วธ.ป้องกันเอกสารโบราณกว่า 5 แสนรายการเข้ม วางมาตรการติดกล้องวงจรปิดในหอสมุดแห่งและหอจดหมายเหตุแห่งชาติ หวั่นถูกโจรกรรมทำนองเดียวกับเอกสารที่หอสมุดกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ขณะที่กรมศิลป์เตรียมแก้ปัญหาคนใน ขออัตราบุคลากรจาก ก.พ.เพิ่ม
นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) กล่าวว่า จากกรณีที่มีการโจรกรรมเอกสารโบราณที่หอสมุดกรมพระยาดำรงราชานุภาพนั้น สร้างความกังวลให้แก่สังคมว่า จะเกิดเหตุการณ์ในทำนองเดียวกันกับหอสมุดแห่งชาติ และหอจดหมายเหตุแห่งชาติ ซึ่งมีเอกสารโบราณ และสนธิสัญญาต่างๆ จำนวนกว่า 500,000 รายการหรือไม่ ซึ่งวธ.ไม่ได้นิ่งนอนใจ จึงได้กำหนดมาตรการป้องกัน ดังนี้ 1.ติดตั้งกล้องวงจรปิดรักษาความปลอดเพิ่มขึ้นรอบบริเวณภายในและภายนอกอาคารหอสมุดแห่งชาติ และหอจดหมายเหตุแห่งชาติ 2.พัฒนาความรู้บุคลากรในการเฝ้าระวังและป้องกันเอกสารโบราณ 3.ให้บริการการศึกษา และค้นคว้าด้วยระบบออนไลน์ ซึ่งจะช่วยให้เกิดความสะดวก และลดความเสียหายของเอกสารโบราณ
ด้านนายเกรียงไกร สัมปัชชลิต อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า การโจรกรรมเอกสารโบราณที่หอสมุดกรมพระยาดำรงราชานุภาพ เกิดจาก บุคลากรภายใน ดังนั้น ในส่วนของหอสมุดแห่งชาติ และหอจดหมายเหตุแห่งชาติ กรมศิลปากร จะต้องเข้าไปดูในเรื่องบุคลากร ด้านการรักษาความปลอดภัยมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบัน บุคลากร ของกรมศิลปากรมีน้อยลง การรับเข้ามาใหม่จะทำได้แค่ พนักงานราชการ หรือลูกจ้าง เท่านั้น จึงทำให้ได้รับค่าตอบแทนคงที่ขาดโอกาสการพัฒนาตนเอง ไม่เหมือนกับข้าราชการ ที่มีสวัสดิการ มีเงินเดือนขึ้น ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ หากบุคคลากรไม่ดี อุปกรณ์ดี ก็ช่วยแก้ปัญหาการโจรกรรมไม่ได้ ตนจะต้องมีการกำหนดเป็นนโยบายสำคัญของกรมศิลปากรที่จะพัฒนาบุคคลากร พร้อมทั้งต้องหารือกับทาง สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(ก.พ.) ในการเพิ่มอัตรากำลังข้าราชการให้มีมากขึ้น
“กรมศิลปากร มีระบบการคัดกรองบุคลากรที่เข้ารักษาความปลอดภัย หอสมุดแห่งชาติ และหอจดหมายเหตุแห่งชาติ รวมทั้งจะมีการติดตั้งอุปกรณ์ รักษาความปลอดภัยเพิ่มขึ้นด้วย ในขณะเดียวกัน กรมศิลปากร จะจัดทำคู่มือการปฏิบัติงานให้บุคลากรภายใน ในการเฝ้าระวังมรดกของชาติและจะกำหนดเป็นนโยบายสำคัญเสนอต่อกระทรวงวัฒนธรรมด้วย”อธิบดีกรมศิลปากร กล่าว