xs
xsm
sm
md
lg

ฉะรพ.เอกชนฟันค่าตรวจหวัดพันธุ์ใหม่แพงหูฉี่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์
"หมอปราชญ์" เตรียมหารือขอความร่วมมือโรงพยาบาลเอกชน ในการขอความร่วมมือให้ส่งเชื้อผู้ป่วยมาตรวจเฉพาะที่พิจารณาแล้วเห็นว่าการตรวจเชื้อจะเป็นประโยชน์กับผู้ป่วยจริงๆเท่านั้น เพราะหากโรงพยาบาลเอกชนส่งเชื้อมาตรวจที่กรมวิทยาศาสตร์ฯเจ้าหน้าที่ก็จะต้องดำเนินการตรวจให้หมดไม่มีสิทธิปฏิเสธ

นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวถึงกรณีที่งบประมาณในการตรวจเชื้อโรคของกรมควบคุมโรคที่ตั้งไว้ปีละ 2 ล้านบาทหมดและค้างชำระค่าตรวจเชื้อกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ประมาณ 4 ล้านบาท หลังมีการส่งเชื้อผู้ป่วยตรวจเพื่อหาเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เป็นจำนวนมากว่า คงไม่ต้องกังวลเพราะหน่วยงานภายในของสธ.สามารถที่จะปรับงบประมาณของกรมต่างๆ ให้มีความเหมาะสมตามสถานการณ์ความเป็นจริงได้ โดยจะหารือกับอธิบดีกรมต่างๆ ในการจัดสรรงบประมาณ

“กรมควบคุมโรคกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เป็นหน่วยงานภายในกระทรวงสาธารณสุขเหมือนกัน ถือเป็นการใช้เงินงบประมาณจากกระเป๋าเดียวกัน ใครเกิดใช้เงินไม่พอก็สามารถคุยกัน ไม่ต้องห่วง อยู่ที่การบริหารจัดการงบประมาณของกระทรวงฯในการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากที่สุด”นพ.ปราชญ์กล่าว

นพ.ปราชญ์ กล่าวว่า เร็วๆนี้ตนจะหารือร่วมกับนายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ในการขอความร่วมมือให้ส่งเชื้อผู้ป่วยมาตรวจเฉพาะที่พิจารณาแล้วเห็นว่าการตรวจเชื้อจะเป็นประโยชน์กับผู้ป่วยจริงๆเท่านั้น เพราะหากโรงพยาบาลเอกชนส่งเชื้อมาตรวจที่กรมวิทยาศาสตร์ฯเจ้าหน้าที่ก็จะต้องดำเนินการตรวจให้หมดไม่มีสิทธิปฏิเสธ

  • แฉรพ.เอกชนเก็บค่าตรวจแพงกระฉูด 7-8 พันบาท

  • แหล่งข่าวจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า ขณะนี้มีตัวอย่างเชื้อส่งมาตรวจหาสายพันธุ์ไข้หวัดใหญ่ชนิดใหม่ที่ห้องปฏิบัติการกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์วันละ ประมาณ 200-300 ราย ในจำนวนนี้เป็นเชื้อที่ส่งมาจากโรงพยาบาลเอกชนประมาณ 150-200 รายต่อวัน ซึ่งในการเก็บค่าตรวจเชื้อจะเก็บเท่ากันกับการตรวจเชื้อที่ส่งมาจากกรมควบคุมโรคหรือหน่วยงานภายในสธ. 4,000 บาทต่อครั้ง แต่จากการที่ประชุมร่วมกับเครือข่ายห้องปฏิบัติการมีรายงานว่าโรงพยาบาลเอกชนบางแห่งเรียกเก็บค่าบริการรายละ 8,000 บาท โดยรวมค่าตรวจเชื้อ ค่าแพทย์และค่าอื่นๆด้วย จึงไม่มีข้อมูลว่าแต่ละแห่งเรียกเก็บค่าตรวจเชื้อมากกว่าที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เก็บจากโรงพยาบาลมากน้อยเท่าไหร่

