“จุรินทร์” สั่ง เลขา สช.เช็กบิลโรงเรียนสังกัดที่ไม่ปฏิบัติตามนโยบายเรียนฟรี ด้าน “บัณฑิตย์” แจงสี่เบี้ยโรงเรียนดังเก็บค่าเทอมอัตราเดิม เพราะนโยบายออกมาทีหลัง ยันสั่งให้คืนส่วนที่รัฐอุดหนุนเพิ่มผู้ปกครอง กำชับให้โรงเรียนที่ไม่รับเงินอุดหนุน-ห้องเรียน EP แจงให้ผู้ปกครองก่อนเก็บค่าเทอม
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหาร 5 องค์การหลัก ว่า ตามนโยบายโครงการเรียนฟรี 15 ปี อย่างมีคุณภาพ วันนี้ (1 มิ.ย.) มอบให้ นายบัณฑิตย์ ศรีพุทธางกูร เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) ประสานงานกับโรงเรียนเอกชน วิทยาลัยอาชีวะเอกชน ทั้งหมดที่อยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) โดยเน้นย้ำการที่กระทรวงศึกษาธิการให้การอุดหนุนการค่าเล่าเรียน เดิมช่วยร้อยละ 60 เพิ่มเป็นร้อยละ 70 หมายความว่า ผู้ปกครองจะจ่ายค่าเล่าเรียนลดลงโดยจ่ายเพียงร้อยละ 30 ซึ่งยังมีโรงเรียนเอกชนและวิทยาลัยเอกชนบางแห่ง ยังเก็บค่าเล่าเรียนในอัตราเดิม
“ปัญหานี้ตนให้ เลขา สช.ประสานกับทางโรงเรียน วิทยาลัย ได้ดำเนินการตามระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการ ที่ระบุไว้ จะต้องเก็บค่าเล่าเรียนร้อยละ 30 เพราะรัฐบาลได้ให้การอุดหนุนเพิ่มร้อยละ 10 ถ้าโรงเรียนหรือวิทยาลัยแห่งไหนเก็บค่าเล่าเรียนเต็มจำนวน จะต้องคืนให้แก่ผู้ปกครองในอัตราที่รัฐบาลอุดหนุนเพิ่มให้ เพราะว่าเงินที่รัฐอุดหนุนเพิ่มให้มีเจตนาลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ปกครองและนักเรียน ส่วนกรณีหนังสือเรียน ชุดนักเรียน อุปกรณ์การเรียน หากมีการปฏิบัติไม่เป็นไปตามระเบียบ เช่น ไม่ได้จ่ายเงินสดให้ผู้ปกครองเพื่อไปซื้อชุดนักเรียน จะต้องดำเนินการให้ถูกต้อง ถ้าผู้ปกครองรายใดออกเงินซื้อไปแล้วผู้ปกครองก็มีสิทธิได้รับเงินในส่วนชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียนจากโรงเรียน”
นายจุรินทร์ ย้ำด้วยว่า ให้ สช.รายงานว่า โรงเรียน วิทยาลัย เอกชนที่มีอยู่ในปัจจุบัน ได้ดำเนินการไปมากน้อยแค่ไหน หากโรงเรียนไหนไม่ได้ปฏิบัติก็ถือว่าผิดระเบียบ จะต้องถูกลงโทษตามขั้นตอนต่อไป พร้อมกันนี้ให้ สช.เชิญผู้บริหารสถานศึกษามาร่วมประชุม เพื่อทำความเข้าใจร่วมกันเรื่องเรียนฟรีอีกครั้ง และจะมอบนโยบาย 3 ดีด้วย
นายบัณฑิตย์ กล่าวว่า มีโรงเรียนที่มีชื่อเสียงจำนวนหนึ่งเรียกเก็บค่าเทอม ประมาณเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ แต่นโยบายเรียนฟรี ออกมาทีหลังจากโรงเรียนเก็บไปเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ดี สช.ได้แจ้งให้โรงเรียนเหล่านี้ทราบแล้ว และขอให้ประสานกับผู้ปกครองมารับเงินคืน ยกเว้นโรงเรียนกว่า 100 แห่ง ที่ไม่รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาล จะเก็บค่าเล่าเรียนเต็มจำนวน ซึ่งโรงเรียนแจ้งให้ผู้ปกครอง นักเรียนทราบไปก่อนเปิดภาคเรียนแล้ว
“โรงเรียนเอกชนมีหลายรูปแบบ มีทั้งโรงเรียนที่ไม่รับเงินอุดหนุนรายหัว โรงเรียนที่รับ ห้องเรียน EP ซึ่งโรงเรียนทุกแห่งโดยเฉพาะโรงเรียนที่ไม่รับเงินอุดหนุนกับห้องเรียน EP ชี้แจงว่าเก็บตามปกติ ยกเว้นโรงเรียนที่รับเงินอุดหนุน หากเรียกเก็บไปแล้วก็ให้คืนแก่ผู้ปกครอง ซึ่งทุกแห่งรับทราบนโยบายเรียนฟรีแล้ว แต่จะเชิญผู้บริหารสถานศึกษามาร่วมประชุมอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้เข้าใจตรงกัน เพราะปีหน้ายังมีโครงการเรียนฟรี 15 ปี”
ผู้สื่อข่าวถามว่า วันดื่มนมโลก พบว่า เด็กยังมีภาวะโภชนาการ พบเด็กตัวเตี้ย นายจุรินทร์ กล่าวว่า ขณะนี้เรามีโครงการนมโรงเรียน ซึ่งเป็น มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เดิมให้ดื่มนมตั้งแต่ชั้นอนุบาล ถึง ป.4 ปัจจุบันขยายให้ดื่มนมจนถึง ป.6 และการที่เด็กได้ดื่มนมทุกวันจะทำให้เด็กตัวโตขึ้น มีพัฒนาการทางสมองและการเรียนรู้ดีขึ้น เพราะมีผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยมหิดล มีตัวเลขชัดเจนว่า เด็กไม่ดื่มนมเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่จะสูงน้อยกว่าคนที่ดื่มนมเกือบ 10 เซนติเมตร อีกอย่างหนึ่ง นมมีธาตุเหล็ก ซึ่งมีส่วนสำคัญในการเรียนรู้ พัฒนาไอคิวของเด็ก และการที่รัฐบาลให้เด็กดื่มนมตั้งแต่อนุบาลจนถึง ป. 6 จะเป็นประโยชน์ร่างกายเป็นอย่างยิ่ง
ถามต่อว่า ในอนาคตจะมีการขยายโครงการนม ไปจนถึง ม.ต้น หรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า คงแค่ ป.6 ก่อน เราต้องยอมรับว่ามีข้อจำกัดเรื่องงบประมาณ แต่ว่าในส่วนรัฐบาลไม่ได้ให้แค่นมเท่านั้น ยังให้อาหารกลางวัน จากเดิมให้อนุบาลถึง ป.6 และให้เด็กเพียงร้อยละ 60 จากนักเรียนทั้งหมด เมื่อเร็วๆ นี้ ครม.มีมติ ให้จัดอาหารกลางวันให้เด็กครบทุกคนที่กำลังเรียนอยู่ระดับอนุบาลถึง ป.6