เปิดจองแล้ววันนี้ กล้าไม้สักทองมงคลสายพันธุ์เสาชิงช้า เผยเดือนกันยายนกำหนดจัดงานฉลองครบรอบ 2 ปี แห่งการบูรณปฏิสังขรณ์เสาชิงช้า พร้อมมอบกล้าไม้สักพระราชทานให้ผู้ว่าฯ จังหวัดทั่วประเทศ
วันนี้ (29 ก.ค.) ที่ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. นายศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายศักรินทร์ ภูมิรัตน ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ร่วมแถลงข่าวเปิดตัวเว็บไซต์ www.klasakmongkol.org เพื่อรับจองกล้าไม้ตามโครงการปลูกต้นสักสายพันธุ์เสาชิงช้าอย่างเป็นทางการ
นายสุวิทย์กล่าวว่า วันนี้จะเป็นวันแรกที่เปิดโอกาสให้หน่วยงานต่างๆ ตลอดประชาชนทั่วไปได้จองกล้าไม้สักทองสายพันธุ์เสาชิงช้าซึ่งศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) ได้จดทะเบียนสายพันธุ์เสาชิงช้าไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับกล้าไม้สักมงคลสายพันธุ์เสาชิงช้าที่จะแจกจ่ายรุ่นแรกในปี 2552 มีจำนวน 20,000 กล้า ปี 2553 จำนวน 280,000 กล้า และปี 2554 อีกจำนวน 700,000 กล้า โดยทางไบโอเทคได้ขยายพันธุ์โดยใช้กรรมวิธีเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ
จากนั้นกรมป่าไม้รับมาดูแลต่อจนเป็นต้นกล้าที่แข็งแรงพร้อมปลูกก่อนจะร่วมกับกทม.แจกจ่ายให้ประชาชนทั่วประเทศ โดยตั้งเป้าจะขยายพันธุ์สักมงคลให้ได้ 1 ล้านต้นในปี 2554 ซึ่งเป็นปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมายุ ครบ 7 รอบ ทั้งนี้ ตนเชื่อมั่นว่าทุกคนที่ได้รับกล้าสักสายพันธุ์เสาชิงช้าจะเกิดความรู้สึกภาคภูมิใจเพราะเพราะเป็นกล้าไม้สักมงคลที่นำมาจากต้นสักที่นำมาบูรณปฏิสังขรณ์เสาชิงช้าใหม่อันเป็นเอกลักษณ์คู่กรุงรัตนโกสินทร์ อีกทั้งจะเป็นการช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียว ลดโลกร้อนอีกด้วย
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ในเดือนกันยายนนี้ กทม.จะจัดงานเนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 2 ปี แห่งการบูรณปฏิสังขรณ์เสาชิงช้า พร้อมกันนี้ จะได้จัดพิธีมอบกล้าไม้สักทองสายพันธุ์เสาชิงช้าที่ได้ขอพระราชทานน้อมเกล้าฯ ถวายกล้าสักมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อพระราชทานให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด เพื่อความเป็นสิริมงคลทั่วประเทศ
นายศักดิ์สิทธิ์กล่าวว่า สำหรับการจองกล้าไม้สักสายพันธุ์เสาชิงช้านั้น ขั้นตอนการจองไม่ยุ่งยาก โดยเข้าไปที่ใช้ www.klasakmongkol.org หรือเว็บไซต์ของ กทม. กรมป่าไม้ แล้วคลิกเข้ามาที่แบนเนอร์จองกล้าสัก จากนั้นกรอกหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลักเป็นตัวกำหนดในการเข้าสู่หน้าข้อมูลส่วนบุคคลของผู้จองและสถานที่ที่จะปลูกกล้าไม้สัก เพื่อเป็นฐานข้อมูลที่กรมป่าไม้จะใช้ติดตามและให้คำแนะนำในการดูแลรักษาต้นสักต่อไป บุคคลทั่วไปจองได้คนละ 1 ต้น ส่วนหน่วยงานของรัฐรับได้ 9 ต้น ซึ่งผู้จองสามารถเลือกระบุสถานที่รับกล้าไม้ที่สะดวกที่สุด สำหรับประชาชนที่อยู่ในกรุงเทพฯ สามารถเลือกรับที่สวนสาธารณะ กทม. อุทยานวิทยาศาสตร์ ไบโอเทค ส่วนต่างจังหวัดสามารถรับได้ที่ศูนย์เพาะชำกล้าไม้ หรือสถานีเพาะชำกล้าไม้ของกรมป่าไม้ ทุกจังหวัดทั่วประเทศ เมื่อกรอกข้อมูลการจองแล้วสามารถสั่งพิมพ์ใบแสดงผล เพื่อนำไปรับกล้าสักมงคลสถานที่ที่ระบุไว้ในใบจองตั้งเดือนกันยายนนี้ โดยให้แสดงบัตรประชาชนของผู้จองด้วย ซึ่งผู้ที่ได้รับกล้าสักทองจะได้รับคู่มือการปลูกกล้าไม้สักมงคลสายพันธุ์เสาชิงช้า
