xs
xsm
sm
md
lg

“หมอศิริราช” บี้ ศธ.แถลงผลการตายหญิงเยอรมัน ไขข้อข้องใจ ปชช.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“หมอประเสริฐ” จับตาไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่กลายพันธุ์ เพิ่มระดับความรุนแรงไว้ใจไม่ได้ เผยผู้ป่วยหวัดใหญ่ตามฤดูกาลในไทยมีเชื้อดื้อยาโอเซลทามิเวียร์แล้ว 75% โดยไม่เคยกินยาโอเซลทามิเวียร์มาก่อน แต่ติดเชื้อมาจากผู้ป่วยต่างชาติ “หมอศิริราช” ชี้ สธ.รีบแถลงผลการตายหญิงเยอรมัน ขจัดความแคลงใจของสังคม รอผลเชื้อจากชิ้นเนื้อปอดแน่นอนที่สุด

ที่โรมแรมอิมพีเรียล แม่ปิง จ.เชียงใหม่ ศ.เกียรติคุณ นพ.ประเสริฐ ทองเจริญ ประธานมูลนิธิส่งเสริมการศึกษาไข้หวัดใหญ่ กล่าวในงานจัดอบรมโรคไข้หวัดใหญ่และโรคติดต่ออุบัติใหม่ให้กับแพทย์ บุคลากรสาธารณสุข 8 จังหวัดในภาคเหนือ เพื่อรองรับโรคไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ เอช1เอ็น1 และโรคอุบัติใหม่ ว่า เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ นั้น ตามธรรมชาติจะมีการกลายพันธุ์ตลอดเวลา ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่ไม่สามารถไว้ใจได้เช่นเดียวกับเชื้อเอดส์ ที่กลายพันธุ์ตลอดเวลาเช่นกัน และยังมีการดื้อยาร่วมด้วย โดยที่ไม่สามารถจะรู้ได้ล่วงหน้า นักไวรัสวิทยาจึงต้องเฝ้าวังและจับตาอย่างใกล้ชิด แม้ว่าขณะนี้เชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่จะไม่รุนแรงมาก มีอัตราการเสียชีวิตต่ำ แต่ยังไม่มีหลักประกันว่าเชื้อจะไม่พัฒนาความรุนแรงเพิ่มขึ้น สังเกตได้จากการระบาดในประเทศญี่ปุ่น ที่มีการติดเชื้อในประเทศทั้งที่ไม่มีประวัติการเดินทางไปในพื้นที่ระบาดของโรค ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการรายงานผลสอบสวนโรคให้ทราบ

“จากการศึกษาความรุนแรงของเชื้อไข้หวัดใหญ่ เอ็ช1เอ็น1ที่ระบาดตามฤดูกาลในประเทศไทย พบว่า เชื้อไวรัสมีการดื้อยาโอเซลทามิเวียร์แล้ว ร้อยละ 75 ทั้งที่ในประเทศไทยยังไม่มีการให้ยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์มาก่อนเช่นดียวกับประเทศในแถบสแกนดิเนเวียที่พบการเชื้อไวรัสดื้อ โดยที่ไม่มีการให้ยาโอเซลทามิเวียร์กับคนในประเทศมาก่อน ซึ่งการติดเชื้อเกิดจากประชากรในประเทศได้รับเชื้อไวรัสดื้อยาจากชาวต่างชาติที่เคยป่วยและกินยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ โดยเฉพาะในประเทศญี่ปุ่น ที่มีผู้ป่วยไข้หวัดทานยาโอเซลทามิเวียรใหญ่แล้ว ร้อยละ 20-30 ของผู้ป่วยทั้งหมด จึงทำให้เชื้อมีการดื้อยามากกว่าประเทศอื่นๆ”ศ.เกียรติคุณ นพ.ประเสริฐ กล่าว

ศ.เกียรติคุณ นพ.ประเสริฐ กล่าวต่อว่า ปัญหาการให้ข่าวเกี่ยวกับผู้ป่วย การติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ที่ทำให้เกิดความสับสน หรือแตกตื่นนั้น เกิดจากหน่วยงานอื่นอาจพูดโดยไม่ติดถึงผลประทบหรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น แต่ สธ.ซึ่งเป็นหน่วยงานระดับชาติที่มีความน่าเชื่อถือ ดังนั้นการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นความจริง ที่ผ่านการตรวจสอบอย่างละเอียดจนได้ผลแม่ยำแล้วจึงเปิดเผยข้อมูลให้สาธารณชนรับทราบ ซึ่งจากการทำงานร่วมกับ สธ.ตนมั่นใจในการทำงานของ สธ.ว่า มีความน่าเชื่อถือ และไม่มีการปกปิดข้อมูล

นพ.อมร ลีลารัศมี อาจารย์ประจำภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า การรายงานผลของกระทรวงสาธารณสุข จำเป็นต้องให้เกิดความชัดเจน เช่น ในรายหญิงชาวเยอรมัน ต้องมีการชี้แจงว่าหากไม่ใช่ ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ แล้วเสียชีวิตจากเชื้ออะไร เพื่อขจัดความแคลงใจของสังคม หากเสียชีวิตจากเชื้อแบคทีเรียก็ต้องรีบแจ้งเพื่อให้หมดข้อสงสัย ทั้งนี้ การพิสูจน์เชื้อทางห้องปฏิบัติการ ในกรณีนำเชื้อมาจากเสมหะ หากตรวจเชื้อเป็นลบ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีเชื้อเสมอไป เพราะเชื้ออาจจะลดลงเมื่อเสียชีวิตหรือการเก็บตัวอย่างอาจไม่ได้มาตรฐาน หากกรณีเสียชีวิตสามารถนำชิ้นเนื้อจากปอดมาพิสูจน์ได้ ก็จะได้ผลเชื้อที่ชัดเจนที่สุด

นพ.จรูญ ปิรยะวรากรณ์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านเวชกรรมป้องกัน สธ.กล่าวว่า ไข้หวัดใหญ่เป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคทางเดินหายใจแบบเฉียบพลันพบได้บ่อยในทุกกลุ่มทุกอายุ โดยคาดว่าในประเทศไทยจะมีผู้ป่วย ปีละ 7-9 แสนราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยที่มีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น ปอดบวมมีมากนับหมื่นราย มีความสูญเสียทางเศรษฐกิจมูลค่าหลายพันล้านบาทต่อปี ดังนั้น เพื่อการป้องกันการเจ็บป่วย สธ. ได้ร่วมมือกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จัดซื้อวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล จำนวน 1,790,000 โดส เพื่อฉีดป้องกันให้กับบุคลากรทางการแพทย์ ปศุสัตว์ และกลุ่มประชาชนที่มีโรคเรื้อรัง 7 โรค คือ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย เบาหวาน และผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการรับเคมีบำบัด เนื่อแทรกจากคนกลุ่มนี้อ่อนแอ มีความเสี่ยงในการเจ็บป่วยสูงและอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนทำให้เสียชีวิตได้ โดยจะเริ่มให้วัคซีนตั้งแต่วันที่ 1กรกฎาคม- 31 สิงหาคมนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น