“อิสสระ” เผยเตรียมชงงบ 4.7 พันล้านเข้า ครม.สางปัญหาหนี้การเคหะฯ ใน 2 สัปดาห์ เสนอปรับแผนชะลองบลงทุนปี 52 ไว้ก่อน พร้อมวางมาตรการช่วยเจรจา ธ.ออมสินโอนหนี้จาก ธ.พาณิชย์ เชื่อประหยัดได้หลายร้อยล้าน
วันนี้ (12 มิ.ย.) นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการร่วมหารือกับผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ และกระทรวงการคลัง ถึงการแก้ไขปัญหาหนี้บ้านเอื้ออาทรว่า ในการหารือล่าสุดเป็นที่ทราบกันดีว่าการเคหะแห่งชาติ ประกอบการขาดทุนปีนี้เป็นปีที่ 3 ติดต่อกันแล้ว ดังนั้น เมื่อขาดทุนเป็นปีที่ 3 ที่ผ่านก็เคยเสนอหลักการไปครั้งหนึ่งแล้วเพื่อให้ทางรัฐบาลได้เข้าช่วยเหลือ เพราะหากว่าขาดทุนครบ 3 ปี หากปีที่ 4 ยังขาดทุนอยู่ กระทรวงการคลังจะเลิกค้ำประกัน ซึ่งเป็นไปตามกฏหมายที่กำหนดไว้ ฉะนั้นวิธีการแก้ไขปัญหาคือจะทำอย่างไรไม่ให้ขาดทุนจึงต้องอาศัยเงินจากรัฐบาลเข้ามาช่วย โดยตัวเลขงบคร่าวๆ ที่ขอไปครั้งแรกกว่า 6,600 ล้านบาท ซึ่งทางครม.ก็ได้ให้กลับมาทบทวนใหม่ โดยตัดในส่วนงบที่ไม่จำเป็นออก และหาแนวทางการแก้ไขปัญหาในส่วนที่ไม่ต้องใช้เงิน ซึ่งเมื่อพิจารณาแล้วสรุปยอดเงินลดลงมาอยู่ที่ 4,700 ล้านบาท
นายอิสสระกล่าวต่อว่า สำหรับการช่วยเหลือทั้งหมดนี้ได้ข้อสรุปว่า รัฐก็ยังไม่จำเป็นต้องเอาเงินมาช่วย เพียงแต่จะทำการปรับแผนเงินงบประมาณปี 2552 ของการเคหะแห่งชาติ ในโครงการต่างๆ ก็คงต้องชะลอไว้ก่อน โดยเอาเงินในหมวดการลงทุนปี 2552 มาช่วยแก้ไขปัญหา พร้อมทั้งวางมาตรการไว้หลายอย่างเช่น มาตราการเงินกู้ที่ต้องการให้รัฐบาลช่วยเจรจากับธนาคารออมสิน เพื่อนำส่วนที่เป็นหนี้กับธนาคารพาณิชย์มาไว้ที่ธนาคารออมสินแทน เพราะอัตราดอกเบี้ยจะถูกกว่า ก็จะทำให้ประหยัดเงินได้หลายร้อยล้านบาท อีกทั้งการซื้อบ้านเอื้ออาทรเมื่อก่อนกำหนดให้ชื้อได้เพียงหลังเดียวต่อคน แต่จะทำการขยายกฏเกณฑ์ให้ซื้อได้มากกว่าหนึ่งหลังแต่เงื่อนไขต่างๆ เป็นแบบเดิม เป็นต้น
“ในส่วนการนำงบประมาณเสนอต่อ ครม. โดยที่มีการปรับลดลงมาเหลือ 4,700 ล้านบาทนั้น คิดว่าในสัปดาห์หน้าคงไม่ทัน อาจจะนำเข้า ครม.อีกครั้งในสัปดาห์ถัดไป อย่างไรก็ตาม ตัวเลขงบที่เตรียมนำเสนอ 4,700 ล้านบาทนั้น ก็ไม่ได้ใช้ในทีเดียวหมดจะใช้ในปีแรก 3,000 ล้านบาทก่อน ซึ่งเชื่อว่าหากทำได้ตามนี้หนี้แดงของการเคหะจะหายไปในทันที” รมว.พม.กล่าว