xs
xsm
sm
md
lg

สสส.อู้ฟู่ได้งบภาษีบาปเพิ่ม 120 ล.เตรียมวางแผนใช้เงิน-ชี้ต้องขึ้นเรื่อยๆ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สสส.เฮเตรียมวางแผนจัดทำงบประมาณ หลังได้งบจากภาษีบาปเพิ่ม 2% หรือ 120 ล้าน ชี้ ต้องขึ้นภาษีเหล้าบุหรี่เป็นระยะๆ ต่อเนื่อง เพื่อลดปริมาณการบริโภค ระบุ เห็นผลชัดหลังขึ้นภาษีจนคนสูบบุหรี่ลดลง ยันผลงานที่ผ่านมา ฮู ประเมินผลน่าพอใจ

ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ รองผู้จัดการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า การที่รัฐบาลจัดเก็บอัตราภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่เพิ่มขึ้น ถือว่าได้ทั้ง 2 ทาง คือ รัฐบาลได้งบประมาณเพิ่มขึ้นและช่วยให้ลดการบริโภคเหล้าและบุหรี่ อย่างไรก็ตาม ในมุมของ สสส.ซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติงานไม่ถือว่าเป็นการเพิ่มรายได้ แต่เป็นการใช้มาตรการทางภาษีเพื่อลดการบริโภคเหล้าและบุหรี่ ซึ่งตามหลักทางวิชาการ ไม่ว่าจะเป็นในไทยและต่างประเทศก็ใช้เป็นมาตรการหนึ่งในการลดการบริโภค รวมถึงองค์การอนามัยโลก (WHO) ก็สนับสนุนให้ประเทศต่างๆ ขึ้นภาษีเป็นระยะๆ อย่างต่อเนื่อง เหมาะสม รวมทั้งต้องคิดอัตราภาษีตามภาวะเงินเฟ้อเพื่อไม่ให้เหล้าและบุหรี่มีราคาถูกทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ง่าย ซึ่งในช่วง 10 ปี ที่ผ่านจะเห็นผลอย่างชัดเจนในการขึ้นภาษีบุหรี่ช่วยให้ลดการสูบบุหรี่ได้อย่างต่อเนื่อง

“สำหรับการขึ้นภาษีครั้งนี้ กรมสรรพสามิตจะสามารถเก็บภาษีได้เพิ่มขึ้น 6 พันล้านบาท ในระยะเวลา 1 ปี โดยธุรกิจแอลกอฮอล์และบุหรี่จะต้องจ่ายเพิ่มอีก 2% สำหรับเข้ากองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือเป็นจำนวน 120 ล้านบาท ซึ่งเท่ากับ 3-4% ของงบประมาณของ สสส.ที่ได้รับ หรือประมาณ 2,700 ล้านบาท โดยในแต่ละปีจะไม่เท่ากัน เนื่องจากตามกฎหมายรายรับของ สสส.ต้องผูกติดกับรายได้ของกรมสรรพาสามิตซึ่งรายได้ที่เพิ่มเข้ามาถือเป็นจำนวนที่ไม่มากแต่อย่างใด นอกจากนี้ บริษัทเหล้าและบุหรี่ จะต้องจ่ายเงินสนับสนุนสถานีโทรทัศน์ทีวีไทย (ไทยพีบีเอส) อีกประมาณ 1.5% หรือ 90 ล้านบาท โดยที่งบประมาณส่วนนี้จะไม่ได้ทันทีแต่ทยอยได้รับหลังจากนี้ 1 ปี” ดร.สุปรีดา กล่าว

ดร.สุปรีดา กล่าวอีกว่า ขณะนี้ บอร์ด สสส.อยู่ระหว่างการประชุมเพื่อจัดทำแผนงบประมาณ รวมถึงงบประมาณที่เพิ่มขึ้น เพื่อนำมาสร้างสุขภาพของประชาชนให้ดีขึ้น แต่ยังไม่สามารถระบุรายละเอียดในแต่ละโครงการได้ อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา มาตรการการลดการบริโภคแอลกอฮอล์หลังจากมีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น มีการสนับสนุนเสริมสร้างความเข้มแข็งในระดับจังหวัดและจะขยายสู่ภูมิภาคต่างๆ มากขึ้น อีกทั้งยังส่งเสริมให้ครอบครัว ชุมชน มีความเข้มแข็ง สร้างลานกีฬาเพื่อสุขภาพ เป็นต้น

ส่วนการที่ก่อนหน้านี้ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ทำการศึกษาวิเคราะห์นโยบายการทำงานและการบริหารจัดการกองทุนย้อนหลัง ตั้งแต่ปี 2546-2550 โดยได้มีการออกข้อเสนอแนะ ให้มีการทำแผนประเมินทุก 3 ปี และแผนระยะยาว 10 ปี จากเดิมที่มีการทำแผนทุกปีอยู่แล้ว ซึ่งได้รายงานผลและตอบข้อซักถามของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในการประชุมบอร์ดครั้งที่ผ่านมา จนเป็นที่เข้าใจทุกประการ ขณะที่มีการประเมินการบริหารงานเชิงโครงสร้างใหม่ตามกฎหมาย มีการประเมินหลายระดับ ตลอดเวลาอยู่แล้ว ทั้งคณะกรรมการกองทุนที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน นอกจากนี้ยังมีการประเมินผลงานอย่างเข้มข้นของคณะรัฐมนตรี (ครม.) รัฐสภาทุกปี รวมทั้งมีผู้เชี่ยวชาญจากองค์การอนามัยโลกเข้ามาประเมินผลการดำเนินงานของ สสส.ซึ่งโดยภาพรวมน่าพอใจ เพราะมีความก้าวหน้าในหลายด้านไม่แพ้ในประเทศอื่นๆ

กำลังโหลดความคิดเห็น