xs
xsm
sm
md
lg

ตลาดนัดสวนหลวง ร.9 คุกคามชาวบ้าน (1)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เหตุการณ์ต่อไปนี้ เป็นเรื่องของชาวบ้านเขตประเวศ ที่มีบ้านติดตลาดนัดสวนหลวง ร.9 หิ้วหลักฐานร้องสื่อว่า ตลาดดังกล่าวได้ตั้งเต็นท์ติดรั้วบ้าน มีคนปีนขึ้นปีนลงเกรงไม่ปลอดภัย จึงร้องเรียนต่อเขต แต่ปรากฏเจอสารพัดอิทธิพลมืด ทั้งโทร.ขู่ ลอบวางเพลิงใกล้รั้วบ้าน แถมมีตำรวจนับสิบขอค้นบ้านแบบไม่มีหมายค้น ล่าสุด เจอยัดข้อหาค้ากามข้ามชาติ และค้ายาเสพติด ทำเอาขณะนี้เจ้าของบ้านได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก

ขยะจากตลาด
“เรื่องมาเกิดเอาเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว”
เจ้าของบ้านให้ข้อมูลว่า เมื่อราวๆ วันที่ 7-8 ธันวาคม 2551 ตลาดนัดได้ขยายตลาด และสร้างเต็นท์ขนาดใหญ่ชิดบ้านตลอดแนวรั้ว ซ้ำร้ายระหว่างการติดตั้งเต็นท์ ก็มีคนงานปีนขึ้นปีนลงรั้วบ้านตลอดเวลา ทำให้เกรงว่า จะมีใครปีนข้ามรั้วบ้านมาก่อเหตุอาชญากรรม จึงโทรศัพท์ไปแจ้งที่เขต ซึ่งทางเขตก็ส่งฝ่ายโยธาเข้ามาตรวจสอบ พร้อมทั้งบอกว่า เป็นการก่อสร้างที่ผิดเนื่องจากไม่ได้ขออนุญาต

จากนั้นทางเขตได้ส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายโยธามาตรวจ และมีคำสั่งให้ทางตลาดรื้อส่วนที่ชิดรั้วลงก่อน เสร็จแล้วค่อยรื้อส่วนอื่นๆ ลงให้หมด แต่เมื่อเจ้าหน้าที่เขตกลับไป ทางตลาดก็ไม่ได้รื้อ จึงได้ตัดสินใจ ทั้งทำหนังสือร้องเรียนไปที่สำนักงานเขตประเวศ และเข้าร้องเรียนด้วยตัวเอง แต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น

เจ้าของบ้านให้ข้อมูลต่อว่า ได้ไปร้องเรียนต่อ นายสมชาย ฉัตรสกุลเพ็ญ ผอ.เขตประเวศ ซึ่งก็ให้เขียนเอกสารร้องเรียนตามระเบียบ แต่เหตุการณ์กลับเลวร้ายกว่าเดิม เมื่อเจ้าหน้าที่เขตหญิงรายหนึ่งโทรศัพท์มาหา และแจ้งว่า ไม่ต้องมาร้องเรียนที่เขตอีก เพราะทราบเรื่องทุกอย่างแล้ว

ทว่า หลังจากนั้น ไม่เพียงแต่ไม่มีการรื้อเต็นท์ แต่ตลาดกลับต่อความสูงขึ้นไปอีกด้วย รวมทั้งมีการปรับจากเต็นท์ชั่วคราวให้เป็นเต็นท์ถาวร และมีการก่อสร้างในช่วงเวลากลางคืนอีกต่างหาก

