“สุขุมพันธุ์” แห้ว เจรจา เจเนอรัลฯ เจ้าของรถดับเพลิงฉาว ยันไทยต้องจ่ายเงินงวดที่ 6 ในวันที่ 10 ส.ค.เช่นเดิม ขณะที่ กทม.ร้องศาลคุ้มครองชั่วคราว คาดรู้ผล 1-2 วันนี้ ด้านโฆษก กทม.ยันเป็นการส่งสัญญาณให้คู่กรณีรู้เรื่องไม่จบที่ไทยแน่นอน
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ออกแถลงการณ์เรื่องการเดินทางไปประเทศสหรัฐอเมริกา กรณีปัญหารถและเรือดับเพลิง หลังจากที่ได้เดินทางไปเพื่อเจรจากับบริษัท เจเนอรัล ไดนามิกส์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของบริษัท สไตเออร์ เดมเลอร์พุค สเปเชียลฟาร์ซอย ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.ประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 21-24 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยสรุปใจความดังนี้ คือ ในช่วงเวลาดังกล่าวผู้ว่าฯ กทม.ได้ดำเนินการ 1.ผู้ว่าฯ กทม.ได้พบกับที่ปรึกษาทางกฎหมายและที่ปรึกษาทางการเมืองระดับอาวุโส เมื่อวันที่ 22-23 กรกฎาคม เพื่อรับฟังข้อมูลและข้อคิดเห็นเบื้องต้นเกี่ยวกับวิธีการดำเนินการต่อไปในเรื่องนี้ รวมถึงการดำเนินการตามกระบวนการอนุญาโตตุลาการจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งมีประสบการณ์ในเรื่องนี้อย่างมาก ซึ่งข้อมูลที่ได้รับจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพิจารณาแนวทางในการดำเนินการต่อไป
2.ผู้ว่าฯ กทม.ได้พบกับผู้บริหารระดับสูงของบริษัท เจเนอรัล ไดนามิกส์ เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม ซึ่งถือเป็นการพบกันครั้งแรกของผู้บริหารทั้ง 2 ฝ่าย และเป็นจุดเริ่มต้นของการเจรจาฉันท์มิตร โดยบริษัท เจเนอรัลฯ พร้อมที่จะให้มีการเจรจาร่วมกันต่อไป ในส่วนข้อเรียกร้องของ กทม.ที่ขอให้มีการชะลอการจ่ายเงินงวดที่ 6 ในวันที่ 10 สิงหาคม 2552 นั้น บริษัท เจเนอรัลฯ มีความเห็นว่า บริษัทไม่อยู่ในฐานะที่จะให้มีการระงับเงินได้ เนื่องจากเป็นเรื่องระหว่างธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กับ ธนาคาร Raiffeien Zentral Bank กรุงเวียนนา สาธารณรัฐออสเตรีย
ด้วยเหตุที่ กทม.ไม่สามารถทราบว่าการเจรจากับบริษัท เจเนอรัลฯ จะใช้ระยะเวลานานเท่าไร กทม.จึงได้เตรียมการเพื่อขอรับความคุ้มครองชั่วคราวจากศาลในการระงับการชำระเงินงวดต่อไป และหากการเจรจากับบริษัท เจเนอรัลฯ ไม่มีความคืบหน้า กทม.จะดำเนินการทางกฎหมายในแนวทางอื่นต่อไป
ด้านนายธราดล เปี่ยมพงศ์สานต์ โฆษก กทม.กล่าวเพิ่มเติมว่า การเดินทางไปครั้งนี้ ได้เจรจากับผู้บริหารระดับอาวุโส ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณให้ทางนั้นรู้ว่าเรื่องนี้จะไม่ได้อยู่เฉพาะประเทศไทยและพร้อมนำต่อสู้ในระดับสากล หลังจากที่ทาง บ.สไตเออร์ฯ และ บ.เจเนอรัลฯ แทบจะไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเท่าใดนัก อย่างไรก็ตาม ตนไม่สามารถที่จะเปิดเผยรายละเอียดการเจรจาบางส่วนได้ เพราะเกี่ยวข้องกับข้อกฎหมาย แต่หากจะมีการฟ้องร้องจนถึงกระบวนการอนุญาโตตุลาการนั้น ทาง กทม.คงต้องจ้างนักกฎหมายที่มีความเชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ด้านนี้โดยตรง ส่วนการที่ กทม.ยื่นเรื่องให้ทางสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ฟ้องศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวระงับการจ่ายเงินในงวดวันที่ 1 สิงหาคมนั้น คาดว่า ทาง อสส.จะตอบกลับมาภายใน 1-2 วันนี้
