ชี้ขาประจำสนามหลวง “มิจฉาชีพ-โรคจิต” เกลื่อน กทม.ยกเป็นปัญหาชาติ

สำรวจพบขาประจำสนามหลวงเยอะถึง 400 คน คัดได้ 10 ประเภท ชี้มีมิจฉาชีพแฝงตัวเกลื่อน-คนมีปัญหาทางจิต ผอ.เขตพระนคร ยกปัญหาคนเร่ร่อนเป็นปัญหาระดับชาติทุกภาคส่วนต้องช่วยแก้ ยกเขตพระนครเป็นพื้นที่นำร่อง

นายเสือชนะ สุดเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพระนคร กรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยถึงความร่วมมือระหว่างสำนักงานเขตพระนคร และ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) สถานีตำรวจในพื้นที่ 4 สถานี ได้แก่ สน.พระนคร สน.สำราญราษฎร์ สน.ชนะสงคราม และ สน.นางเลิ้ง ตั้งสำรวจ และคัดกรองคนเร่ร่อนในพื้นที่เป้าหมาย ได้แก่ พื้นที่สนามหลวง และบริเวณโดยรอบ หลังจากที่ได้ลงพื้นที่ตั้งแต่เดือน ก.พ.ที่ผ่านมาว่า พบว่ามีคนเร่ร่อนที่สามารถตรวจสอบชื่อ สกุล ภูมิลำเนา และวัตถุประสงค์ของการออกเร่ร่อนได้ ประมาณ 400 คน ซึ่งสามารถคัดได้ประมาณ 10 ประเภท อาทิ อยู่ระหว่างรอการตอบรับจ้างทำงาน, ใช้พื้นที่ดังกล่าวเป็นสถานที่ประกอบอาชีพ,มีปัญหาทางจิต, แฝงตัวเป็นมิจฉาชีพ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม จำนวนของคนเร่ร่อนในพื้นที่นมีแนวโน้มที่จะเพิ่มมากขึ้นทุกวัน ซึ่งในแนวทางแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนนั้น ตนได้เสนอเรื่องดังกล่าวไปยังผู้บริหารกทม. เพื่อให้รับทราบแล้ว ล่าสุดนั้นนายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯ กทม.อยู่ระหว่างการประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ภาคประชาสังคม สถาบันการศึกษาในพื้นที่ และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

นายเสือชนะกล่าวอีกว่า ทั้งนี้ตนมองว่าวิธีแก้ไขปัญหานอกจากจะเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับคนเร่ร่อน ด้วยการฝึกอาชีพ ให้ที่พักอาศัย จนถึงให้การศึกษาแล้วก็ต้องมีการปรับปรุงลักษณะกายภาพสถานที่อาศัยไม่ให้เป็นแหล่งใช้สำหรับพักพิงคนเร่ร่อนได้ เช่น บนทางเท้า ควรทำสวนสูง ปลูกต้นไม้ ริมคลองหลอด ต้องมีการทำกำแพงกั้นพื้นที่ เป็นต้น ทั้งนี้ ยอมรับว่าการแก้ไขปัญหาคนเร่ร่อนเป็นปัญหาระดับชาติ ต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อทุกภาคส่วนเข้ามาร่วมกันแก้ไข โดยยินดีที่จะให้พื้นที่ของเขตพระนครเป็นพื้นที่นำร่อง