xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ป่วยหญิงติดหวัด 2009 รพ.ชลบุรี เสียชีวิตอีก รวม 5 ราย วันเดียวตายแล้ว 2

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สธ.เผยหญิงวัย 15 ปี เสียชีวิตไข้หวัดใหญ่พันธุ์ใหม่ 2009 เป็นรายที่ 4 เหตุโรคประจำตัวรุมเร้า ส่วนผู้เสียชีวิตรายที่ 5 เป็นชายวัย 45 ปี ไตวายเฉียบพลัน เฝ้าระวังเข้มหญิงวัย 21 อาการทรงตัว อยู่ไอซียู ยังใส่เครื่องช่วยหายใจ ล่าสุดป่วยเพิ่ม 59 ราย เตรียมประชุมคณะผู้เชี่ยวชาญพร้อมเรียกบริษัททำความสะอาดหารือ ป้องกันอาชีพเสี่ยงวันที่ 3 ก.ค.นี้

เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 1 กรกฎาคม ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า มีผู้เสียชีวิตยืนยันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ เพิ่มอีก 2 ราย ถือเป็นผู้ป่วยเสียชีวิตรายที่ 4 และ 5 ของประเทศไทย รายแรกเป็นหญิงอายุ 15 ปี ที่ จ.ชลบุรี เสียชีวิตเมื่อเวลา 10.45 น. และรายที่ 2 เป็นชายอายุ 45 ปี ที่รพ.ราชวิถี เสียชีวิตเมื่อเวลา 11.35 น. ขณะนี้ผู้ป่วยยืนยันโรคไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 เพิ่มอีก 59 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสมรวม 1,473 ราย รักษาหายแล้ว1,448 ราย เหลือนอนรับการรักษาตัวในโรงพยาบาล 22 ราย รวมมียอดผู้เสียชีวิต 5 ราย

นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตรายที่ 4 หญิงอายุ 15 ปี มีโรคประจำตัวหลายโรค เคยผ่านการผ่าตัดเนื้องอกในสมอง เป็นโรคเบาหวาน เบาจืด ร่างกายไม่สามารถสร้างเม็ดเลือดได้ ทำให้มีเม็ดเลือดแดงและขาวต่ำ รวมทั้งพิการ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลมาหลายวันแล้ว ซึ่งรายละเอียดของผู้ป่วยทางผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ผอ.รพ.ชลบุรี และสาธารณสุขจังหวัดชลบุลีจะแถลงในเวลา 15.00 น.

พญ.วารุณี จินารัตน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชวิถี กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตรายที่ 5 เข้ารับการรักษาตั้งแต่วันที่ 27 มิ.ย. ที่ผ่านมา หลังจากมีไข้มาแล้ว 3 วัน แพทย์ได้เอ็กซเรย์พบอาการปอดบวม หลังจากนั้นภายใน 2 ชั่วโมงอาการลุกลามเร็วมาก ผู้ป่วยหอบมากขึ้น ความดันตก ได้นำเข้าห้องไอซียูทันที แพทย์ได้ให้ยารักษาหลายชนิด มีการควบคุมความดันโดยใช้เครื่องช่วยหายใจชนิดพิเศษให้ความดันสูงเพื่อเพิ่มออกซิเจนในปอดให้สูงขึ้น ซึ่งผู้ป่วยอาการเหมือนจะดีขึ้น สามารถหายใจได้เองมากขึ้น รู้สึกตัวดี แต่แพทย์ต้องให้ยานอนหลับเพื่อให้เครื่องช่วยหายใจทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ แต่เมื่อเวลา 19.00 น. ของวันที่ 30 มิ.ย.ผู้ป่วยมีอาการทรุดลงอีก โดยหัวใจเต้นผิดปกติ ต้องให้ยาควบคุมการเต้นของหัวใจและใช้เครื่องไฟฟ้ากระตุ้นหัวใจให้เต้นตามปกติถึง 2 ครั้ง แต่ผู้ป่วยยังความดันตกและไตวายเฉียบพลันจนเสียชีวิตลง ซึ่งโรงพยาบาลได้แจ้งให้ญาติทราบและมีความเข้าใจในรักษามาโดยตลอด ซึ่งญาติเข้าใจดีพร้อมทั้งแจ้งให้แพทย์ไม่ต้องปั๊มหัวใจขึ้นมาอีก

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความเห็นอย่างไรกรณีที่ รมว.สาธารณสุขประเทศอาร์เจนตินาแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกหลังจากมีผู้ป่วยเสียชีวิตอาร์เจนตินา 26 ราย นายวิทยา กล่าวว่า ที่ผ่านมาแนวทางการดำเนินการของสธ.ทำตามขั้นตอนมาโดยตลอด เพื่อลดความเสียหายที่เกิดขึ้นกับบ้านเมือง กับประเทศ และตนเองก็เรียกร้องทุกฝ่ายมาตลอดว่า หากมีข้อแนะนำ มีความรู้ ข้อเสนอแนะ มาตรการในการดำเนินการป้องกันโรคก็สามารถเสนอมา สธ.เปิดกว้างและไม่ปิดกั้นแต่ก็ยังไม่มีข้อเสนอแนะมากกว่าที่ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของสธ.ดำเนินการอยู่นี้

