หวั่นหลัง 12 ส.ค.จัดเรตติ้งหนังวุ่น เลขา กวช.ระบุ ผู้ประกอบการแห่ปรึกษา สวช.เพียบ รับสัญลักษณ์เรตติ้งไม่ลงตัว เตรียมตั้งโต๊ะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแล้ว ห่วงโรงหนังเข้มไม่พอสร้างความสับสน วอนทุกฝ่ายเข้าใจเหตุขลุกขลักเพราะใช้ กม.ครั้งแรก
เมื่อวันที่ 11 ส.ค. นางฉวีรัตน์ เกษตรสุนทร เลขาธิการคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (กวช.) กล่าวว่า เนื่องจากการประกาศใช้กฎกระทรวงประกอบ พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวิดีทัศน์ พ.ศ.2551 ในส่วนของกฎกระทรวงว่าด้วยการอนุญาตและการประกอบกิจการร้านวิดีทัศน์ และกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ในการกำหนดประเภทภาพยนตร์ ประกาศในราชกิจจานุเบกษาวันที่ 11 ส.ค.และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 12 ส.ค.เป็นต้นไปนั้น สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (สวช.) ในฐานะหน่วยงานรับผิดชอบโดยตรง นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ได้สั่งการให้เตรียมความพร้อมทุกด้าน โดยเฉพาะการประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการทราบว่า ตั้งแต่วันที่ 12 ส.ค.นี้เป็นต้นไป ภาพยนตร์ไทยและต่างประเทศที่จะเข้าฉายต้องยื่นให้คณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ดำเนินการจัดประเภทภาพยนตร์ หรือ เรตติ้ง ตามกฎกระทรวงที่กำหนดไว้ 7 ประเภท
เลขาธิการ กวช.กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ตนได้รับรายงานจากสำนักพิจารณาภาพยนตร์และวิดีทัศน์ ว่า เริ่มมีบรรดาผู้ประกอบการทั้งรายเล็กไปจนถึงรายใหญ่ส่งเจ้าหน้าที่ที่ดูแลการจัดเรตติ้งมาปรึกษาถึงรายละเอียดขั้นตอนกันเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่ยังไม่มีความเข้าใจเกี่ยวกับการติดสัญลักษณ์เรตติ้งกับภาพยนตร์แต่ละเรื่อง และขอเวลาในการจัดพิมพ์เป็นแผ่นติดหน้าแผ่นภาพยนตร์ทุกเรื่องประมาณ 2 สัปดาห์ จึงขอให้ทาง สวช.ผ่อนผันไม่เข้มงวดในช่วงแรก ซึ่งทาง สวช.เข้าใจผู้ประกอบการในเรื่องนี้เพราะจนถึงขณะนี้สัญลักษณ์เรตติ้งภาพยนตร์ก็ยังไม่ลงตัว จึงพร้อมให้เจ้าหน้าที่คอยให้คำปรึกษาและผ่อนผันตามที่ผู้ประกอบการร้องขอ ซึ่งทางผู้ประกอบการขอเวลา 2 สัปดาห์ ส่วนผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์ที่จะต้องติดเรตติ้งด้านหน้าโรงเพื่อให้ประชาชนทราบว่าภาพยนตร์ที่กำลังฉายอยู่ในเรตใด ก็ยังมีความสับสนและยังไม่มีการเริ่มปฏิบัติจริงเช่นกัน อย่างไรก็ตาม คาดว่า ปัญหาสองส่วนนี้ยังพอแก้ไขและทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการได้
“สิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ ปัญหาความเข้าใจเรื่องการจัดเรตติ้งของประชาชนทั่วไปว่า มีความรู้เกี่ยวกับการจัดเรตติ้งมากน้อยเพียงใด พ่อแม่สามารถเลือกภาพยนตร์ให้ลูกชมตามวัยได้หรือไม่ เด็กและเยาวชนมีดุลพินิจเลือกชม และการปฏิบัติตามกฎหมายของผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์ที่ต้องเข้มงวด จริงจังในการขายบัตรชมให้ตรงตามเนื้อหาและอายุ ซึ่งตรง สวช.ก็พยายามประชาสัมพันธ์ออกไปอย่างเต็มที่ แต่ยังติดปัญหาเรื่องสัญลักษณ์เรตติ้งยังไม่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการภาพยนตร์และวิดีทัศน์แห่งชาติ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน หากมีมติเห็นชอบจะประกาศในราชกิจจานุเบกษาในสัปดาห์หน้า"นางฉวีรัตน์ กลาวและว่า คิดว่า ปัญหาในการประกาศใช้กฎหมายทุกฉบับช่วงแรกมักจะเกิดปัญหา และการปรับตัวของผู้เกี่ยวข้องเหมือนกัน แต่ในระยะยาวน่าจะสามารถปฏิบัติได้จริง โดยใช้มาตรการการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน การบังคับใช้กฎหมายรวมไปถึงผู้ปฏิบัติอย่างภาคประชาชน ผู้ปกครอง ผู้ประกอบการด้วย