กทม.เร่งเดินหน้าโครงการบ้านยิ้มเฟส 2 เปิดให้ข้าราชการลูกจ้าง กทม.ลงทะเบียนขอสิทธิ์ซื้อบ้านใหม่ 22-26 มิ.ย.นี้ ขณะที่ปรับหนี้บัตรเครดิตเริ่ม 25 มิ.ย.พนักงานบริษัท-วินมอเตอร์ไซค์ ได้อานิสงส์
นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหาร กทม.ถึงความคืบหน้าการโครงการบ้านยิ้ม ว่า จากที่มีผู้จองโครงการบ้านยิ้มเฟส 1 ของการเคหะแห่งชาติจำนวน 1,886 ราย คิดเป็นมูลค่า 855 ล้านบาท ทำให้มียอดวงเงินเหลือ 6,145 ล้านบาทจาก 7,000 ล้านบาท ดังนั้น ในโครงการบ้านยิ้มเฟส 2 จะเปิดให้ข้าราชการลูกจ้าง กทม.ที่ต้องการซื้อที่พักอาศัย หรือกู้เงินเพื่อซ่อมแซมบ้าน หรือรีไฟแนนซ์บ้านวงเงิน 1.5 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้มีผู้ได้รับสิทธิ์ 6,964 ราย รวมจะมีผู้ได้รับสิทธิ์จากโครงการนี้ทั้งสิ้น 8,850 ราย ซึ่งจะเปิดให้ลงทะเบียนจองสิทธิ์ระหว่างวันที่ 22-26 มิถุนายนนี้ โดยปลัด กทม.จะเป็นประธานพิจารณาคัดเลือกและจะประกาศผลให้ทราบในวันที่ 13 กรกฎาคม 2552
ส่วนความคืบหน้าปรับหนี้บัตรเครดิตให้กับข้าราชการและลูกจ้าง กทม.นั้น นายธีระชน กล่าวว่า ธนาคารออมสิน และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ได้กำหนดเงื่อนไขดังนี้ คือ ธนาคารออมสินให้กู้รายละไม่เกิน 1.5 ล้านบาท หรือไม่เกิน 40 เท่าของเงินเดือน เช่น เงินเดือน 10,000 บาท สามารถกู้ได้ 400,000 บาท ระยะเวลาผ่อนชำระไม่เกิน 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 6.60% ข้าราชการระดับซี 1-7 ต้องมีผู้ค้ำประกัน ระดับ 8 ขึ้นไปไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน ส่วนธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ได้ตั้งวงเงินสำหรับโครงการนี้ไว้ 100 ล้านบาท โดยจะให้กู้รายละไม่เกิน 1.5 ล้านบาท ผ่อนชำระได้ไม่เกิน 7 ปี คิดค่าตอบแทน 8% กรณีเป็นข้าราชการไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน เป็นลูกจ้างต้องให้ข้าราชการซี 3 เป็นผู้ค้ำประกัน ส่วนที่คิดค่าตอบแทนสูงกว่าธนาคารออมสินนั้น เนื่องจากไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน
นายธีระชน กล่าวอีกว่า โครงการเฟสแรกนี้จะเริ่มในวันที่ 25 มิถุนายนนี้ ที่ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการ กทม.ตั้งแต่เวลา 09.30-16.00 น.จะเปิดให้ลงทะเบียนเพื่อขอสินเชื่อโดยจะให้ข้าราชการลูกจ้าง กทม.แจ้งความประสงค์พร้อมยื่นเอกสารหลักฐานต่างๆ กับเจ้าหน้าที่ของธนาคารทั้ง 2 แห่ง เพื่อพิจารณาคุณสมบัติของผู้มีสิทธิ์กู้ แต่หากมาไม่ทัน ก็สามารถติดต่อขอสินเชื่อที่ธนาคารได้โดยตรง ซึ่งคาดว่า วันที่ 1 กรกฎาคมนี้ ธนาคารจะสามารถอนุมัติสินเชื่อให้ผู้ที่ยื่นความประสงค์ได้
อย่างไรก็ตาม ในเฟสที่ 2 จะเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไป สามารถเข้าร่วมโครงการปรับหนี้บัตรเครดิตได้ โดยธนาคารออมสินจะเปิดโอกาสให้กับบริษัทห้างร้านที่จ่ายเงินเดือนผ่านบัญชี ขณะที่ธนาคารอิสลามจะเปิดโอกาสให้กับผู้ประกอบอาชีพขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้าง ที่มีทะเบียนบ้านใน กทม.ซึ่งจะเริ่มโครงการหลังจากที่ดำเนินการของข้าราชการลูกจ้าง กทม.เสร็จเรียบร้อยแล้ว
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการปรับหนี้บัตรเครดิตไม่ได้เป็นการส่งเสริมให้มีหนี้เพิ่มขึ้น โดยธนาคารทั้ง 2 แห่งจะกำหนดเงื่อนไขให้ผู้เข้าร่วมโครงการนี้ต้องบริหารจัดการหนี้ให้สอดคล้องกับศักยภาพของตนเอง เพื่อเป็นการให้เริ่มต้นชีวิตใหม่ในเรื่องนี้