“วิทยา” รอสัญญาณจาก “ฮู” วางมาตรการกันกาฬโรคแพร่เข้าไทย ยอมรับกลุ่มเสี่ยงหวัด 2009 เข้ารักษาตัวช้าเสี่ยงตายเร็วขึ้น พร้อมชั่งน้ำหนักการหยุดรายงานตัวเลขผู้ป่วย-ตายจากหวัด 2009 ก่อนหวั่นปัญหาถูกประณามว่าปกปิดข้อมูล
นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงมาตรการรับมือกับกาฬโรคปอดในเมืองจื่อเคอถาน มณฑลชิงไห่ ทางภาคตะวันตกของจีนที่อาจจะมีการแพร่เชื้อเข้ามาในไทยว่า ตอนนี้ทางกระทรวงสาธารณสุขได้มอบหมายให้ นพ.ม.ล.สมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ประเมินสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศจีนเพื่อรายงานควบคืบหน้าให้ทราบตลอดเวลา รวมทั้งการควบคุมโรคของประเทศจีนว่าดำเนินการไปถึงขั้นไหน เพราะโรคนี้ป่วยแล้วจะมีอาการค่อนข้างรุนแรงและจะแสดงอาการให้เห็นชัดเจน หากไม่ได้รับการรักษาภายใน 24 ชม.จะทำให้เสียชีวิตทันที ซึ่งจะต่างจากโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เพราะกาฬโรคมีโอกาสแพร่เชื้ออยู่ในระยะสั้น คล้ายกับโรคซาร์ และไข้หวัดนก
อย่างไรก็ตาม เพื่อความไม่ประมาทต้องติดตามโรคนี้อย่างใกล้ชิดทั้งในเรื่องการตรวจสอบตามชายแดนต่างๆ ซึ่งไทยคงยังไม่ใช้มาตรการที่รุนแรงเพราะต้องรอดูสัญญาณจากองค์การอนามัยโลก (ฮู) ก่อนว่าจะให้ประเทศที่ใกล้เคียงกับจีนรับมืออย่างไรกับโรคนี้ ซึ่งเราก็ต้องดำเนินการตามแนวทางที่ฮูกำหนด และจะมีรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนทราบเป็นระยะ
นอกจากนี้ นายวิทยาได้กล่าวถึงสถานการณ์ของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ว่า พยายามทำอย่างเต็มที่แต่ยังพบปัญหากับคนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงที่มีโรคประจำตัวค่อนข้างรุนแรง หากได้รับเชื้อก็จะทำให้เสียชีวิตเร็วขึ้น นอกจากนี้ยังพบว่า มีหลายคนที่ป่วยแต่เข้ารับการรักษาค่อนข้างช้า เพราะจากการตรวจสอบพบว่าคนที่มีอาการปกติไม่มีโรคประจำตัว แต่กว่าจะได้รับยาโอเซลทามิเวียร์ ก็ใช้เวลาไป 8 วัน เพราะไม่ยอมเข้าระบบการรักษา ส่วนคนที่รับการรักษาภายใน 6 วันก็ถือว่าเสี่ยงที่จะเสียชีวิต แต่ขณะนี้ตั้งแต่มีการรณรงค์มากขึ้นทำให้ประชาชนเริ่มตื่นตัวหันมาเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลรัฐมากขึ้น
เมื่อถามว่า การที่จะให้อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) ลงพื้นที่เพื่อค้นหาผู้ป่วยในหมู่บ้านจะได้ผลมากน้อยแค่ไหน นายวิทยากล่าวว่า โรคนี้ส่วนใหญ่จะแพร่เชื้อได้เร็วในชุมชนที่หน้าแน่นและแออัด จะมีโอกาสที่จะติดเชื้อสูง แต่สถานการณ์การแพร่ระบาดตอนนี้ก็มีการแพร่ระบาดไปหัวเมือง แต่ยังไม่แพร่กระจายไปยังชนบท ซึ่งโอกาสที่จะเฝ้าระวังก็ทำได้สูง อย่างไรก็ตาม ได้ให้เจ้าหน้าที่ อสม.ประจำหมู่บ้านต่างๆ แจ้งข่าวแก่ชาวบ้านที่เป็นกลุ่มเสี่ยง เด็กเล็ก คนอ้วน หรือผู้มีโรคประจำตัวต่างๆ หากป่วยมีไข้หวัดต้องเข้ารับการรักษาโดยเร็วที่สุด
เมื่อถามว่าจะมีการยกเลิกการรายงานตัวเลขของผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 หรือไม่ นายวิทยากล่าวว่า ในระดับสากลได้ยกเลิกการรายงานตัวเลขไปทั้งหมดแล้ว อย่างไรก็ตามจะให้อนุกรรมการวิชาการระดับชาติเป็นคนพิจารณาดูความเหมาะสม แต่ต้องประเมินความรู้สึกประชาชนด้วยเพราะเกรงจะถูกมองว่ากระทรวงปกปิดข้อมูล ซึ่งเรื่องนี้คงต้องชั่งน้ำหนักให้ดี