xs
xsm
sm
md
lg

สธ.คุมเข้ม หลังลือหึ่งข้อสอบใบอนุญาต “แพทย์แผนไทย” รั่ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สธ.คุมเข้มสอบใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะ หลังลือหึ่งข้อสอบรั่ว คณะกรรมการออกข้อสอบขายเอง 2-5 พันบาท “เก่งกาจ จงใจพระ” ยันไม่เป็นความจริง ตรวจสอบได้ พร้อมเอาหัวเป็นประกัน การันตีโปร่งใสทุกขั้นตอน

วันที่ 25 มิถุนายน ที่กระทรวงสาธารณสุข นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.ธารา ชินะกาญจน์ ผู้อำนวยการกองการประกอบโรคศิลปะ และนายเก่งกาจ จงใจพระ ประธานคณะกรรมการวิชาชีพสาขาการแพทย์แผนไทย ร่วมกันแถลงข่าว การรับมอบและเก็บรักษาข้อสอบความรู้ผู้ขอขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะ สาขาการแพทย์แผนไทย ประจำปี 2552

นายมานิต กล่าวว่า ได้จัดสอบความรู้ผู้ขอขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะ สาขาการแพทย์แผนไทย ประจำปี 2552 ตามพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ พ.ศ.2542 โดยในกระบวนการจัดสอบปีนี้ ต้องการให้มีความโปร่งใสมากที่สุด ได้มอบนโยบายให้มีคณะกรรมการวิชาชีพการแพทย์แผนไทยเข้ามาร่วมเป็นกรรมการดำเนินการด้วยทุกขั้นตอน ตั้งแต่การออกข้อสอบร่วมกับผู้เชี่ยวชาญของกระทรวงสาธารณสุข การควบคุมการจัดพิมพ์ที่โรงพิมพ์ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อให้เกิดความโปร่งใส ว่าไม่มีข้อสอบรั่วไหลหรือนำข้อสอบไปขายให้กับคนภายนอก

“ส่วนการเก็บรักษาข้อสอบมีการปิดผนึกกล่องข้อสอบทุกกล่อง เพื่อการนำส่งไปยังสนามสอบ ได้ประสานสถานีตำรวจภูธรนนทบุรี จัดรถที่มีความปลอดภัยสูงพร้อมพลขับ ไปรับข้อสอบจากโรงพิมพ์มาเก็บรักษาไว้ที่กระทรวงสาธารณสุข โดยให้ นายเก่งกาจ จงใจพระ ประธานคณะกรรมการวิชาชีพสาขาการแพทย์แผนไทย และ นายแพทย์ธารา ชินะกาญจน์ ผู้อำนวยการกองการประกอบโรคศิลปะ เป็นผู้เก็บรักษากุญแจเปิดส่วนเก็บเอกสาร ฝ่ายละ 1 ดอก นอกจากนี้ ได้ขอกำลังนายตำรวจเวรเฝ้าตลอดเวลาตั้งแต่วันนี้ไปจนกว่าจะถึงเวลานำส่งไปยังสนามสอบ 12 แห่งทั่วประเทศ ในวันที่ 26 มิ.ย.นี้ ซึ่งหลังจากขนส่งข้อสอบแล้ว จะเป็นหน้าที่ของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเป็นผู้รับผิดชอบข้อสอบต่อไป” นายมานิต กล่าว

นายเก่งกาจ กล่าวว่า ตนได้รับการแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการวิชาชีพสาขาการแพทย์แผนไทยเมื่อวันที่ 30 มีนาคม ซึ่งเดิมจะมีการจัดสอบขึ้นทะเบียนผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนไทย ในวันที่ 2 พฤษภาคม แต่ในระหว่างนั้นมีข่าวลือออกมาว่า ข้อสอบรั่ว ซึ่งเกิดจากคณะกรรมการนำข้อสอบมาขายให้กับติวเตอร์ราคาหัวละ 2,000-5,000 บาท ทำให้ชื่อเสียงของตนเสียหาย ทั้งๆ ที่ในขณะนั้นยังไม่มีการออกข้อสอบ เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าวมีการเปลี่ยนรัฐบาลบ่อยทำให้เกิดการขรุขระออกข้อสอบไม่ทันเวลา แต่ยืนยันว่า ได้ทำตามขั้นตอนแล้วและเลื่อนเวลาสอบออกมาในวันที่ 27-28 มิถุนายน 2552 แทนพร้อมทั้งปรับวิธีการออกข้อสอบใหม่

