กรมศิลป์ปิ๊งไอเดีย ทุ่มงบ 42 ล้านบาท ติดไฟส่องสว่างอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร หวังดึงนักท่องเที่ยวชมมรดกโลกยามค่ำคืน เชื่อเป็นจุดขาย กระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนในชุมชน
นายปฐม ระสิตานนท์ หัวหน้าอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร กรมศิลปากร เปิดเผยว่า จากการสำรวจจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเข้าชม อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร ตั้งแต่เดือน ม.ค.-พ.ค.2552 พบว่ามีจำนวน 1.4 แสนคน ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา ดังนั้น ตนจะพัฒนาอุทยานฯ กำแพงเพชร ให้เป็นอุทยานเรียนรู้ภาคกลางคืน โดยจะนำเทคนิคการติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่าง โบราณสถานรูปแบบใหม่ มาสร้างความสวยงามให้อุทยาน ภายใต้งบประมาณ 42 ล้านบาท แบ่งเป็น 3 ปี ปีละ 14 ล้าน เริ่มตั้งแต่ปี 2553 จะดำเนินการติดหลอดไฟส่องสว่าง บริเวณกำแพงเมืองบางส่วน วัดพระแก้ว วัดพระธาตุ ปี 2554 จะมีการติดตั้งในเขตอรัญวาสี อาทิ วัดพระนอน วัดพระสี่อริยาบท วัดสิงห์ วัดช้างล้อม วัดอาวาสใหญ่ ส่วนปี 2555 จะมีการติดตั้งในส่วนที่เหลือต่อไป
นายปฐมกล่าวต่อไปว่า ส่วนหลอดไฟที่จะนำมาติดตั้งนั้น เป็นหลอดไฟที่มีประสิทธิภาพสูง 1,400 หลอด กินไฟเพียงชั่วโมงละ 120 บาท ถือว่าเป็นราคาที่ถูกมาก หากอุทยานฯกำแพงเพชร พัฒนาแสงสว่างในพื้นที่โดยรอบครบทั้งหมดจะทำให้นักท่องเที่ยวสามารถศึกษาอุทยานประวัติศาสตร์ในยามค่ำคืนได้สะดวกสบายมากขึ้น รวมทั้งจะเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาชมแหล่งมรดกโลกมากขึ้น ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้แก่ชุมชนและประเทศอีกทางหนึ่ง
ด้าน นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า ตนพร้อมที่จะสนับสนุนให้มีการพัฒนาแสงสว่างภายในอุทยานฯกำแพงเพชร ซึ่งเป็นมรดกโลก และอยากให้กรมศิลปากรผลักดันให้มรดกโลกของไทยทุกแห่งเปิดให้บริการยามค่ำคืนด้วย เพราะหากทำได้สำเร็จจะเป็นการดึงดูดนักเรียน นักศึกษา นักท่องเที่ยวไปเที่ยวชมแหล่งโบราณสถานยามค่ำคืนมากขึ้น
