พส.เผยยอดอุปการะเด็กถูกทิ้งมีแนวโน้มลด ชี้ต่างชาติรับเด็กไทยเป็นบุตรบุญธรรมกว่าหมื่นคน

พส.เผยสถิติช่วยเหลือเด็กถูกทอดทิ้งเข้าอุปการะตั้งแต่ปี 2549-2552 มีแนวโน้มลดลง ศูนย์อำนวยการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม ระบุจนถึงตอนนี้มอบเด็กเป็นบุตรบุญธรรมแก่ครอบครัวคนไทย 8 หมื่นกว่าคน ครอบครัวต่างชาติอีกว่าหมื่นคน เตรียมจัดงานสู่มาตุภูมิ ครั้งที่ 6 นำเด็กไทยที่ต่างชาติรับอุปการะกลับเยี่ยมบ้านเกิด ย้ำเตือนความเป็นไทย พร้อมติดตามผลการเลี้ยงดู

วันนี้ (10 ก.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี นางพนิตา กำภู ณ อยุธยา อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ(พส.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นประธานการแถลงข่าวจัดงานโครงการสู่มาตุภูมิ ครั้งที่ 6 (The Nativeland Visit Program VI) พร้อมทั้งกล่าวว่า จากปัญหาการทอดทิ้งเด็กในประเทศไทย ทำให้ที่ผ่านมา พม.ได้ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ในการป้องกันปัญหามารดาทอดทิ้งบุตรภายหลังคลอดในโรงพยาบาล และช่วยเหลือดูแลอุปการะเด็กที่พ่อแม่ไม่มีความพร้อมเป็นการชั่วคราวและถาวร

ส่วนเด็กที่ถูกทอดทิ้ง เมื่อรับเข้าไว้ในความอุปการะแล้วก็จะติดตามสืบหาครอบครัวเดิม เพื่อส่งเด็กคืนให้กับครอบครัว หรือญาติโดยเร็วที่สุด ซึ่งจากสถิติการรับเด็กเข้าอุปการะ พบว่ามีแนวโน้มลดลง คือ ปี 2549 จำนวน 202 คน ปี 2550 จำนวน 190 คน ปี 2551 จำนวน 136 คน และ ปี 2552 (พ.ค.) จำนวน 81 คน โดยปัจจุบันมีเด็กถูกทอดทิ้งและเด็กที่ครอบครัวประสบปัญหาต่างๆ ไม่สามารถเลี้ยงดูได้อยู่ในความดูแลของสถานสงเคราะห์เด็กอ่อน 8 แห่งทั่วประเทศ จำนวน 1,731 คน

“ศูนย์อำนวยการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม จะจัดหาครอบครัวบุญธรรมให้แก่เด็กได้โดยชอบด้วยกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.การรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม พ.ศ.2552 เพื่อเป็นการป้องกันการซื้อขายเด็ก คุ้มครองสวัสดิภาพ และสิทธิของเด็กที่เป็นบุตรบุญธรรม บิดามารดาบุญธรรม และบิดามารดาผู้ให้กำเนิด ในการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมทั้งคนไทยและต่างประเทศจะต้องผ่านการตรวจสอบทั้งคุณสมบัติ ความเหมาะสมทั้งด้านกฎหมายและสังคม ปัจจุบันได้มอบเด็กให้แก่ครอบครัวชาวไทย 82,029 คน ครอบครัวชาวต่างชาติ 10,020 คน รวม 92,049 คนแล้ว” นางพนิตา กล่าว

นางพนิตากล่าวต่อว่า สำหรับโครงการสู่มาตุภูมิ (Nativeland Visit Program) นั้นได้จัดขึ้นทุก 3 ปี เพื่อให้เด็กไทยที่เป็นบุตรบุญธรรมในครอบครัวชาวต่างประเทศได้เดินทางกลับมาเยี่ยมแผ่นดินเกิด ได้รู้จักเรียนรู้ขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรมความเป็นไทย เพื่อให้เกิดความรัก ความผูกพัน และความภาคภูมิใจในประเทศบ้านเกิด อีกทั้งยังเป็นการติดตามผลการเลี้ยงดูเด็กอีกทางหนึ่งด้วย

“การติดตามผลเด็กไทยในครอบครัวชาวต่างชาติ ทำในหลายรูปแบบ เช่น ผู้บริหาร พม. เข้าร่วมประชุมงานบุตรบุญธรรมระหว่างประเทศ ก็จะมีโอกาสได้เยี่ยมครอบครัวบุญธรรม หรือครอบครัวบุญธรรม ได้พาบุตรบุญธรรมมารับน้องบุญธรรมเพิ่มขึ้น รวมทั้งกลับมาเยี่ยมสถานสงเคราะห์เด็กที่เคยอยู่ พบกับพี่เลี้ยง และมีหลายครอบครัวได้แจ้งขอให้ติดตามหาครอบครัวที่แท้จริง หรือบุตรบุญธรรมที่โตแล้ว เดินทางมาท่องเที่ยว และได้พบกับนักสังคมสงเคราะห์ของศูนย์ฯ ส่วนใหญ่ได้แจ้งความจำนงขอให้ติดตามบิดา มารดาผู้ให้กำเนิด เป็นต้น” นางพนิตากล่าว

อธิบดี พส.กล่าวด้วยว่า สำหรับโครงการดังกล่าวได้จัดมาแล้ว 5 ครั้ง และในโอกาสครบรอบ 30 ปี ของการจัดตั้งศูนย์อำนวยการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม และการประกาศใช้ พ.ร.บ.การรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม พ.ศ.2552 กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้กำหนดจัด “โครงการสู่มาตุภูมิ ครั้งที่ 6” ขึ้นระหว่างวันที่ 19-25 กรกฎาคมนี้ โดยมีครอบครัวชาวต่างประเทศเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 100 ครอบครัว จาก 14 ประเทศ ได้แก่ ไอร์แลนด์ ออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร ฟินแลนด์ นอร์เวย์ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ แคนาดา เดนมาร์ก นิวซีแลนด์ สวีเดน และเนเธอร์แลนด์ เข้าร่วมกิจกรรมสำคัญๆ ทั้ง การเข้าพบบุคคลสำคัญของไทย การเยี่ยมชมสถานที่สำคัญ และการเยี่ยมสถานสงเคราะห์เด็กซึ่งเป็นบ้านเดิมของเด็ก เป็นต้น