นายเก่งกาจ กล่าวว่า สำหรับการสอบขึ้นทะเบียนผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนไทย มี 3 ประเภท ได้แก่ เวชกรรมไทย เภสัชกรรมไทย และ การผดุงครรภ์ ซึ่งปีนี้เป็นปีแรกที่ได้มีการปรับวิธีการออกข้อสอบใหม่ เพราะที่ผ่านมามีปัญหาว่าข้อสอบรั่ว โดยคณะกรรมการวิชาชีพสาขาการแพทย์แผนไทยซึ่งมีทั้งหมด 8 คน ต่างกันต่างออกข้อสอบโดยแบ่งหัวข้อต่างๆ กัน แล้วออกข้อสอบแบบปรนัย เช่น ข้อสอบสาขาเวชกรรม เดิมจะออกข้อสอบเพียง 200 ข้อตามข้อกำหนดไม่มีออกข้อสอบเผื่อ แต่ในครั้งนี้ คณะกรรมการได้ออกข้อสอบทั้งหมด 1,200 ข้อ และสุ่มเลือกให้เหลือเพียง 200 ข้อ ข้อสอบด้านเภสัชกรรม และการผดุงครรภ์ เดิมมี 100 ข้อ แต่ได้ออกข้อสอบทั้งหมด 600 ข้อ เลือกให้เหลือ 100 ข้อ จากนั้นจะมีการสอบด้วยข้อสอบอัตนัยอีก 5 ข้อและการสอบสัมภาษณ์เป็นกระบวนการสุดท้าย

“ยืนยันว่า ข้อสอบในครั้งนี้ ไม่มีคณะกรรมการวิชาชีพฯ ที่เป็นผู้ออกข้อสอบคนใดได้เห็นข้อสอบที่แท้จริง เพราะได้ใช้วิธีสุ่มเลือกคำถามจะให้เลือกจากที่ถูกคว่ำหน้ากระดาษไว้ จากนั้นได้ส่งให้โรงพิมพ์ จัดพิมพ์ทันที หากใครมีข้อมูลหรือมีหลักฐานว่ามีข้อสอบรั่ว มีการโกงข้อสอบให้ร้องเรียนได้ทันที แต่หากใครใส่ร้ายว่าผมเป็นคนโกงข้อสอบ หรือนำข้อสอบมาเร่ขายชุดละ 2,000-5,000 บาท ผมจะดำเนินการทางกฎหมายทันที และผมยินดีเอาหัวเป็นประกัน” นายเก่งกาจ กล่าว

นายเก่งกาจ กล่าวว่า ในการสอบรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะที่ผ่านมา จะมีผู้สอบผ่านเพียง ร้อยละ 20 เท่านั้น แต่ในปีที่ผ่านมา เฉพาะด้านเวชกรรมไทย มีผู้สอบผ่านมากถึง ร้อยละ 40 ซึ่งมากผิดปกติ ซึ่งหากการสอบในครั้งนี้ มีผู้สอบได้มากกเกินกว่า ร้อยละ 20 อีก ให้ สันนิษฐานได้ว่าข้อสอบรั่วอย่างแน่นอน

ด้านนพ.ธารา ชินะกาญจน์ ผู้อำนวยการกองการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ข่าวข้อสอบรั่ว เป็นเพียงข่าวลือ ที่ผ่านมามีการตรวจสอบแต่ไม่เคยพบว่ามีข้อสอบรั่วจริง เนื่องจากส่วนใหญ่มาจากติวเตอร์ที่เก็งข้อสอบแล้วเก็งได้ถูกต้องจึงมีการพูดปากต่อปากเท่านั้น ซึ่งในปีนี้มีผู้ยื่นคำขอสอบทั่วประเทศทั้งหมดประมาณ 8,000 ราย แบ่ง 3 ประเภท คือ 1.การสอบในบัญชี ก.โดยเรียนกับครูรับมอบตัวสิทธิ์ ซึ่งเป็นครูที่มีใบอณุญาตสามารถถ่ายทอดความรู้ในแต่ละสาขา ส่วนประเภท ข. เป็นการเรียนในระดับปริญญาตรีในมหาวิทยาลัย และ 3 การประเมินความรู้ของผู้ที่มีความรู้ภูมิปัญญาอยู่แล้ว

“เฉลี่ยมีผู้ที่สอบผ่านในทุกสาขาประมาณ 1,200-1,500 คน โดยต้องสอบให้ผ่านเกณฑ์ 60% ขึ้นไป ทั้งนี้เฉพาะสาขาเวชกรรมไทยเพียงอย่างเดียวเฉลี่ยมีผู้สอบผ่าน 40% ส่วนสขาอื่นๆ มีสอบผ่านจำนวนไม่มาก และนวดแผนไทยยังไม่เคยมีการเปิดสอบ ปีนี้ถือเป็นปีแรก” นพ.ธารากล่าว

นพ.ธารา กล่าวด้วยว่า สำหรับในปีนี้กำหนดจัดสอบในวันที่ 27-28 มิถุนายน 2552 โดยแยกสอบในสนามสอบ 12 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ลพบุรี ชลบุรี นครปฐม นครราชสีมา ขอนแก่น อุบลราชธานี นครสวรรค์ พิษณุโลก เชียงใหม่ นครศรีธรรมราช และสงขลา โดยจะเริ่มตรวจข้อสอบ 2-3 ก.ค.นี้ และจะประกาศผลสอบในวันที่ 9 ก.ค.นี้
กำลังโหลดความคิดเห็น