“ดิฉันโทร.ไปแจ้ง 191 ตำรวจยังบอกว่าลักษณะนี้ตลาดเส้นใหญ่แน่”
เจ้าของบ้านเล่าต่อไปอีกว่า ทางบ้านถูกละเมิดสิทธิ์ ทั้งทางตรงและทางอ้อม ไหนจะรั้วที่สูงชิดกำแพงบ้าน ความสกปรกที่เกิดจากตลาด ทั้งสัตว์พาหะนำเชื้อโรค เช่น หนูและแมลงวัน เสียงคาราโอเกะจากร้านในตลาดดังตั้งแต่เช้าตรู่ รวมไปถึงการถูกรถในตลาดจอดปิดหน้าบ้าน จนนำรถออกไม่ได้อยู่บ่อยครั้ง รวมไปถึงทางเท้าบริเวณบ้านสองฝั่งก็ถูกแผงแม่ค้าวางปิดจนเต็มต้องลงเดินไปกลางถนน
เต็นท์ที่ปลูกติดรั้วมีคนปีนขึ้นปีนลง
ซ้ำร้ายหากวันไหนถูกจอดปิดหน้าบ้าน และพวกเธอกดแตรขอให้ขยับรถ ก็จะถูกตะโกนด่าหยาบคาย หนักเข้าบางครั้งก็มีบรรดาพ่อค้าแม่ค้าบางคนถึงขั้นปรี่เข้ามาเอามือทุบกระจกรถด้วยท่าทีกระเหี้ยนกระหือรือ อีกต่างหาก

“จนเดือนกุมภาพันธ์ 2552 เราทนไม่ไหว ก็เลยเข้าไปที่เขต ขอสำเนาที่เรื่องร้องเรียน เพื่อจะไปแจ้งความ ปรากฏว่า ดำเนินการให้ช้ามาก ไปแต่เช้าเจ้าหน้าที่ก็อ้างว่าคนที่รับเรื่องไม่อยู่ ก็รออดทนทำจนเสร็จ พอกลับมาถึงบ้าน ปรากฏคราวนี้ตลาดขยายแนวรั้วเพิ่มขึ้นจนยาวสุดรั้วเราเลย 55 เมตร เราก็โทร.ไปบอกโยธาเขต คนรับสายบอกเราว่าให้ทำไป เขตจะเข้ามาจัดการเอง แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรดีขึ้นอย่างเดิม”

จากนั้นมาเกือบเดือน เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2552 ก็มีผู้ชายคนหนึ่งอ้างตัวว่าเป็นผู้จัดการตลาดโทรศัพท์เข้ามาในมือถือของเธอ ซึ่งปกติเบอร์นี้ไม่ค่อยได้ให้ใคร แต่ได้ให้เจ้าหน้าที่เขตเอาไว้เมื่อครั้งไปร้องเรียน

“เขาพูดมาในโทรศัพท์ว่า...คุณไปร้องเรียนที่เขตทำไม ทีคุณทำธุรกิจสีเทา ผมยังไม่ยุ่งเลย คุณเปิดค้าประเวณี กักขังหน่วงเหนี่ยว...เขาพูดประมาณนี้ เราก็ถามว่า เอาเบอร์มาได้ยังไง เขาบอกที่เขตให้มา เขาขู่เราด้วยว่าเขาจะทำให้เราเสื่อมเสีย มีชื่อลงหนังสือพิมพ์ เราก็ตกใจเหมือนกัน แต่ด้วยความที่เราไม่ได้ทำอะไรผิด จึงไม่ได้กังวลอะไร จากนั้นตอนเที่ยงก็มีโทร.มาอีกครั้ง คราวนี้เป็นคนละคน บอกว่า เขาชื่อวุฒิ เป็นทหารและเป็นคนคุมตลาด แล้วก็พูดเนื้อหาเหมือนลอกมาจากตอนเช้า”เจ้าของบ้านเล่า

...อีก 2 วันต่อมา คือ วันที่ 7 มีนาคม ก็มีผู้ชายอีกคนโทรศัพท์มาที่บ้านแล้วแจ้งว่า เขาเป็นทนายความของตลาด พร้อมทั้งพูดข่มขู่แบบเดิมอีก

“ช่วงนั้นก็มีคนเตือนเยอะมาก ทั้งญาติพี่น้องเพื่อนฝูง บอกว่า ให้เลิกเถอะ อย่าไปสู้อีกเลย อย่าไปเรียกร้องอะไรอีก เดี๋ยวจะโดนอิทธิพลมืด เราก็เลยใช้เวลาตัดสินใจนาน จนวันที่ 23 มีนาคม เราก็ตัดสินใจเข้าไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่ สน.ประเวศ ว่าเราถูกข่มขู่ทางโทรศัพท์”เจ้าของบ้านอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ทว่า ปัญหายังไม่จบเพียงเท่านั้น
(อ่านต่อวันพรุ่งนี้)
กำลังโหลดความคิดเห็น