xs
xsm
sm
md
lg

หาดใหญ่โพลเผย ปชช.วิตกหวัดใหญ่ 2009 กว่าร้อยละ 70 เปลี่ยนพฤติกรรม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – หาดใหญ่โพลระบุประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 73.2 มีความวิตกกังวลกับสถานการณ์ไข้หวัดใหญ่ 2009 โดยร้อยละ 67.4 มีความไม่มั่นใจต่อมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขในการป้องกัน ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจ ทำให้ส่วนใหญ่ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมป้องกันและหลีกเลี่ยงตนเองจากภาวะเสี่ยงติดเชื้อ

หาดใหญ่โพล โดยสำนักวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจ ความคิดเห็นของประชาชนใน 14 จังหวัดภาคใต้ เกี่ยวกับสถานการณ์และผลกระทบจากปัญหาโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 โดยเก็บรวบรวมข้อมูลประชาชน จำนวน 1,292 ตัวอย่าง และใช้แบบสำรวจเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล ดำเนินการสำรวจระหว่างวันที่ 15-17 กรกฎาคม 2552 สรุปผลการสำรวจ ดังนี้

สรุปผลการสำรวจประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 73.2 มีความวิตกกังวลกับสถานการณ์ไข้หวัดใหญ่ 2009 (ซึ่งมากกว่าเดือนพฤษภาคม 2552 ร้อยละ 64.8) มีเพียงร้อยละ 21.4 ไม่วิตกกังวลกับสถานการณ์ไข้หวัดใหญ่ 2009 ส่วนความคิดเห็นเกี่ยวกับความมั่นใจต่อมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดไข้หวัดใหญ่ 2009 พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 67.4 มีความไม่มั่นใจต่อมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขในการป้องกันการแพร่ระบาดไข้หวัดใหญ่ 2009 และร้อยละ 24.5 มีความมั่นใจต่อมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งตรงกันข้ามกับผลสำรวจเมื่อเดือนพฤษภาคม 2552 ที่ประชาชนร้อยละ 50.3 มั่นใจต่อมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข

นอกจากนี้ประชาชนร้อยละ 8.6 คิดว่าบุคคลภายในครอบครัวมีอาการเป็นไข้หวัดใหญ่ 2009 และร้อยละ 6.5 ไม่แน่ใจว่าบุคคลภายในครอบครัวมีอาการเป็นไข้หวัดใหญ่ 2009 โดยที่ประชาชนร้อยละ 84.9 ไม่มีอาการเป็นไข้หวัดใหญ่ 2009
ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 73.8 เห็นว่าการที่โรงพยาบาลเอกชน เรียกเก็บเงินในการตรวจโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ในราคา 3,500 บาท นั้นสูงเกินไป มีเพียงร้อยละ 26.2 ที่เห็นด้วยกับการเรียกเก็บเงินของโรงพยาบาลเอกชน ทั้งนี้ประชาชนเห็นว่าโรงพยาบาลควรเรียกเก็บในอัตรา 1,900 บาทต่อคน

ส่วนความคิดเห็นเกี่ยวกับมาตรการปิดโรงเรียนกวดวิชา พบว่า ประชาชนร้อยละ 48.5 เห็นว่าจะไม่ช่วยให้ผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ 2009 มีเพียงร้อยละ 39.7 ที่เห็นว่าจะทำให้ผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ 2009 ลดลง นอกจากนี้ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 62.1 เห็นว่าควรหยุดหรือลดการเดินห้างสรรพสินค้าในวันเสาร์-อาทิตย์ มากที่สุด รองลงมา ควรมีมาตรการบังคับให้ผู้ป่วยสวมหน้ากาก และการปิดโรงเรียน 5 วัน คิดเป็นร้อยละ 60.1 และ 50.3 ตามลำดับ นอกจากนี้ประชาชนร้อยละ 46.2 เห็นด้วยกับการออกกฎหมายบังคับให้ผู้ป่วยสวมหน้ากากอนามัย ซึ่งมากกว่าไม่เห็นด้วย (ร้อยละ 44.9 )

ประชาชนร้อยละ 46.3 เห็นว่าการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ มากที่สุด รองลงมา ส่งผลกระทบต่อปัญหาสาธารณสุข ความเชื่อมั่นของประชาชน และปัญหาการท่องเที่ยว คิดเป็นร้อยละ 21.2 13.0 และ 12.7 ตามลำดับ ส่วนความคิดเห็นต่อผลกระทบต่อจำนวนนักท่องเที่ยว พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 78.0 มีผลกระทบต่อจำนวนนักท่องเที่ยวในระดับมากถึงมากที่สุด และร้อยละ 18.6 มีผลกระทบอยู่ในระดับปานกลาง มีเพียงร้อยละ 3.7 มีผลกระทบต่อปัญหาจำนวนนักท่องเที่ยวในระดับน้อยถึงน้อยที่สุด ซึ่งสอดคล้องกับผลกระทบต่อการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาล พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 72.0 เห็นว่าการระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 มีผลกระทบต่อการแก้ปัญหาเศรษฐกิจในระดับมากถึงมากที่สุด

ส่วนความคิดเห็นเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหลังจากการระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 80.8 มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสนใจข่าวเกี่ยวกับไข้หวัดใหญ่ 2009 มากที่สุด รองลงมา มีพฤติกรรมล้างมือบ่อยขึ้นด้วยน้ำหรือเจลล้างมือ ใช้ช้อนกลางในการตักอาหารเพิ่มขึ้น ไม่เดินในที่มีผู้คนหนาแน่น เช่น ห้างสรรพสินค้า และรับประทานอาหารที่ได้ปรุงสุกใหม่ๆ คิดเป็นร้อยละ 74.5 66.1 64.4 และ 61.3 ตามลำดับ ทั้งนี้ประชาชนยังไม่มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ การหยุดเรียน/หยุดงานขณะมีไข้ ออกกำลังกายเป็นประจำ และสวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่ในที่ชุมชน เป็นต้น
กำลังโหลดความคิดเห็น