นักวิชาการด้านการแพทย์ จุฬาฯ เชื่อโอกาสเกิดกาฬโรคในไทยมีน้อย เตือนประชาชนที่เลี้ยงสัตว์ใส่ใจดูแลสัตว์เลี้ยงในบ้าน หมั่นกำจัดเห็บหมัด
ในเวทีจุฬาฯ เพื่อประชาสังคม ครั้งที่ 3 เรื่องกาฬโรค...โรคร้ายที่กำลังจะกลับมา..จริงหรือ? รศ.นพ.ดร.นรินทร์ หิรัญสุทธิกุล ภาควิชาเวชศาสตร์ป้องกันและสังคม คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า โอกาสที่กาฬโรคจะมาระบาดในประเทศไทยมีน้อยมาก เนื่องจากเป็นโรคที่เกิดขึ้นในอดีต และจากข้อมูลการระบาดในสาธารณรัฐประชาชนจีน ถึงขณะนี้ยังไม่พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้น และระบบการควบคุมโรคในพื้นที่เข้ม โอกาสที่หนูซึ่งเป็นพาหะจากจีนที่จะมาไทยมีน้อยมาก เพราะตามด่านพรมแดนของไทยมีมาตรการเฝ้าระวังอย่างเต็มที่ สำหรับชนิดกาฬโรคที่พบในไทยใน 57 ปีก่อน เป็นกาฬโรคต่อมน้ำเหลือง การรักษายังคงใช้ยาปฏิชีวนะ
ผศ.น.สพ.ดร.สนธยา เตียวศิริทรัพย์ ภาควิชาพยาธิวิทยา คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า อัตราการติดเชื้อกาฬโรคในสัตว์นอกจากสัตว์ฟันแทะอย่างหนูแล้ว สัตว์เลี้ยงตามบ้านเช่นสุนัขและแมวก็มีโอกาสติดเชื้อได้ ในการระบาดของกาฬโรคในจีน พบว่า สาเหตุที่มีผู้เสียชีวิตรายแรก มาจากการนำสุนัขในบ้านที่เสียชีวิตไปฝัง แต่การศึกษาพบว่าการติดเชื้อกาฬโรคในสัตว์ส่วนใหญ่มักไม่รุนแรง มีการเสียชีวิตไม่มาก เช่นในสุนัขส่วนใหญ่จะมีอาการไข้ซึม แต่ในแมวครึ่งหนึ่งหากมีการกินหนูที่ติดเชื้อกาฬโรคมีโอกาสได้รับเชื้อตามต่อมน้ำเหลืองโต หน้าบวม และเสียชีวิตได้ครึ่งหนึ่ง ดังนั้น ในประชาชนที่เลี้ยงสัตว์ควรมีความระมัดระวังใส่ใจสัตว์เลี้ยงและหมั่นกำจัดเห็บหมัด แม้ว่าสาเหตุของการเกิดกาฬโรคจะมาจากหมัดหนูแต่ก็ควรระมัดระวัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรับประทานหนูนา หากไม่จำเป็นควรหลีกเลี่ยงการบริโภค แม้ว่าจะมีการปรุงสุกแล้วเพื่อความปลอดภัย
