ฟ้าฝนไม่ค่อยเป็นใจแบบนี้ วันหยุดทั้งทีจะออกไปหาของอร่อยๆ กินเพื่อเป็นรางวัลที่ตรากตรำทำงานมาตลอด 5-6 วัน ในรอบสัปดาห์เสียหน่อย เดี๋ยวก็ฝนตก เดี๋ยวก็แดดเปรี้ยง แค่เห็นอากาศก็เล่นเอาไม่อยากออกไปนอกบ้าน แต่ก็อยากกินของอร่อยๆ อยู่ดี...ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังเจอปัญหาแบบนี้ รพ.นครธน มีตัวเลือกเป็นเมนูแสนอร่อย แถมดีต่อสุขภาพอย่าง “ข้าวผัดสมุนไพร” ตำรับ “นครธน” มาฝากกัน
สำหรับเชฟกิตติมศักดิ์ในครั้งนี้ก็จะเป็นใครไปมิได้ นอกจากหนุ่มเนื้อหอมอย่าง “เพชร” - ปิยะเดช ทองสิมา ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร รพ.นครธน ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ “รศ.ญาณเดช ทองสิมา” ประธานกรรมการบริหาร รพ.นครธน นั่นเอง

อาจารย์ญาณเดช แนะนำว่า ส่วนผสมของข้าวผัดสมุนไพรนั้นหาได้ไม่ยากเลยในครัว จะมีพิเศษก็คือกุ้งที่อาจจะต้องซื้อเพิ่ม นอกนั้นเป็นของประจำที่ครัวส่วนใหญ่มักจะมีติดไว้อยู่แล้ว ทั้งยังแนะเคล็ดไม่ลับอีกเล็กน้อยว่า หากเป็นไปได้ ควรใช้ข้าวกล้องและน้ำมันรำข้าว ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกาย
สำหรับส่วนผสมทั้งหมดที่ต้องเตรียมก่อนลงมือผัด ก็ได้แก่ ข้าวสวยกล้อง 1 ถ้วย, กุ้งมีหาง 5 ตัว คลุกน้ำมันพอให้ไม่ติดกระทะเวลาผัด, หอมแดงหั่นฝอยทอดพอเหลือง 1 ช้อนโต๊ะ, กระเทียมหั่นบางๆ ทอดพอเหลือง 1 ช้อนโต๊ะ, ตะไคร้หั่นบางๆ ทอดพอเหลือง 1 ช้อนโต๊ะ, ใบมะกรูดหั่นฝอย 1 ช้อนโต๊ะ, พริกชี้ฟ้าแดงหั่นฝอย 1 ช้อนโต๊ะ, ใบสะระแหน่ 2-3 ใบ, น้ำพริกเผา 2 ช้อนโต๊ะ, น้ำปลา 3 ช้อนชา, น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา, น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ, น้ำมันรำข้าว 1 ช้อนโต๊ะ, แตงกวาหั่น, ขิงดอง และใบกะเพราทอดกรอบ
ขณะที่ ปิยะเดช อธิบายวิธีทำไปพร้อมๆ กับทำให้ดู และรับรองอย่างแข็งขัน ว่า ไม่ยากจริงๆ ขนาดหนุ่มโสดที่ไม่ค่อยได้เข้าครัวอย่างเขา ยังทำเมนูนี้ได้อย่างคล่องมือ
“เอาน้ำมันใส่กระทะตั้งให้พอร้อนครับ จากนั้นนำน้ำพริกเผาลงไปผัดให้หอม ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ มะนาว ผัดๆ ให้มันเข้ากัน จากนั้นก็เอาสมุนไพรพวกหอมแดง กระเทียม พริก ตะไคร้ แต่ตะไคร้ไม่ต้องหมดนะครับ เหลือไว้แต่งจานนิดหน่อย แล้วก็ผัดให้ส่วนผสมเข้ากัน แล้วก็เอาข้าวกล้องลงไป ผัดๆ ให้มันเข้ากัน จากนั้นก็ใส่ใบมะกรูด และพริกชี้ฟ้าแดงลงไป เป็นอันเสร็จ”
หนุ่มหล่ออนาคตไกลรายนี้ อธิบายต่ออีกว่า จะให้สวยน่ารับประทาน ต้องจัดใส่จานและเสิร์ฟพร้อมแตงกวาหั่น ขิงดอง ใบกะเพราทอดกรอบ หอมแดงทอด กระเทียมทอด ตะไคร้ทอดที่เหลือ และปิดท้ายด้วยใบสะระแหน่อีกเล็กน้อย เท่านี้สมุนไพรก้นครัวของคุณ ก็จะกลายเป็นอาหารจานเด็ดที่ทั้งอร่อยแถมได้สุขภาพ
