xs
xsm
sm
md
lg

สบร.เดินหน้า 3 ยุทธศาสตร์หลักปี 52 เน้นพัฒนาแหล่งเรียนรู้ สร้างฐานคิดธุรกิจอาชีพสร้างสรรค์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สบร.เปิดบ้านฉลองครบ 5 ปี กระตุกต่อมคิดสร้างสรรค์ ตั้ง 3 ยุทธศาสตร์หลัก ปี 52 พัฒนาแหล่งเรียนรู้กระตุ้นความคิด-สร้างต้นแบบพัฒนาเครือข่าย-บ่มเพาะธุรกิจความคิดสร้างสรรค์ มุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายผู้มีความสามารถพิเศษ อยู่ในตลาดแรงงาน เพิ่มจากเด็กเยาวชน พร้อมมีส่วนร่วมในโครงการพัฒนาศก.เชิงสร้างสรรค์ภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ 2 (2553-2555) ลั่นเงินทุกบาทมาจากภาษี ปชช.จะใช้ให้คุ้มค่า และเป็นธรรมที่สุด
TK PARK ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 8
วันนี้ (20 พ.ค.) ที่ห้องประชุมใหญ่ สำนักงานบริหาร และพัฒนาองค์ความรู้ (สบร.) อาคารดิออฟฟิศเศส แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ดร.ณรงชัย อัครเศรณี ประธานกรรมการบริหาร สำนักงานบริหาร และพัฒนาองค์ความรู้ (สบร.) หรือ OKMD เป็นประธานเปิดบ้าน OKMD กระตุกต่อมคิดสร้างสรรค์ พร้อมเผยถึงแผนการดำเนินงานในปีที่ผ่านมาว่า ทาง สบร.ได้สนับสนุน ส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงความรู้ในสาขาต่างๆ อย่างเต็มที่ ทั้งยังขยายผลแหล่งเรียนรู้สาธารณะต้นแบบที่ประสบความสำเร็จ ถ่ายทอดไปยังกลุ่มผู้นำทางความคิดเพื่อต่อยอด พัฒนา และเสริมสร้างแหล่งเรียนรู้ในสังคม หรือชุมชน ไม่ว่าจะเป็น การจัดการทำโครงการศูนย์ความรู้กินได้ ศูนย์รวมความรู้เพื่อการประกอบอาชีพ การบริหารจัดการพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ ห้องสมุดมีชีวิต และห้องสมุดเพื่อการออกแบบ หลักสูตรการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับการพัฒนาสมอง รวมทั้งเสริมสร้างให้เด็กเป็นอัจฉริยะและมีคุณธรรม

สำหรับในปีนี้ สบร.มุ่งเน้นไปที่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานความคิดสร้างสรรค์ (Creative Economy) โดยกำหนด ยุทธศาสตร์การดำเนินงานไว้ 3 ยุทธศาสตร์หลัก ได้แก่ ยุทธศาสตร์พัฒนาแหล่งบริการความรู้ กระตุ้นต่อมคิดสร้างสรรค์ ยุทธศาสตร์การสร้างต้นแบบ (Prototype) พัฒนาเครือข่าย และยุทธศาสตร์การบ่มเพาะธุรกิจความคิดสร้างสรรค์ (Incubation) เพื่อเป็นการบ่มเพาะคนรุ่นใหม่ที่จะเป็นกำลังในการสร้างเศรษฐกิจฐานความคิดให้เติบโตต่อไป เจาะกลุ่มเป้าหมายผู้มีความสามารถพิเศษ และประชาชนที่อยู่ในตลาดแรงงาน เพิ่มเติมจากเด็ก และเยาวชน ที่ให้ความสำคัญอยู่แล้ว

“เศรษฐกิจความคิดสร้างสรรค์ เป็นแนวทางที่ได้รับการยอมรับจากประเทศที่พัฒนาแล้วจากหลายประเทศ เป็นการนำเอาความคิดสร้างสรรค์มาทำให้เป็นสินค้า และบริการที่มีศิลป์ และศาสตร์ร่วมกัน สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ชุมชน และประเทศต่อไป เหมือนกับประเทศเกาหลีที่ถือเป็นต้นแบบที่นำแนวคิดนี้ไปเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจภายในประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ละครเกาหลี มือถือ ซี่งเห็นได้ชัด และได้ผลเป็นอย่างดี”ประธานกรรมการบริหาร สบร.กล่าว

ดร.ณรงชัย กล่าวต่อว่า สำหรับประเทศไทยมีสินค้าและบริการที่ไม่เป็นรองชาติใดในโลก หากได้รับการกระตุ้น และสนับสนุนด้านความคิดสร้างสรรค์อย่างเต็มที่ ก็จะเป็นการขับเคลื่อนให้ก้าวสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ที่ไม่ต้องการโรงงานขนาดใหญ่ แต่จะพัฒนาด้วยการผสมผสานงานศิลป์จากความคิดสร้างสรรค์กับศาสตร์เทคโนโลยีทั้งที่เป็นภูมิปัญญาดั้งเดิม หรือเทคโนโลยีสมัยใหม่ ให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ไทยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวได้ ซึ่งเงินทุกบาทที่มาจากภาษีของประชาชน จะได้รับการใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างคุ้มค่า และเป็นธรรมที่สุด

อย่างไรก็ตาม การลงทุนเพื่ออนาคตนั้นสบร.ได้มีส่วนร่วมในโครงการด้านการพัฒนาเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ ภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ 2 (พ.ศ.2553-2555) ซึ่งได้เสนอแผนการลงทุนไว้ 4 โครงการด้วยกัน คือ โครงการส่งเสริมผู้ประกอบการเพื่อต่อยอดธุรกิจความคิดสร้างสรรค์ โครงการ Creative City เพื่อสร้างภาพลักษณ์ของประเทศ ดึงดูดให้ผู้ประกอบการ หรือนักคิดสร้างสรรค์จากต่างประเทศเข้ามาทำธุรกิจ และเป็นเครือข่ายร่วมกับประเทศไทย

ตามมาด้วยโครงการส่งเสริมการเรียนรู้ และความคิดสร้างสรรค์ เพื่อการเข้าถึงแหล่งความรู้ และการค้นคว้าวิจัยเชิงลึกเกี่ยวกับภูมิปัญญาท้องถิ่น และมรดกทางวัฒนธรรม ตลอดจนจัดทำสื่อ ส่งเสริมอุตสาหกรรมเชิงสร้างสรรค์ และโครงการเผยแพร่องค์ความรู้ สร้างทัศนคติ และความเข้าใจเศรษฐกิจความคิดสร้างสรรค์ ซี่งรายระเอียดโครงการดังกล่าว จะตามมาเป็นระยะต่อไป

ในวันเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานว่าทาง สบร.ได้พาผู้เข้าร่วมงานพร้อมคณะสื่อมวลชนเดินทางไปเยี่ยมชมแหล่งความรู้ต้นแบบของ สบร. (OKMD) 3 แห่ง ได้แก่ อุทยานการเรียนรู้ TK PARK ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 8 ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ TCDC ณ ดิเอ็มโพเรียม ช็อปปิงคอมเพล็กซ์ ชั้น 6 และพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ Museum Siam ณ ถนนสนามไชย ซึ่งได้รับการต้อนรับจากผู้บริหารในแต่ละหน่วยงานเป็นอย่างดี
กำลังโหลดความคิดเห็น