ครม.ไฟเขียวกฎกระทรวงประกอบ พ.ร.บ.ภาพยนตร์ฯ 3 ฉบับ “ธีระ” ชี้ ประกาศใช้ทันที พร้อมช่วยแก้ปัญหาร้านเกมเถื่อนเกือบ 1 แสนแห่งทั่วประเทศ พร้อมจี้จุดผู้ว่าฯ เร่งใช้กฎหมายกำราบ ส่วนกฎ 7 เรตติ้งหนังยังดองเค็ม
วันนี้ (30 มิ.ย.) นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบกฎกระทรวงประกอบพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ภาพยนตร์และวิดีทัศน์ พ.ศ.2551 จำนวน 3 ฉบับ จากทั้งหมด 5 ฉบับซึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาร่างกฎกระทรวงดังกล่าว โดยได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมสาระสำคัญบางประการ และแก้ไขชื่อร่างทั้ง 3 ฉบับ ดังนี้ 1.ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการขอและการออกใบอนุญาตประกอบกิจการให้เช่า แลกเปลี่ยน หรือจำหน่าย ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ... 2.ร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการประกอบกิจการภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ... และ 3.ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการขอและการออกใบอนุญาตประกอบกิจการโรงภาพยนตร์ พ.ศ... ทั้งนี้ เป็นการทำให้กฎหมายมีความรัดกุมมากขึ้น ไม่ได้กระทบเนื้อหาหลักของกฎหมายแต่อย่างใด ซึ่งเมื่อตนลงนามในกฎกระทรวงทั้ง 3 ฉบับแล้วจะประกาศใช้ได้ทันทีโดยไม่ต้องรอ 90 วัน
นายธีระ กล่าวต่อว่า ในส่วนกฎกระทรวงว่าด้วยการขอและการออกใบอนุญาตประกอบกิจการให้เช่า แลกเปลี่ยน หรือจำหน่าย ภาพยนตร์และวิดีทัศน์ จะช่วยแก้ปัญหาร้านเกมเถื่อน และทำให้ร้านเกมที่ได้ขอขึ้นทะเบียนขอรับใบอนุญาตไว้ จำนวน 59,000 แห่งได้ อย่างไรก็ตามร้านเกมเหล่านี้สามารถรับใบอนุญาตได้ที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด และสำนักภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ขณะที่ร้านเกมที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนที่ถูกต้องอีกประมาณ 40,000 แห่งนั้น ตนจะสั่งการผู้ว่าราชการจังหวัดดำเนินการตรวจสอบหากพบผู้กระทำผิดตามกฎหมายให้ดำเนินการขั้นเด็ดขาดตามที่กฎหมายกำหนดทันที
“ด้วยความที่กฎกระทรวงมีความล่าช้า และการแก้ปัญหาร้านเกมได้มีการประชาพิจารณ์อย่างกว้างขวาง เชื่อว่า น่าจะเป็นที่ทราบกันดีแล้ว ดังนั้นการดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต้องมีความเข้มข้น หากผู้ว่าฯ พบร้านเกมเถื่อนก็ต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาด ในขณะเดียวกัน ต้องให้คณะกรรมการสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ประจำจังหวัดไล่ตรวจสอบร้านเกมในพื้นที่ให้ทำการจดทะเบียนให้ถูกต้อง”นายธีระ กล่าว
รมว.วัฒนธรรม กล่าวด้วยว่า สำหรับกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการประกอบกิจการภาพยนตร์และวิดีทัศน์ จะทำให้การจัดเก็บค่าธรรมเนียมเป็นระบบมากขึ้น อีกทั้งสามารถสร้างรายได้ให้กับภาครัฐเป็นจำนวนมาก ซึ่งรายได้ดังกล่าวจะถูกจัดเก็บโดยกระทรวงการคลัง อย่างไรก็ตามตนจะขอรายได้ในการจดทะเบียนจำนวน 1-2 เปอร์เซ็นต์ เพื่อจัดตั้งกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ต่อไป
ทั้งนี้ สำหรับร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ในการกำหนดประเภทภาพยนตร์ พ.ศ... และ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์การประกอบกิจการร้านวิดีทัศน์ พ.ศ...ที่ยังอยู่ระหว่างขั้นตอนการผ่านการพิจารณาเห็นชอบจากกฤษฎีกานั้น จะมีการนำเสนอมายังตนก่อนจะเข้าสู่ที่ประชุม ครม.ในโอกาสต่อไป