    แหล่งข่าวระดับสูงจากกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวว่า ขณะนี้มีรายงานว่าโรงพยาบาลเอกชนบางแห่งเรียกเก็บค่าตรวจโรคไข้หวัดใหญ่จากผู้ป่วยสูงถึง 7 – 8 พันบาท โดยอ้างว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่ต้องส่งตัวอย่างเชื้อจากสารคัดหลั่งของผู้ป่วยไปตรวจในห้องปฏิบัติการกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อตรวจสอบสายพันธุ์ว่าเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 หรือไม่ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าค่าใช้จ่ายในการตรวจเชื้อที่โรงพยาบาลเอกชนส่งมาตรวจซึ่งต้องจ่ายประมาณ 4,000 บาทต่อครั้ง กรมวิทยาศาสตร์ฯได้ลงบัญชีเรียกเก็บจากรมควบคุมโรค ทั้งที่กรมควบคุมโรคจัดสรรงบประมาณสำหรับการตรวจเชื้อโรคระบาดเพียงปีละ 2 ล้านบาท แต่ขณะนี้ยอดค้างชำระสูงถึง 4 ล้านบาทแล้ว

    “หากเป็นเช่นนี้เท่ากับว่าโรงพยาบาลเอกชนได้กำไรจำนวนมาก จากการตรวจโรคไข้หวัดธรรมดา ซึ่งกรมควบคุมโรคกำลังดำเนินการแยกบัญชีค่าตรวจเชื้อจากห้องปฏิบัติการให้เห็นว่าใครเป็นผู้ส่งตัวอย่างเชื้อมาตรวจ หากหน่วยงานใดที่ไม่ใช่กรมควบคุมโรคเป็นผู้ส่งเชื้อมาตรวจหน่วยงานนั้นจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการตรวจเอง ไม่ใช่มาเรียกเก็บจากกรมควบคุมโรคทั้งหมด”แหล่งข่าวระดับสูงกล่าว

  • วอนอย่าดิ้นรนเสียเงินตรวจหวัดพันธุ์ไหน
    นพ.มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า ขณะนี้กรมดำเนินตรวจหาเชื้อไข้หวัดใหญ่ในห้องปฏิบัติการอย่างเต็มที่ตลอด 24 ชั่วโมง สามารถตรวจได้วันละ 400 ตัวอย่าง และศูนย์กรมวิทยาศาสตร์ฯในภูมิภาคต่างๆอีกแห่งละ 50 ตัวอย่างเท่านั้น ทั้งนี้เบื้องต้นจะขอความร่วมมือส่งแต่รายที่จำเป็น โดยไม่สามารถทำตามกระแสความตื่นตระหนกของประชาชนต้องการได้ หากยังไม่ให้ความร่วมมือในอนาคตคงจะต้องให้นำประวัติผู้ป่วยแนบมากับสารคัดหลั่งที่ส่งให้ตรวจพิสูจน์ เพื่อเป็นการคัดกรองรายที่จำเป็น เนื่องจากกรมฯตรวจไม่ไหว และยังมีภาระงานอื่นๆที่จำเป็นต้องใช้ห้องปฏิบัติการและบุคลากรในการตรวจวิเคราะห์อื่นๆอีกเช่น ตรวจอาหารปลอดภัย ตรวจสารเคมี ฯลฯ

    “ล่าสุดได้มีการประชุมระดับห้องปฏิบัติการของทั้งกรมวิทยาศาสตร์ฯกับของคณะแพทยศาสตร์ฯทั้งหลายซึ่งเห็นตรงกันว่าไม่สามารถตรวจสารคัดหลั่งได้ ดังนั้นจึงอยากฝากบอกประชาชนว่าการตื่นตระหนกและแห่ไปตรวจเชื้อว่าเป็นสายพันธุ์ใด ใหม่หรือเก่าที่โรงพยาบาลเอกชนก็ไม่เป็นประโยชน์ เพราะแพทย์จะต้องให้การรักษากับอาการที่เกิดขึ้นก่อนที่ผลทางห้องปฏิบัติการจะออกมา ดังนั้นไม่ต้องดิ้นร้นเสียเงินเป็นจำนวนมาก เพราะการรักษาก็ไม่แตกต่างกันกับโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล”นพ.มานิต กล่าวว่า

  • กำลังโหลดความคิดเห็น