วธ.ฉลองสัมพันธ์ 60 ปี ไทย-ฟิลิปปินส์ ผนึกกำลังพัฒนาอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในระดับนานาชาติ ระบุหนังแอ็กชัน หนังผีไทยขายดีในฟิลิปปินส์ “ธีระ” เชื่อหากรัฐหนุนแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมเพื่อนบ้านต่อเนื่องจะเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจได้
นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ตนได้เดินทางไปสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ เพื่อร่วมลงนามในแผนปฏิบัติการความร่วมมือด้านวัฒนธรรมระหว่างกระทรวงวัฒนธรรมแห่งราชอาณาจักรไทย กับนายวิลมา แอล ลาบราดอร์ ประธานคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยวัฒนธรรมและศิลปะแห่งสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ (National Commission for Culture and the Arts of the Republic of the Philippines : NCCA) อีกทั้งยังร่วมงานครบรอบการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต 60 ปี ในปี 2553 ด้วย
ทั้งนี้ การลงนามในแผนปฏิบัติการความร่วมมือด้านวัฒนธรรมระหว่างไทยกับฟิลิปปินส์ครั้งนี้ มีระยะเวลาความร่วมมือตั้งแต่ปี 2552-2554 โดยแผนดังกล่าวจัดทำขึ้นเพื่อแลกเปลี่ยนความร่วมมือทางวัฒนธรรมของ 2 ประเทศ เช่น การแลกเปลี่ยนผู้เชี่ยวชาญด้านการอนุรักษ์และปฏิสังขรณ์ทางวัฒนธรรม การร่วมกันส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์ และการจัดเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติร่วมกัน ที่สำคัญจะแลกเปลี่ยนบุคลากรทางภาษา และหนังสือจดหมายเหตุ อีกทั้งแลกเปลี่ยนสื่อสิ่งพิมพ์ข้อมูลข่าวสารระหว่างหอสมุดแห่งชาติของทั้ง 2 ประเทศ
นายธีระกล่าวต่อว่า ตนมองว่าไทยจะต้องเร่งนำมิติทางวัฒนธรรมมาเป็นแนวทางในการส่งเสริมภาพลักษณ์ ด้วยการนำวัฒนธรรมไทยมาร้อยใจคนต่างชาติ ให้เขาเกิดความประทับใจในเอกลักษณ์ศิลปวัฒนธรรมไทย เกิดความจริงใจต่อกัน และการค้าขายระหว่างประเทศก็จะตามมาเอง อย่างปี 2551 ไทยส่งออกสินค้าต่างๆ ทั้งสินค้าวัฒนธรรมและผลิตภัณฑ์อาหาร ไปยังฟิลิปปินส์มีมูลค่าถึง 3,512 ล้านบาท ดังนั้น หากรัฐบาลสนับสนุนแบบจริงจัง เชื่อว่าฟิลิปปินส์จะเป็นอีกประเทศที่จะสร้างรายได้เข้าประเทศได้ไม่น้อย
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า การดำเนินงานในเบื้องต้นตามแผนปฏิบัติการฯ ดังกล่าวตามข้อตกลงของทั้ง 2 ประเทศ โดยการร่วมกันส่งเสริมภาพยนตร์ของตนเองเข้าฉายในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติที่ประเทศของอีกฝ่ายจัดขึ้น สำหรับประเทศไทยขณะนี้กระทรวงวัฒนธรรมได้ให้สมาคมสมาพันธ์ภาพยนตร์ไปศึกษาแนวทางที่จะนำภาพยนตร์ไทยไปฉายในฟิลิปปินส์ ซึ่งส่วนใหญ่จะชื่นชอบหนังผี และหนังแอ็กชัน เช่น องค์บาก ช็อกโกแลต และแม่นาค รวมถึงนำไปฉายในกลุ่มประเทศเอเชีย อาทิ อินโดนีเซีย และเวียดนามด้วย
นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ตนได้เดินทางไปสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ เพื่อร่วมลงนามในแผนปฏิบัติการความร่วมมือด้านวัฒนธรรมระหว่างกระทรวงวัฒนธรรมแห่งราชอาณาจักรไทย กับนายวิลมา แอล ลาบราดอร์ ประธานคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยวัฒนธรรมและศิลปะแห่งสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ (National Commission for Culture and the Arts of the Republic of the Philippines : NCCA) อีกทั้งยังร่วมงานครบรอบการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต 60 ปี ในปี 2553 ด้วย
ทั้งนี้ การลงนามในแผนปฏิบัติการความร่วมมือด้านวัฒนธรรมระหว่างไทยกับฟิลิปปินส์ครั้งนี้ มีระยะเวลาความร่วมมือตั้งแต่ปี 2552-2554 โดยแผนดังกล่าวจัดทำขึ้นเพื่อแลกเปลี่ยนความร่วมมือทางวัฒนธรรมของ 2 ประเทศ เช่น การแลกเปลี่ยนผู้เชี่ยวชาญด้านการอนุรักษ์และปฏิสังขรณ์ทางวัฒนธรรม การร่วมกันส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์ และการจัดเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติร่วมกัน ที่สำคัญจะแลกเปลี่ยนบุคลากรทางภาษา และหนังสือจดหมายเหตุ อีกทั้งแลกเปลี่ยนสื่อสิ่งพิมพ์ข้อมูลข่าวสารระหว่างหอสมุดแห่งชาติของทั้ง 2 ประเทศ
นายธีระกล่าวต่อว่า ตนมองว่าไทยจะต้องเร่งนำมิติทางวัฒนธรรมมาเป็นแนวทางในการส่งเสริมภาพลักษณ์ ด้วยการนำวัฒนธรรมไทยมาร้อยใจคนต่างชาติ ให้เขาเกิดความประทับใจในเอกลักษณ์ศิลปวัฒนธรรมไทย เกิดความจริงใจต่อกัน และการค้าขายระหว่างประเทศก็จะตามมาเอง อย่างปี 2551 ไทยส่งออกสินค้าต่างๆ ทั้งสินค้าวัฒนธรรมและผลิตภัณฑ์อาหาร ไปยังฟิลิปปินส์มีมูลค่าถึง 3,512 ล้านบาท ดังนั้น หากรัฐบาลสนับสนุนแบบจริงจัง เชื่อว่าฟิลิปปินส์จะเป็นอีกประเทศที่จะสร้างรายได้เข้าประเทศได้ไม่น้อย
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า การดำเนินงานในเบื้องต้นตามแผนปฏิบัติการฯ ดังกล่าวตามข้อตกลงของทั้ง 2 ประเทศ โดยการร่วมกันส่งเสริมภาพยนตร์ของตนเองเข้าฉายในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติที่ประเทศของอีกฝ่ายจัดขึ้น สำหรับประเทศไทยขณะนี้กระทรวงวัฒนธรรมได้ให้สมาคมสมาพันธ์ภาพยนตร์ไปศึกษาแนวทางที่จะนำภาพยนตร์ไทยไปฉายในฟิลิปปินส์ ซึ่งส่วนใหญ่จะชื่นชอบหนังผี และหนังแอ็กชัน เช่น องค์บาก ช็อกโกแลต และแม่นาค รวมถึงนำไปฉายในกลุ่มประเทศเอเชีย อาทิ อินโดนีเซีย และเวียดนามด้วย