xs
xsm
sm
md
lg

นักวิชาการย้ำอย่าตระหนกหวัด 2009 ดื้อยาโอเซลทามิเวียร์ เตือนผู้รับยาอย่าหยุดใช้กลางคัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นักวิชาการ ย้ำ ไม่ต้องตื่นตระหนกกรณีหวัด 2009 ดื้อยาโอเซลทามิเวียร์ ยันยังไม่ได้รับรายงานในไทย เตรียมเรียกประชุมผู้เชี่ยวชาญถก และนำข้อมูลของแต่ละห้องปฏิบัติการมาหารือร่วมกันวันพรุ่งนี้ ขณะที่ สธ.ชี้คนทั่วโลก รวมทั้งไทย เสี่ยงติดเชื้อไข้หวัด 2009 เท่ากัน เพราะยังไม่มีภูมิต้านทานโรค เตือนผู้ที่ได้รับยาต้าน ต้องกินให้ครบ 10 เม็ด ตามเวลา 5 วัน อย่าหยุดยากลางคัน เพื่อป้องกันเชื้อดื้อยา

นพ.ประเสริฐ ทองเจริญ ประธานคณะอนุกรรมการที่ปรึกษาวิชาการและยุทธศาสตร์ด้านการแพทย์และสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 มีการดื้อยาโอเซลทามิเวียร์ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานอย่างเป็นทางการ คาดว่าในบ่ายวันพรุ่งนี้ (10 ส.ค.) ทางคณะอนุกรรมการจะมีการประชุมอย่างเป็นทางการ เพื่อสอบถามเรื่องนี้ เพราะเบื้องต้นเป็นรายงานผลจากห้องปฏิบัติการ ยังไม่มีการพูดคุยกันอย่างชัดเจน จึงไม่อยากให้ประชาชนตื่นตระหนก เนื่องจากปริมาณการใช้ยาโอเซลทามิเวียร์ในประเทศไทยยังนับว่าน้อยมาก เมื่อเทียบกับประเทศญี่ปุ่น สำหรับรายงานอัตราการดื้อยาทั่วโลก พบมีที่ ญี่ปุ่น ฮ่องกง เดนมาร์ก แคนาดา และต้องมีการสอบถามไปยังห้องปฏิบัติการของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และศิริราชพยาบาล ร่วมด้วย

นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้เชี่ยวชาญระดับ 11 กรมการแพทย์ กล่าวว่า การดื้อยาโอเซลทามิเวียร์ไม่ใช่เรื่องที่เหนือความคาดหมาย ทุกอย่างมีโอกาสเกิดขึ้นได้ แต่ต้องดูว่ามีปริมาณการดื้อยามากน้อยแค่ไหน ซึ่งหากพบมีอัตราการดื้อยาจริงตามข่าวที่นำเสนอ นับว่ามีปริมาณน้อยมาก ยังไม่ต้องตื่นตระหนกและแนวทางการรักษายังคงต้องใช้แบบเดิม เพราะแม้แต่ประเทศญี่ปุ่นที่มีอัตราการดื้อสูง ยังคงใช้ยาโอเซลทามิเวียร์เช่นเดิม

สธ.เตือนผู้ใช้ยาอย่าหยุดยาเองกลางคัน
นายแพทย์ สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ซึ่งในไทยเริ่มตรวจพบเชื้อดื้อยาโอเซลทามิเวียร์ ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ว่า ปัญหาการดื้อยาต้านไวรัสมีโอกาสเกิดขึ้นได้ หากมีการใช้ยากับคนเป็นจำนวนมากโอกาสเกิดการดื้อยาก็จะมีมากขึ้น ซึ่ง สธ.มีความระมัดระวังในการใช้ยา โดยกำหนดให้ใช้ยานี้ในผู้ป่วยหนักและผู้ที่เสี่ยงมีอาการป่วยรุนแรง ซึ่งจะให้ผลการรักษาดีที่สุดใน 48 ชั่วโมง หรือ 72 ชั่วโมงแรกที่เริ่มป่วย