นพ.ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขอให้ประชาชนคนไทยไม่ต้องตื่นตระหนก แม้ว่าจะมีผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ตายเป็นรายที่ 5 เนื่องจากอัตราการเสียชีวิตไม่สูงอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ส่วนผู้ป่วยอาการรุนแรงที่เฝ้าระวังอยู่ในขณะนี้มี 1 ราย เป็นหญิงวัย 21 ปี ผลการตรวจยืนยันจากห้องปฏิบัติการยืนยันว่าเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ขณะนี้ทรงตัว ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ยังพักรักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียู สำหรับผู้เสียชีวิตรายที่ 5 มีโรคประจำตัว ทั้งโรคทางโลหิต ทำให้เม็ดเลือดทุกชนิดต่ำ โดยเฉพาะเม็ดเลือดขาวที่มีเพียง 1,000 เซลล์ต่อลูกบาศก์มิลลิลิตร ขณะที่คนปกติมีประมาณ 5,000-10,000 เซลล์ต่อลูกบาศก์มิลลิลิตร ทั้งนี้ผู้ป่วยรายดังกล่าวสธ.ดูแลอย่างใกล้ชิดอยู่แล้วเพียงแต่ที่ผ่านมาอาการปกติไม่ได้อยู่ในไอซียู จึงไม่มีการรายงานอาการความรุนแรง โดยการสอบสวนโรคนั้น พบว่าผู้ป่วยติดเชื้อมาจากภายนอกไม่ได้ติดเชื้อจากโรงพยาบาลแน่นอน

“ผู้เสียชีวิตรายนี้เมื่อตรวจพบว่าติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 และมีโรคประจำตัวหลายอย่าง ทางโรงพยาบาลได้นำตัวแยกในห้องแยกเชื้อ ไม่ให้ได้รับเชื้ออื่นเพิ่มเติม ซึ่งสธ.เป็นห่วงรายดังกล่าวอย่างมาก ได้สอบถามถึงอาการเป็นระยะๆ พร้อมทั้งได้เดินทางไปเยี่ยมเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และก็ได้รับรายงานว่าผู้ป่วยอาการดีขึ้น จนกระทั่งผู้ป่วยปวดท้อง และท้องเสียจนอาการทรุดลงอย่างฉับพลัน จนต้องนำตัวเข้าห้องไอซียู และเสียชีวิตในเวลาต่อมา”นพ.ไพจิตร์ กล่าว

นพ.ศุภมิตร์ ชุณห์สุทธิวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิระดับ 10 กรมควบคุมโรค กล่าวว่าในวันที่ 3 ก.ค.คณะอนุกรรมการที่ปรึกษาด้านวิชาการทางการแพทย์และยุทธศาสตร์แห่งชาติที่มีศ.เกียรติคุณ นพ.ประเสริฐ ทองเจริญ เป็นประธานจะมีการประชุมโดยนำข้อมูลผู้ป่วยที่หายแล้วรวมถึงรายที่เสียชีวิตมาหารือร่วมกัน เพื่อมาปรับปรุงแนวทางการรักษาการป้องกันให้มีความทันต่อสถานการณ์เป็นระยะๆ

“การหารือครั้งนี้จะนำข้อมูลของผู้ป่วยที่เริ่มเข้าสู่การรักษาพยาบาลตั้งแต่แรก วิธีการรักษาในรายที่มีอาการหนัก รวมถึงสภาพร่างกายในรายที่รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต เพื่อทราบปัจจัยเสี่ยงที่เชื้อโรคทำให้เกิดความรุนแรงโดยองค์ความรู้ที่ได้ต้องไปรวมกับองค์ความรู้ของประเทศอื่นๆ มีองค์การอนามัยโลกเป็นตัวกลางในการประสานให้ความรู้โรคดังกล่าวชัดเจนขึ้น ที่ผ่านมาได้ขอความร่วมมือกับญาติผู้เสียชีวิตจากโรคดังกล่าวในการให้เจ้าหน้าที่ได้เก็บชันสูตรและเก็บตัวอย่างชิ้นเนื้ออย่างละเอียดเพื่อสรุปความรู้ให้เป็นประโยชน์กับประเทศชาติมากที่สุด”นพ.ศุภมิตร์ กล่าว

นพ.ศุภมิตร์ กล่าวต่อว่า โดยปกติมีผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลประมาณ 10%ของผู้ป่วยทั้งหมด ในจำนวนนี้ 1-10%จะมีอาการรุนแรงน้อยถึงมาก และในรายที่มีอาการมากจะมีประมาณ 1% ที่มีโอกาสเสียชีวิตได้แม้ว่าจะได้รับการรักษาดีเพียงใดก็ตาม ขึ้นอยู่กับปัจจัยแต่ละบุคคล

ด้าน นพ.มล.สมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า นอกจากนี้ ในวันที่ 3 ก.ค.กรมอนามัยร่วมกับกรมควบคุโรคจะเชิญตัวแทนบริษัทและพนักงานบริษัททำความสะอาด เพื่อให้ความรู้ในการป้องกันตัวเองจากการติดเชื้อโรค ไม่ว่าจะเป็นวิธีการสวมเสื้อผ้า การใส่ถุงมือ และป้องกันตัวเองด้านอื่นๆ เนื่องจากกลุ่มพนักงานทำความสะอาดนั้นถือว่ามีความเสี่ยงเพราะทำงานกับสิ่งสกปรกในพื้นที่ที่มีชุมชนหนาแน่นและอากาศถ่ายเทไม่สะดวก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้มีสื่อมวลชนหญิงรายหนึ่งป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ขณะที่รักษาอยู่ที่สถาบันโรคทรวงอก อาการล่าสุดดีขึ้น ไข้ลดลงแล้ว ไม่น่าเป็นห่วง
กำลังโหลดความคิดเห็น