พม.เทพันล้านปล่อยสินเชื่อบ้านผู้มีรายได้น้อยก้อนแรก ส.ค.นี้ หลัง ครม.อนุมัติงบ 6 พันล้านให้ พอช.ดำเนินการ 6 ปี ดอกเบี้ยร้อยละ 4 ต่อปีนาน 15 ปี
นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลเพิ่มเงินให้กองทุนสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) 1,000 ล้านบาท เพื่อปล่อยสินเชื่อให้ผู้มีรายได้น้อยในการซื้อที่อยู่อาศัยและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ซึ่งคาดว่าเงินก้อนแรกจะเริ่มนำมาปล่อยสินเชื่อให้ประชาชนเดือนสิงหาคมนี้เป็นต้นไป
หลังจากก่อนหน้านี้ คณะรัฐมนตรีอนุมัติงบประมาณให้ พอช. 6,000 ล้านบาท ดำเนินโครงการ 6 ปีๆ ละ 1,000 ล้านบาท โดย พอช.จะคิดดอกเบี้ยร้อยละ 4 ต่อปี นาน 15 ปี โดยจะให้คณะกรรมการชุมชนเป็นผู้พิจารณาการปล่อยกู้ให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยในชุมชนของตนเองวงเงินไม่เกิน 10 เท่าของเงินออมของแต่ละราย หรือสูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท คาดว่าจะช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยที่ต้องการที่อยู่อาศัย แต่เข้าไม่ถึงแหล่งเงินจากสถาบันการเงิน เนื่องจากมีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ตามที่ธนาคารกำหนด และหากธนาคารของรัฐต้องการเข้ามาร่วมโครงการก็ได้ แต่ต้องใช้เงื่อนไขเดียวกับ พอช.
“รัฐบาลจะแบ่งงบประมาณจากโครงการไทยเข้มแข็ง 6,000 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนซื้อที่อยู่อาศัยโดยจะเน้นประชาชนในชุมชนแออัดเขตเมืองทั่วประเทศที่ได้รับความเดือดร้อนมากที่สุดก่อน เนื่องจากโครงการดังกล่าวประเมินแล้วว่าจะช่วยแก้ปัญหาให้ผู้มีรายได้น้อยมีที่อยู่อาศัยได้เพียง 600,000 ครอบครัวเท่านั้น จากที่ประเมินว่ามีผู้มีรายได้น้อยต้องการที่อยู่อาศัย 1 ล้านครอบครัว หากปีต่อไปไม่มีเงินเพียงพอ หรือช่วยเหลือประชาชนได้ไม่กี่ราย จะตั้งงบประมาณประจำปีแทน” นายอิสระ กล่าว
นายสมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการวิจัยฝ่ายการวิจัยนโยบายเศรษฐกิจส่วนรวม สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวว่า การปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เป็นนโยบายของรัฐบาลที่จะช่วยเหลือประชาชน อยู่แล้ว หากธนาคารพาณิชย์ต้องการปล่อยสินเชื่อในโครงการดังกล่าวต้องคำนึงถึงดอกเบี้ยต่ำ และมีระยะยาวเพื่อไม่ให้เป็นภาระค่าครองชีพของประชาชนส่วนหนึ่งด้วย
นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลเพิ่มเงินให้กองทุนสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) 1,000 ล้านบาท เพื่อปล่อยสินเชื่อให้ผู้มีรายได้น้อยในการซื้อที่อยู่อาศัยและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ซึ่งคาดว่าเงินก้อนแรกจะเริ่มนำมาปล่อยสินเชื่อให้ประชาชนเดือนสิงหาคมนี้เป็นต้นไป
หลังจากก่อนหน้านี้ คณะรัฐมนตรีอนุมัติงบประมาณให้ พอช. 6,000 ล้านบาท ดำเนินโครงการ 6 ปีๆ ละ 1,000 ล้านบาท โดย พอช.จะคิดดอกเบี้ยร้อยละ 4 ต่อปี นาน 15 ปี โดยจะให้คณะกรรมการชุมชนเป็นผู้พิจารณาการปล่อยกู้ให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยในชุมชนของตนเองวงเงินไม่เกิน 10 เท่าของเงินออมของแต่ละราย หรือสูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท คาดว่าจะช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยที่ต้องการที่อยู่อาศัย แต่เข้าไม่ถึงแหล่งเงินจากสถาบันการเงิน เนื่องจากมีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ตามที่ธนาคารกำหนด และหากธนาคารของรัฐต้องการเข้ามาร่วมโครงการก็ได้ แต่ต้องใช้เงื่อนไขเดียวกับ พอช.
“รัฐบาลจะแบ่งงบประมาณจากโครงการไทยเข้มแข็ง 6,000 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนซื้อที่อยู่อาศัยโดยจะเน้นประชาชนในชุมชนแออัดเขตเมืองทั่วประเทศที่ได้รับความเดือดร้อนมากที่สุดก่อน เนื่องจากโครงการดังกล่าวประเมินแล้วว่าจะช่วยแก้ปัญหาให้ผู้มีรายได้น้อยมีที่อยู่อาศัยได้เพียง 600,000 ครอบครัวเท่านั้น จากที่ประเมินว่ามีผู้มีรายได้น้อยต้องการที่อยู่อาศัย 1 ล้านครอบครัว หากปีต่อไปไม่มีเงินเพียงพอ หรือช่วยเหลือประชาชนได้ไม่กี่ราย จะตั้งงบประมาณประจำปีแทน” นายอิสระ กล่าว
นายสมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการวิจัยฝ่ายการวิจัยนโยบายเศรษฐกิจส่วนรวม สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวว่า การปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เป็นนโยบายของรัฐบาลที่จะช่วยเหลือประชาชน อยู่แล้ว หากธนาคารพาณิชย์ต้องการปล่อยสินเชื่อในโครงการดังกล่าวต้องคำนึงถึงดอกเบี้ยต่ำ และมีระยะยาวเพื่อไม่ให้เป็นภาระค่าครองชีพของประชาชนส่วนหนึ่งด้วย