จึงย้ำเตือนให้ประชาชน โดยเฉพาะผู้ป่วยที่กำลังกินยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์อยู่ในขณะนี้ หากหลังกินแล้วอาการดีขึ้นก็อย่าหยุดกินยากลางครัน ขอให้กินจนครบตามแพทย์สั่ง คือวันละ 2 เม็ด ครั้งละ 1 เม็ดเช้าและเย็น จนครบ 5 วัน รวม 10 เม็ด ทั้งนี้ เพื่อป้องกันปัญหาเชื้อดื้อยา และแพร่ระบาดไปสู่ผู้อื่น ซึ่งจะทำให้ไม่สามารถใช้ยาตัวเดิมได้ ดังนั้นผู้ป่วยที่ได้รับยาจะต้องปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัด

ชี้ทั่วโลกโอกาสติดหวัด09 เท่ากัน เหตุยังไม่มีภูมิต้านทานเชื้อ
นพ.สุพรรณ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ทั่วโลกรวมทั้งคนไทยมีโอกาสเสี่ยงติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ 2009 เท่ากัน เนื่องจากคนส่วนใหญ่ยังไม่มีภูมิต้านทานเชื้อนี้มาก่อน ในส่วนของไทยคาดว่าจะมีผู้ที่มีภูมิต้านทานโรคนี้แล้วประมาณ 3-5 แสนคน ดังนั้น คนที่ยังไม่ป่วยขอให้ป้องกันตนเองไม่ให้รับเชื้อ โดยสามารถติดเชื้อจากผู้ป่วย 4 กรณีใหญ่ๆ ได้แก่ 1.การอยู่ใกล้กับผู้ป่วยในระยะ 1-2 เมตร เช่น หันหน้าคุยกัน หรือถูกผู้ป่วยไอ จามรด โดยที่ทั้ง 2 ฝ่ายไม่ใส่หน้ากากอนามัย 2.การใช้ของร่วมกับผู้ป่วย เช่น ผ้าเช็ดหน้า เช็ดตัว แก้วน้ำ หลอดดูดน้ำ หรือกินอาหารจากภาชนะเดียวกันโดยไม่ใช้ช้อนกลาง 3.ใช้มือสัมผัสสิ่งของที่อาจมีน้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วยติดอยู่แล้วเอามือขยี้จมูก ปาก หรือตาตนเอง 4.อยู่ในสถานที่ปิดอับทึบ อากาศถ่ายเทไม่ดี และมีผู้ป่วยปะปนอยู่เช่นสถานบันเทิง อาจมีโอกาสรับเชื้อโดยสูดหายใจเอาเชื้อโรคเข้าไป เพราะเชื้อโรคที่ผู้ป่วยไอหรือจามออกมาจะถูกสะสมไว้มากและมีความเข้มข้นสูง ซึ่งเชื้อโรคมีชีวิตอยู่ได้ 4-6 ชั่วโมง มีโอกาสที่จะแพร่กระจายอยู่ในอากาศได้ จึงควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่ดังกล่าว

สำหรับตามบ้านเรือนต่างๆ หากมีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่อยู่ในบ้านหลังเดียวกัน ขอให้หยุดงาน หยุดเรียนให้ครบ 7 วันตั้งแต่วันที่เริ่มป่วย และป้องกันไม่ให้แพร่เชื้อสู่คนในบ้าน โดยแยกผู้ป่วยให้พักผ่อนเต็มที่อยู่ในห้องส่วนตัว ให้ล้างมือบ่อยๆ แยกของใช้ส่วนตัว กินข้าวแยกต่างหาก สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา อยู่ห่างจากคนอื่นอย่างน้อย 1-2 เมตร และเวลานอนให้อยู่ด้านใต้ลม ส่วนเด็ก คนแก่ ผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือหญิงตั้งครรภ์ให้อยู่ห่างจากผู้ป่วย และหมั่นล้างมือ หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถโทรสอบถามสายด่วนไข้หวัดใหญ่ 1422 ฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง

