xs
xsm
sm
md
lg

สธ.ยันไม่มีใครตายจากวัคซีนหวัดใหญ่ธรรมดา เผยจ่ายทามิฟลูสู่คลินิกต้องรอมติก่อน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โอเซลทามิเวียร์ หรือ ทามิฟลู (ภาพประกอบจากอินเทอร์เนต)
รมว.สธ.ยืนยันยังไม่มีใครเสียชีวิตจากวัคซีนไข้หวัดใหญ่ธรรมดา ระบุขณะนี้กระจายโอเซลทามิเวียร์ไปตามโรงพยาบาลแล้ว ส่วนระดับคลินิกต้องรอผลมติจากอนุกรรมการก่อน ระบุฝ่ายค้านไม่ควรจับโยงประเด็นการเมือง

วันนี้ (28 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อช่วงเช้าที่ผ่ายมา นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงการกระจายยาโอเซลทามิเวียร์ไปยังโรงพยาบาลต่างๆ ว่า ขณะนี้แจกจ่ายยาไปยังโรงพยาบาลทั่วประเทศแล้ว ส่วนคลินิกที่มีอยู่กว่า 10,000 แห่ง กำลังรอมติของคณะอนุกรรมการที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์การแพทย์และสาธารณสุข ที่ประชุมกันเมื่อวานนี้ (27 ก.ค.) จะเป็นผู้กำหนดแผนยุทธศาสตร์ของกระทรวง ซึ่งการกระจายยาไปยังคลินิก ต้องอยู่บนเงื่อนไขของการเฝ้าระวังการดื้อยาด้วย

“ส่วนที่มีหญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ต้องเฝ้าระวังเช่นกัน เพราะอยู่ในกลุ่มเสี่ยง ซึ่งผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง มีทั้งคนตั้งครรภ์ คนที่มีสุขภาพไม่ดี มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับตับ ไต หัวใจ โรคอ้วน และความดัน ถ้าเจ็บป่วยก็ต้องพบแพทย์ในทันที เพื่อจะได้รับการรักษาได้ทัน” นายวิทยา กล่าว
โอเซลทามิเวียร์ หรือ ทามิฟลู (ภาพประกอบจากอินเทอร์เนต)
ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านระบุว่ามีผู้ที่ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ธรรมดาแล้วเสียชีวิต นายวิทยากล่าวว่า ฝ่ายค้านพยายามทำให้เป็นเรื่องการเมืองและสร้างความสับสน ขณะนี้ในโลกยังไม่มีวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 และวัคซีนที่ใช้อยู่ในปัจจุบันเป็นวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ธรรมดา ซึ่งจะฉีดให้กับกลุ่มเสี่ยง คือ ผู้สูงอายุและเด็ก ซึ่งไม่ใช่เรื่องใหม่ ใช้กันมาหลายปีแล้ว อย่างไรก็ตาม ยังไม่เคยมีรายงานทางการแพทย์ว่ามีผู้เสียชีวิตจากการได้รับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ธรรมดา

“ความพยายามสร้างความสับสนจะทำให้กระบวนการทางการแพทย์มีปัญหา ท่านที่เล่นการเมืองต้องระวัง เพราะทั้งหมดนี้เดิมพันด้วยชีวิตของประชาชน กระทรวงสาธารณสุขพยายามทำในกรอบของการชี้แนะทางวิชาการที่ถูกต้อง ส่วนวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ประเทศไทยจะเป็นประเทศในลำดับต้นๆ ที่จะได้รับ คาดว่าประมาณเดือน ธ.ค.นี้” นายวิทยา กล่าว

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า หลังจากได้ออกมาตรการปิดโรงเรียนกวดวิชาครบ 15 วันแล้ว ยังไม่มีมาตรการอะไรเพิ่มเติม และโรงเรียนกวดวิชาก็เปิดทำการสอนได้ตามปกติ แต่ต้องมีระบบคัดกรองเด็กก่อนเข้าเรียน เช่นเดียวกับโรงเรียนทั่วไป หากพบเด็กมีอาการป่วย ให้กลับบ้าน หรือหากไม่สามารถกลับได้ ทางโรงเรียนต้องมีห้องให้พัก และหากมีอาการหนัก ต้องส่งโรงพยาบาล

“ขณะนี้ยังไม่มีนโยบายปิดโรงเรียนทั้งจังหวัด หากมีการแพร่ระบาดในพื้นที่ ก็ให้แต่ละพื้นที่เป็นผู้พิจารณาเอง ทั้งนี้มีโรงเรียนที่ปิดการเรียนการสอนแล้ว 183 แห่ง โดยมียอดเด็กติดเชื้อทั่วประเทศ 371 คน” นายจุรินทร์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น