วันนี้ (29 ก.ค.) ที่ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. นายศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายศักรินทร์ ภูมิรัตน ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ร่วมแถลงข่าวเปิดตัวเว็บไซต์ www.klasakmongkol.org เพื่อรับจองกล้าไม้ตามโครงการปลูกต้นสักสายพันธุ์เสาชิงช้าอย่างเป็นทางการ
นายสุวิทย์กล่าวว่า วันนี้จะเป็นวันแรกที่เปิดโอกาสให้หน่วยงานต่างๆ ตลอดประชาชนทั่วไปได้จองกล้าไม้สักทองสายพันธุ์เสาชิงช้าซึ่งศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) ได้จดทะเบียนสายพันธุ์เสาชิงช้าไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับกล้าไม้สักมงคลสายพันธุ์เสาชิงช้าที่จะแจกจ่ายรุ่นแรกในปี 2552 มีจำนวน 20,000 กล้า ปี 2553 จำนวน 280,000 กล้า และปี 2554 อีกจำนวน 700,000 กล้า โดยทางไบโอเทคได้ขยายพันธุ์โดยใช้กรรมวิธีเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ
จากนั้นกรมป่าไม้รับมาดูแลต่อจนเป็นต้นกล้าที่แข็งแรงพร้อมปลูกก่อนจะร่วมกับกทม.แจกจ่ายให้ประชาชนทั่วประเทศ โดยตั้งเป้าจะขยายพันธุ์สักมงคลให้ได้ 1 ล้านต้นในปี 2554 ซึ่งเป็นปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมายุ ครบ 7 รอบ ทั้งนี้ ตนเชื่อมั่นว่าทุกคนที่ได้รับกล้าสักสายพันธุ์เสาชิงช้าจะเกิดความรู้สึกภาคภูมิใจเพราะเพราะเป็นกล้าไม้สักมงคลที่นำมาจากต้นสักที่นำมาบูรณปฏิสังขรณ์เสาชิงช้าใหม่อันเป็นเอกลักษณ์คู่กรุงรัตนโกสินทร์ อีกทั้งจะเป็นการช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียว ลดโลกร้อนอีกด้วย
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ในเดือนกันยายนนี้ กทม.จะจัดงานเนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 2 ปี แห่งการบูรณปฏิสังขรณ์เสาชิงช้า พร้อมกันนี้ จะได้จัดพิธีมอบกล้าไม้สักทองสายพันธุ์เสาชิงช้าที่ได้ขอพระราชทานน้อมเกล้าฯ ถวายกล้าสักมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อพระราชทานให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด เพื่อความเป็นสิริมงคลทั่วประเทศ
นายศักดิ์สิทธิ์กล่าวว่า สำหรับการจองกล้าไม้สักสายพันธุ์เสาชิงช้านั้น ขั้นตอนการจองไม่ยุ่งยาก โดยเข้าไปที่ใช้ www.klasakmongkol.org หรือเว็บไซต์ของ กทม. กรมป่าไม้ แล้วคลิกเข้ามาที่แบนเนอร์จองกล้าสัก จากนั้นกรอกหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลักเป็นตัวกำหนดในการเข้าสู่หน้าข้อมูลส่วนบุคคลของผู้จองและสถานที่ที่จะปลูกกล้าไม้สัก เพื่อเป็นฐานข้อมูลที่กรมป่าไม้จะใช้ติดตามและให้คำแนะนำในการดูแลรักษาต้นสักต่อไป บุคคลทั่วไปจองได้คนละ 1 ต้น ส่วนหน่วยงานของรัฐรับได้ 9 ต้น ซึ่งผู้จองสามารถเลือกระบุสถานที่รับกล้าไม้ที่สะดวกที่สุด สำหรับประชาชนที่อยู่ในกรุงเทพฯ สามารถเลือกรับที่สวนสาธารณะ กทม. อุทยานวิทยาศาสตร์ ไบโอเทค ส่วนต่างจังหวัดสามารถรับได้ที่ศูนย์เพาะชำกล้าไม้ หรือสถานีเพาะชำกล้าไม้ของกรมป่าไม้ ทุกจังหวัดทั่วประเทศ เมื่อกรอกข้อมูลการจองแล้วสามารถสั่งพิมพ์ใบแสดงผล เพื่อนำไปรับกล้าสักมงคลสถานที่ที่ระบุไว้ในใบจองตั้งเดือนกันยายนนี้ โดยให้แสดงบัตรประชาชนของผู้จองด้วย ซึ่งผู้ที่ได้รับกล้าสักทองจะได้รับคู่มือการปลูกกล้าไม้สักมงคลสายพันธุ์เสาชิงช้า