“ชินภัทร” ไม่หวั่นบิ๊ก สกสค.เอี่ยวโกงสร้างพระ ชงผลสอบส่งบอร์ดพิจารณา

“ชินภัทร” เผย เตรียมชงผลสอบข้อเท็จจริง ช.พ.ค.5-โกงจัดสร้างวัตถุมงคล ต่อบอร์ด สกสค.กลางเดือนนี้ หากพบมีความชัดเจนพร้อมฟันทันที ย้ำผลสอบซัดข้าราชการระดับสูง สกสค.มีเอี่ยว ก็ไม่มีปัญหา ว่ากันตามความจริงตรงไปตรงมา ไม่มีการชี้นำ เชื่อ กก.สกสค.วุฒิภาวะพอ มีจุดยืน ส่วนข้อมูลที่จะส่งให้ดีเอสไอบอร์ด สกสค.ขอดูก่อน 
 
วันนี้ (5 พ.ย.) ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าผลการสอบสวนของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงโครงการสวัสดิการเงินกู้ฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) 5 และโครงการจัดสร้างวัตถุมงคลพระพุทธโสธร รุ่น “เจริญสุข ” ที่มีนายสุนันท์ เทพศรี  ผู้ตรวจราชการ กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) สมัยนั้นเป็นประธาน ได้สรุปผลการสอบสวนในกรณีการจัดสร้างวัตถุมงคลพระพุทธโสธร รุ่น “เจริญสุข” ของ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการ และสวัสดิภาพครู และบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) พบว่า มีความผิดตามกฎหมายอาญาฐานหลอกลวงประชาชน แอบอ้างเบื้องสูง และมีผู้บริหารระดับสูง 5 คนที่เข้าไปเกี่ยวข้อง

ซึ่งนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รมว.ศธ.ได้เร่งให้ดำเนินการเรื่องนี้ต่อไป ว่า ตนจะเสนอผลการสอบสวนของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ เข้าพิจารณาในที่ประชุมคณะกรรมการ สกสค.ประมาณกลางเดือนพฤศจิกายนนี้ เพื่อให้ที่ประชุมได้พิจารณาข้อเท็จจริงต่างๆ ที่คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ สรุปมาว่าหากมีอะไรที่มีความชัดเจนแล้วก็จะดำเนินการตามนั้นทันที แต่ในส่วนประเด็นที่ไม่ครบถ้วนก็จะดำเนินการตามขั้นตอนทางวินัยให้เรียบร้อยก่อน
 
อย่างไรก็ตาม จะต้องดำเนินการสอบสวนเรื่องนี้เพิ่มอีกหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับที่ประชุมคณะกรรมการ สกสค.และต้องมีการพูดคุยกันหลายฝ่าย พร้อมทั้งต้องปรึกษาหารือกับนิติการด้วยว่าจะเปิดโอกาสให้ผู้ที่ถูกกล่าวหา หรือมีส่วนเกี่ยวข้องในกรณีของความไม่โปร่งใสได้มาชี้แจงหรือไม่ เพราะการดำเนินการทางวินัยต้องละเอียดรอบคอบ และเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย
 
ปลัด ศธ. กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีผู้บริหารระดับสูง สกสค.ที่ผลการสอบสวนระบุว่ามีส่วนเกี่ยวข้องด้วยนั้นก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเพราะต้องมีการพิจารณาตามเนื้อผ้า และตามข้อมูลที่ได้รับ  ถึงแม้ว่าข้อสรุปจะมีคนที่เกี่ยวข้องจะมีรายชื่ออยู่ในคณะกรรมการ สกสค.ด้วยก็ตาม ต้องคุยกันด้วยเหตุผลว่ากันตามตรง ไม่มีการชี้นำทางใดทางหนึ่งและกรรมการ สกสค.ทุกคนมีวุฒิภาวะ

โดยเฉพาะกรรมการฝ่ายข้าราชการประจำ เชื่อว่ามีจุดยืนที่ต้องทำอะไรด้วยเหตุและผล ไม่ตัดสินอะไรล่วงหน้า ฟังเหตุผลพยานหลักฐานที่เกิดขึ้น สำหรับข้อมูลที่จะมีการส่งให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ นั้น คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ ต้องนำข้อมูลเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการสกสค.รับทราบก่อนว่าเป็นอย่างไรและข้อมูลมีความพร้อมที่จะส่งให้ ดีเอสไอ ได้หรือไม่