“ข้าวกล้องอุดมไปด้วยวิตามินและมีเส้นใย น้ำมันรำข้าวเป็นน้ำมันดี มีไขมันดี เหมือนน้ำมันมะกอก แต่ราคาถูกกว่าและเป็นของในประเทศที่ไม่แพง สมุนไพรไทยมีประโยชน์มาก เมื่อนำมาทำเป็นอาหารก็อร่อย ไม่อ้วน และดีต่อร่างกาย” อาจารย์ญาณเดช ให้คำแนะนำทิ้งท้าย
สำหรับเชฟกิตติมศักดิ์ในครั้งนี้ก็จะเป็นใครไปมิได้ นอกจากหนุ่มเนื้อหอมอย่าง “เพชร” - ปิยะเดช ทองสิมา ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร รพ.นครธน ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ “รศ.ญาณเดช ทองสิมา” ประธานกรรมการบริหาร รพ.นครธน นั่นเอง
อาจารย์ญาณเดช แนะนำว่า ส่วนผสมของข้าวผัดสมุนไพรนั้นหาได้ไม่ยากเลยในครัว จะมีพิเศษก็คือกุ้งที่อาจจะต้องซื้อเพิ่ม นอกนั้นเป็นของประจำที่ครัวส่วนใหญ่มักจะมีติดไว้อยู่แล้ว ทั้งยังแนะเคล็ดไม่ลับอีกเล็กน้อยว่า หากเป็นไปได้ ควรใช้ข้าวกล้องและน้ำมันรำข้าว ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกาย
สำหรับส่วนผสมทั้งหมดที่ต้องเตรียมก่อนลงมือผัด ก็ได้แก่ ข้าวสวยกล้อง 1 ถ้วย, กุ้งมีหาง 5 ตัว คลุกน้ำมันพอให้ไม่ติดกระทะเวลาผัด, หอมแดงหั่นฝอยทอดพอเหลือง 1 ช้อนโต๊ะ, กระเทียมหั่นบางๆ ทอดพอเหลือง 1 ช้อนโต๊ะ, ตะไคร้หั่นบางๆ ทอดพอเหลือง 1 ช้อนโต๊ะ, ใบมะกรูดหั่นฝอย 1 ช้อนโต๊ะ, พริกชี้ฟ้าแดงหั่นฝอย 1 ช้อนโต๊ะ, ใบสะระแหน่ 2-3 ใบ, น้ำพริกเผา 2 ช้อนโต๊ะ, น้ำปลา 3 ช้อนชา, น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา, น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ, น้ำมันรำข้าว 1 ช้อนโต๊ะ, แตงกวาหั่น, ขิงดอง และใบกะเพราทอดกรอบ
ขณะที่ ปิยะเดช อธิบายวิธีทำไปพร้อมๆ กับทำให้ดู และรับรองอย่างแข็งขัน ว่า ไม่ยากจริงๆ ขนาดหนุ่มโสดที่ไม่ค่อยได้เข้าครัวอย่างเขา ยังทำเมนูนี้ได้อย่างคล่องมือ
“เอาน้ำมันใส่กระทะตั้งให้พอร้อนครับ จากนั้นนำน้ำพริกเผาลงไปผัดให้หอม ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ มะนาว ผัดๆ ให้มันเข้ากัน จากนั้นก็เอาสมุนไพรพวกหอมแดง กระเทียม พริก ตะไคร้ แต่ตะไคร้ไม่ต้องหมดนะครับ เหลือไว้แต่งจานนิดหน่อย แล้วก็ผัดให้ส่วนผสมเข้ากัน แล้วก็เอาข้าวกล้องลงไป ผัดๆ ให้มันเข้ากัน จากนั้นก็ใส่ใบมะกรูด และพริกชี้ฟ้าแดงลงไป เป็นอันเสร็จ”
หนุ่มหล่ออนาคตไกลรายนี้ อธิบายต่ออีกว่า จะให้สวยน่ารับประทาน ต้องจัดใส่จานและเสิร์ฟพร้อมแตงกวาหั่น ขิงดอง ใบกะเพราทอดกรอบ หอมแดงทอด กระเทียมทอด ตะไคร้ทอดที่เหลือ และปิดท้ายด้วยใบสะระแหน่อีกเล็กน้อย เท่านี้สมุนไพรก้นครัวของคุณ ก็จะกลายเป็นอาหารจานเด็ดที่ทั้งอร่อยแถมได้สุขภาพ
“ข้าวกล้องอุดมไปด้วยวิตามินและมีเส้นใย น้ำมันรำข้าวเป็นน้ำมันดี มีไขมันดี เหมือนน้ำมันมะกอก แต่ราคาถูกกว่าและเป็นของในประเทศที่ไม่แพง สมุนไพรไทยมีประโยชน์มาก เมื่อนำมาทำเป็นอาหารก็อร่อย ไม่อ้วน และดีต่อร่างกาย” อาจารย์ญาณเดช ให้คำแนะนำทิ้งท้าย