วธ.ยื่นคำขาดหลัง 12 ส.ค.นี้ ผู้สร้าง-ผู้กำกับต้องขอติดเรตหนังกับคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์ฯ ชี้หากคิดว่าเรตติ้งไม่เป็นธรรมขออุทธรณ์ได้ เตรียมพิมพ์คู่มือจัดเรตติ้งแจก และสร้างความเข้าใจผู้ประกอบการระหว่างรอโลโก้ติดหน้าโรงหนัง
วันนี้ (10 ส.ค.) นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าการประกาศใช้ กฎกระทรวงประกอบ พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ.2551 จำนวน 5 ฉบับว่า
ขณะนี้กฎกระทรวง 3 ฉบับได้มีผลบังคับใช้แล้ว ส่วนกฎกระทรวงว่าด้วยการอนุญาตและการประกอบกิจการร้านวีดิทัศน์ และกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ในการกำหนดประเภทภาพยนตร์ จะประกาศในราชกิจจานุเบกษาวันที่ 11 ส.ค.และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 12 ส.ค.เป็นต้นไป ดังนั้นภาพยนตร์ไทยและต่างประเทศที่จะเข้าฉายตั้งแต่วันที่ 12 ส.ค.จะต้องยื่นให้คณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ดำเนินการจัดประเภทภาพยนตร์ หรือเรตติ้ง ตามกฎกระทรวงที่กำหนดไว้ 7 ประเภท ดังนี้
1.ภาพยนตร์ส่งเสริมการเรียนรู้ และควรส่งเสริมให้ดู 2.ภาพยนตร์ที่เหมาะสมกับผู้ดูทั่วไป 3.ภาพยนตร์ที่เหมาะสมกับผู้มีอายุตั้งแต่ 13 ปีขึ้นไป 4.ภาพยนตร์ที่เหมาะสมกับผู้มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป 5.ภาพยนตร์ที่เหมาะสมกับผู้มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป 6.ภาพยนตร์ที่ห้ามผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีดู และ 7.ภาพยนตร์ที่ห้ามเผยแพร่ในราชอาณาจักร
รมว.วัฒนธรรม กล่าวต่อว่า สำหรับขั้นตอนการขอเข้าพิจารณานั้น ผู้สร้างหรือผู้กำกับจะต้องเสนอภาพยนตร์ที่จะเข้าฉายพร้อมระบุเรตติ้งที่ต้องการ จากนั้นคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์ฯ จะพิจารณาอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้ฉาย พร้อมทั้งจะพิจารณาตามเรตติ้งที่เสนอมาว่าตรงตามข้อกำหนดในกฎกระทรวงหรือไม่ ทั้งนี้หากผู้กำกับหรือผู้สร้างเห็นว่าการพิจารณาของคณะกรรมการฯไม่เป็นธรรมสามารถอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ หรือยื่นขอความเป็นธรรมต่อศาลปกครอง
“ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายกังวลว่าไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับการจัดเรตติ้งนั้นขณะนี้วธ.ได้จัดทำคู่มือการจัดประเภทภาพยนตร์แจกจ่ายให้ผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดทำเรตติ้ง รวมทั้งจัดทำสปอตร์เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการจัดทำเรตติ้ง นอกจากนี้ในวันที่ 15 ส.ค.นี้ วธ.จะเชิญผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์ ผู้กำกับและผู้สร้างมาชี้แจงเกี่ยวกับการจัดเรตติ้ง
ส่วนสัญลักษณ์ที่จะใช้ในการจัดเรตติ้งและติดบริเวณหน้าโรงภาพยนตร์นั้น คณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติจะมีการประชุมในวันที่ 25 ส.ค.นี้ เพื่อเร่งหาข้อสรุปของตราสัญลักษณ์ดังกล่าว โดยระหว่างนี้จะให้มีการใช้ข้อความแทนตราสัญลักษณ์ไปก่อนจนกว่าจะได้ข้อสรุปจากที่ประชุม นอกจากนี้จะเสนอต่อที่ประชุมเรื่องขอตั้งคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์ฯ เพิ่มเติมจาก 1 ชุด เป็น 7 ชุด เพื่อรองรับระบบเรตติ้งด้วย” นายธีระ กล่าว