พศ.เผยภาพยนตร์ “พระไตรปิฎก” ยุติโครงการตั้งแต่สมัยนายสมัคร หลังมีประเด็นเรื่องแอบอ้างเบื้องสูง
นายอำนาจ บัวศิริ ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม (มส.) กล่าวถึงกรณีมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย (มมร.) เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในการที่ผู้จัดทำภาพยนตร์เรื่อง “พระไตรปิฎก” (พระพุทธเจ้า) นำชื่อมหาวิทยาลัยไปแอบอ้างขอรับบริจาคเงินจากประชาชน รวมไปถึงรัฐบาล ว่า เรื่องดังกล่าวเคยมีการเสนอเข้าไปที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) และมีการวิเคราะห์กันว่าการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ดีสำหรับพระพุทธศาสนา และโดยหลักการก็มี มมร.เข้ามาดูแลด้านเนื้อหาก็ไว้ใจได้ จึงเสนอไปยังรัฐบาล ซึ่งก็สนับสนุนในหลักการ แต่พอเตรียมตั้งงบประมาณในปีต่อไป ปรากฏว่ามีเรื่องร้องเข้ามาจากสำนักพระราชวังแจ้งเข้ามาว่ามีการแอบอ้างเบื้องสูง ขอสนับสนุนในการจัดทำภาพยนตร์เรื่องนี้เพื่อหาทุน และทางดีเอสไอก็จะดำเนินการเข้ามาสอบ ก็เห็นว่า ถ้ามีประเด็นอย่างนี้ ควรยุติไปก่อน
จึงขออนุมัติให้นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในขณะนั้น ว่าในหลักการน่าสนับสนุน แต่มีประเด็นการดำเนินการ ก็ขอให้ยุติโครงการนี้ก่อน ถ้าจะดำเนินการต่อ ควรให้เป็นบทบาท พศ.เป็นเจ้าของเรื่อง ก็เห็นชอบและให้ยุติไว้ก่อน ถ้าได้งบประมาณมา พศ.ก็ดำเนินการต่อไป
“เดิมเสนอมาในนามบริษัท ผ่านการเห็นชอบมีหนังสือรับรองจาก มมร.พอตรวจสอบไปแล้วเป็นการกระทำของบริษัทฝ่ายเดียวก็แจ้งว่าผิดหลักการ ในการดำเนินการจัดตั้งงบประมาณเพื่อนำมาใช้จ่ายเลยขอยุติประเด็นนี้ไว้ และยุติโครงการนี้ไปก่อนตามที่มีการเสนอเข้ามา แต่ถ้าจะมีการดำเนินการต่อ พศ.ต้องสานต่อโดยจัดตั้งเป็นโครงการเพื่อให้ระบบงบประมาณไปได้ ส่วนเรื่องที่ทางบริษัทไปทำอะไร อย่างไรก็ว่าไปตามกระบวนการไม่เกี่ยวกับ พศ.”
นายอำนาจ บัวศิริ ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม (มส.) กล่าวถึงกรณีมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย (มมร.) เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในการที่ผู้จัดทำภาพยนตร์เรื่อง “พระไตรปิฎก” (พระพุทธเจ้า) นำชื่อมหาวิทยาลัยไปแอบอ้างขอรับบริจาคเงินจากประชาชน รวมไปถึงรัฐบาล ว่า เรื่องดังกล่าวเคยมีการเสนอเข้าไปที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) และมีการวิเคราะห์กันว่าการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ดีสำหรับพระพุทธศาสนา และโดยหลักการก็มี มมร.เข้ามาดูแลด้านเนื้อหาก็ไว้ใจได้ จึงเสนอไปยังรัฐบาล ซึ่งก็สนับสนุนในหลักการ แต่พอเตรียมตั้งงบประมาณในปีต่อไป ปรากฏว่ามีเรื่องร้องเข้ามาจากสำนักพระราชวังแจ้งเข้ามาว่ามีการแอบอ้างเบื้องสูง ขอสนับสนุนในการจัดทำภาพยนตร์เรื่องนี้เพื่อหาทุน และทางดีเอสไอก็จะดำเนินการเข้ามาสอบ ก็เห็นว่า ถ้ามีประเด็นอย่างนี้ ควรยุติไปก่อน
จึงขออนุมัติให้นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในขณะนั้น ว่าในหลักการน่าสนับสนุน แต่มีประเด็นการดำเนินการ ก็ขอให้ยุติโครงการนี้ก่อน ถ้าจะดำเนินการต่อ ควรให้เป็นบทบาท พศ.เป็นเจ้าของเรื่อง ก็เห็นชอบและให้ยุติไว้ก่อน ถ้าได้งบประมาณมา พศ.ก็ดำเนินการต่อไป
“เดิมเสนอมาในนามบริษัท ผ่านการเห็นชอบมีหนังสือรับรองจาก มมร.พอตรวจสอบไปแล้วเป็นการกระทำของบริษัทฝ่ายเดียวก็แจ้งว่าผิดหลักการ ในการดำเนินการจัดตั้งงบประมาณเพื่อนำมาใช้จ่ายเลยขอยุติประเด็นนี้ไว้ และยุติโครงการนี้ไปก่อนตามที่มีการเสนอเข้ามา แต่ถ้าจะมีการดำเนินการต่อ พศ.ต้องสานต่อโดยจัดตั้งเป็นโครงการเพื่อให้ระบบงบประมาณไปได้ ส่วนเรื่องที่ทางบริษัทไปทำอะไร อย่างไรก็ว่าไปตามกระบวนการไม่เกี่ยวกับ พศ.”
