรถโดยประมาทเป็นเหตุทำให้เฉี่ยวชนเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บขณะปฏิบัติหน้าที่และหลบหนี ก่อนส่งตัวไปตรวจหาสารเสพติดในร่างกายต่อไป หากพบว่ามีสารเสพติดก็จะแจ้งข้อหาเสพยาเพิ่มเติมต่อไป
วันนี้ (20 ส.ค.) เมื่อเวลา 08.30 น. พ.ต.ท.ทศพล ทิพย์ศิริ พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.สุทธิสาร รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชนกันจำนวนหลายคัน และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บที่บริเวณแยกสุทธิสารตัดถนนวิภาวดีรังสิต ถนนวิภาวดีรังสิตขาเข้า แขวงสามเสนใน เขตพญาไท จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ชฐ-6025 กทม. จอดอยู่ในสภาพถูกเฉี่ยวชนบริเวณด้านหน้าขวาจนกันชนหลุด และรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซีอาร์-วี สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน วภ-7607 กทม. ถูกเฉี่ยวชนบริเวณท้ายเสียหายเล็กน้อย และฝั่งตรงข้ามจุดเกิดเหตุด้านขาออก พบรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน สษ-8803 กทม. เสียหลักพุ่งปีนทางเท้าขึ้นไปชนเสาไฟจราจรจนขาดสะบั้น ด้านหน้ารถติดอยู่กับตู้ร้านค้าและตู้ชุมสายโทรศัพท์จนพังยับ นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย คือ ด.ต.เกษม สีงาม ผบ.หมู่ จร.สน.สุทธิสาร รหัส จร.601 บาดเจ็บบริเวณแผ่นหลังจึงช่วยกันปฐมพยาบาล
ขณะเดียวกัน ร.ต.อ.สมบัติ เกตุกัปตัน รองสว.จร.สน.วิภาวดี พร้อมกำลังที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณใกล้เคียงกัน สามารถจับกุมเจ้าของรถเก๋งฮอนด้า ซิตี้ ผู้ก่อเหตุเฉี่ยวชนรถผู้อื่นเอาไว้ได้ ทราบชื่อต่อมาคือ นายทรงเกียรติ ทองมา อายุ 28 ปี พนักงานขายปูน บ.สามัคคีซีเมนต์ ย่านถนนบรรทัดทอง โดยเจ้าตัวอยู่ในสภาพคล้ายคนเมายาและสติไม่ค่อยดี พูดเพ้อเจ้อเหมือนคนทรงเจ้าเข้าผี นอกจากนี้ยังมีลักษณะตุ้งติ้งเหมือนกระเทย
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายทรงเกียรติได้ขับรถเฉี่ยวชนรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ชท 3991 กทม.ตั้งแต่บริเวณหน้าปากซอยวิภาวดี 16 จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.วิภาวดี ได้วิทยุสกัดการจับกุม เมื่อถึงจุดเกิดเหตุได้เฉี่ยวชนรถเก๋งอีกสองคันจนได้รับความเสียหายดังกล่าว ก่อนจะพุ่งชน ด.ต.เกษม ที่ยืนโบกรถอยู่บริเวณนั้นจนตัวลอยกระเด็นข้ามรถไป แต่ยังโชคดีที่ ด.ต.เกษม ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมาก หลังจากนั้นนายทรงเกียรติ ก็ยังพยายามกลับรถบริเวณแยกดังกล่าวเพื่อหลบหนีเข้ามาทางถนนวิภาวดีขาออก แต่รถเกิดเสียหลักปีนขึ้นทางเท้าพุ่งชนเสาไฟฟ้า และตู้ร้านค้าจนพังยับเยิน และถูกจับกุมตัวดังกล่าว
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายทรงเกียรติ ไปสอบปากคำเบื้องต้นพอจับใจความได้เพียงว่า เพิ่งกลับมาจากเที่ยวกลางคืนและเพิ่งเสพยามา แต่เจ้าตัวไม่มีกลิ่นเหล้า ทั้งนี้ เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบภายในรถของนายทรงเกียรติก็ไม่พบสิ่งผิดกฏหมายแต่อย่างใด พบเพียงเหล้าที่เหลืออยู่ประมาณครึ่งขวด จึงแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุทำให้เฉี่ยวชนทรัพย์ผู้อื่น และทรัพย์สินของทางราชการได้รับความเสียหาย และขับรถโดยประมาทเป็นเหตุทำให้เฉี่ยวชนเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บขณะปฏิบัติหน้าที่และหลบหนี ก่อนส่งตัวไปตรวจหาสารเสพติดในร่างกายต่อไป หากพบว่ามีสารเสพติดก็จะแจ้งข้อหาเสพยาเพิ่มเติมต่อไป