ขณะที่เมื่อช่วงเช้าเวลา 09.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จัดรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์” เป็นครั้งที่ 30 ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT)ได้กล่าวถึงปัญหาไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ว่า ขณะนี้มีการรายงานตัวเลขอยู่ทุกสัปดาห์ ขณะนี้แนวโน้มที่เห็นเรากำลังติดตามอีก 1 สัปดาห์ที่จะดูว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นแต่ละสัปดาห์เริ่มลดลง ชัดเจนหรือยัง แต่สิ่งหนึ่งซึ่งเกิดขึ้นในขณะนี้ก็แน่นอนว่าปัญหาจะไปเพิ่มขึ้นในภูมิภาค และอาจจะลดลงในส่วนของกรุงเทพมหานคร สำนักงานกองทุนสนับสนุนการเสริมสร้างสุขภาพ (สสส.) ได้ทำเว็บไซต์ขึ้นมาเพื่อเผยแพร่ข้อมูลต่างๆ www.flu2009thailand.com เพื่อเผยแพร่ข้อมูลต่าง ๆ สำหรับพี่น้องประชาชนที่อยากจะรับรู้ในเรื่องนี้ ส่วนการรณรงค์จะมีการทำกันครั้งใหญ่ในการรวมพลังสู้หวัด ซึ่งจะมีทั้งระบบการรักษาพยาบาล ซึ่งขณะนี้ได้มีการปรับปรุงระบบการจ่ายยา ซึ่งน่าจะทำให้คนเข้าถึงยาได้เพิ่มขึ้น

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า แต่สิ่งที่อยากจะบอกกับพี่น้องประชาชนคือว่าหลักง่าย ๆ ในการที่จะตัดสินใจว่าถ้าตัวเองเจ็บไข้ได้ป่วยแล้ว เราแนะนำว่าให้รักษาตัวอยู่กับบ้าน เมื่อไหร่สัญญาณอะไรที่บอกว่าต้องรีบไปหาหมอ ก็ใช้สูตร 1+1 ใน 5 ได้แก่ 1.ก็คือว่าถ้าไข้สูงไม่ลด แล้วถ้ามีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งใน 5 อย่างต่อไปนี้เป็นสัญญาณที่ว่าน่าจะไปพบแพทย์แล้ว ข้อแรกคือ ปวดหัวมาก กินยาแล้วก็ไม่หาย ถ้าเป็นอย่างนี้และเป็นไข้สูง ก็ควรจะไปหาแพทย์ 2.เบื่ออาหารอย่างมาก ไม่อยากจะรับประทานอะไรเลย ไม่อยากจะกินอะไรเลย แม้กระทั่งน้ำไม่อยากดื่ม ถ้าเป็นอย่างนี้บวกกับไข้สูง ไปหาแพทย์ 3.เหนื่อยอ่อนเพลีย ปวดเมื่อย ถ้ามีอาการลักษณะนี้ ไข้สูง ไปหาแพทย์ 4.ไอแล้วเหนื่อย ไอแล้วรู้สึกเจ็บเฉพาะที่ เจ็บหน้าอก ถ้ามีอาการนี้ไข้สูง ไปหาแพทย์ และสุดท้ายคือ ท้องเสียหรืออาเจียน ถ้ามีอาการนี้และมีไข้สูงก็ไปหาแพทย์เช่นเดียวกัน

“ถ้าทุกคนทำได้อย่างนี้ครับการบริหารจัดการในเรื่องไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ก็จะสามารถทำได้ ขณะนี้สถานการณ์การระบาดไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในประเทศไทย เกิดขึ้นทั่วโลก แล้วการเสียชีวิตก็เพิ่มขึ้นในหลายประเทศ แทบจะเรียกว่าทุกทวีปก็ว่าได้ ขณะนี้ในอเมริกาใต้ก็พุ่งสูงมาก ออสเตรเลียก็พุ่งสูงมาก แม้กระทั่งในเอเชียด้วยกันเอง ก็มีแนวโน้มสูงขึ้นในหลายประเทศ เพราะฉะนั้น ถ้าค้นคว้าหาข้อมูลซึ่งบัดนี้เราจัดให้ในรูปแบบต่างๆ และใช้สูตรอย่างที่ว่านี้ คงจะช่วยแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการเรื่องนี้ไปได้ด้วยดี”
นายกฯ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น