“ธีระ” ดันภูพระบาท เป็นมรดกโลก ชูแนวคิดท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมแบบไม่รบกวนโบราณสถาน ห่วงสร้างที่พักบนอุทยานเพิ่ม เกรงทำลายภูมิทัศน์ สิ่งแวดล้อม ปิ๊งไอเดียโฮมสเตย์ชุมชนเชื่อมเส้นทางท่องเที่ยว ช่วยสร้างรายได้ชาวบ้าน พร้อมประสานกรมศิลป์ จังหวัด ศึกษาความเป็นไปได้
นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า จากการที่ตนได้ไปตรวจเยี่ยมอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท จ.อุดรธานี เมื่อเร็วๆ นี้ พบว่า อุทยานประวัติศาสตร์ดังกล่าวมีการพัฒนาไปในทิศทางที่ดี โดยกรมศิลปากร ทำการอนุรักษ์ดูแลโบราณสถานภูพระบาท บนพื้นที่ 3,430 ไร่ ซึ่งอยู่ในพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขือน้ำ และวนอุทยานภูพระบาทบัวบก เป็นอย่างดี โดยไม่ไปรบกวนพื้นที่ป่าสงวน ในขณะเดียวกัน แหล่งประวัติศาสตร์ภายในอุทยานยังมีความน่าสนใจมากมาย โดยเฉพาะโขดหิน เพิงหินธรรมชาติที่ได้ถูกดัดแปลงเป็นศาสนสถาน เช่น หอนางอุสา กู่ทางอุสา คอกม้าน้อย รูปสลักพระพุทธรูปและพระโพธิสัตว์บนผนังหินถ้ำพระ รอยพระพุทธบาทบัวบก เป็นต้น ซึ่งคนไทยควรเข้าไปศึกษา
นายธีระ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ อุทยานยังเปิดให้ประชาชน หน่วยงานราชการ มาจัดสัมมนา พักแรมด้วย โดยขณะนี้ กำลังเตรียมเพิ่มจำนวนบ้านพักให้มีมากขึ้น เนื่องจากไม่เพียงพอสำหรับบริการ แต่ตนได้ท้วงติงไป ว่า ควรมีการจำกัดบ้านพักไม่ให้มีมากเกินไปจนทำลายภูมิทัศน์และสิ่งแวดล้อมโดยรอบอุทยาน ดังนั้น จึงเสนอแนวทางแก้ปัญหาดังกล่าว โดยให้ทางอุทยานประสานกับชาวบ้าน จัดทำโฮมสเตย์สำหรับนักท่องเที่ยวไทยและชาวต่างชาติเข้ามาพักและท่องเที่ยวในชุมชน เชื่อมโยงมายังอุทยาน เพราะนอกจากจะสร้างรายได้ให้แก่ชาวบ้านแล้ว ยังไม่ต้องสร้างบ้านพักบนอุทยานเพิ่มขึ้นอีกด้วย โดยจะให้กรมศิลปากร ประสานกับจังหวัด ศึกษาความเป็นไปได้ในการสร้างชุมชนเปิดเป็นโฮมสเตย์
“ผมกำลังผลักดันให้อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาทเป็นมรดกโลก เพราะอยู่ในรายชื่อรอการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก หรือ tentative list แล้ว หากยูเนสโกประกาศให้ภูพระบาทเป็นมรดกโลกเมื่อไหร่ ก็จะมีนักท่องเที่ยวทั่วโลกมาชื่นชมความงดงามมากขึ้นเท่านั้น เราจึงควรมีแนวทางการรองรับนักท่องเที่ยว เพื่อไม่ให้แหล่งโบราณคดีเกิดความเสื่อมโทรมเหมือนกับอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา” รมว.วธ.กล่าว