xs
xsm
sm
md
lg

แฉ! ครูตุ๊ด-ทอม ตุ๋ยนักเรียนแลกเกรด สภาเยาวชนร่างสิทธิเด็กส่ง UN

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เยาวชนไทยระดมสมองจัดทำร่างสิทธิเด็ก ระบุ 10 ปัญหาสถานการณ์การละเมิดสิทธิเด็ก เยาวชน แย้มหลังประชาพิจารณ์เสร็จเตรียมส่งมอบรายงานให้ “บัวแก้ว” ส่งต่อ คกก.สิทธิเด็กแห่งสหประชาชาติ ในช่วงเดือน ก.ค.นี้ เพื่อช่วยพัฒนาสิทธิเด็กไทยให้เป็นที่ยอมรับในสากล แฉเด็กพะเยาครองแชมป์ติดเอดส์มากสุดภาคเหนือ - โจ๋ 11 ปีท้องไม่พร้อม สภาเด็ก จ.สุรินทร์ เผยพบครูตุ๋ยเด็กแลกเกรด ด้าน กก.สภาเด็ก จ.สตูล ชี้ รัฐเอาจริงสร้างการศึกษา-อาชีพ ช่วยลดความรุนแรงความไม่สงบได้

วันนี้ (12 พ.ค.) ที่โรงแรมชาลีน่า สำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส คนพิการ และผู้สูงอายุ (สท.) จัดประชุมประชาพิจารณ์ร่างรายงานเรื่อง สิทธิเด็ก ฉบับเด็ก ในหัวข้อเรื่อง “การมีส่วนร่วมของเด็กและเยาวชนในการป้องกันการละเมิด” เพื่อจัดทำเป็นรายงานนำเสนอต่อคณะกรรมการสิทธิเด็กแห่งสหประชาชาติต่อไป ตามกรอบการดำเนินงานของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก โดยมีคณะทำงานด้านเด็ก สภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทยจากทั่วประเทศเข้าร่วมประชุม

ว่าที่ร้อยตรี ศรันย์ สมานพันธ์ รองผู้อำนวยการ สท. กล่าวว่า ร่างรายงานเรื่องสิทธิเด็ก ฉบับเด็กนี้ เป็นการระดมความคิดเห็นจากเวทีสิทธิเด็กทั้งระดับจังหวัด ภูมิภาค และระดับชาติ จนสรุปสถานการณ์ปัญหาการละเมิดสิทธิเด็กและเยาวชน ผลกระทบและข้อเสนอแนะในการแก้ไขออกเป็น 10 ปัญหา ประกอบด้วย 1.การถูกละเมิดทางเพศ 2.ความรุนแรง 3.การศึกษา 4.ยาเสพติด 5.การใช้แรงงาน 6.การปิดกั้นทางความคิด 7.สื่อ 8.เด็กไร้สัญชาติ 9.ความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ และ 10.การละเมิดทางวาจา ซึ่งหลังจากผ่านกระบวนการประชาพิจารณ์แล้ว สท.จะจัดแปลเป็นภาษาอังกฤษใช้เวลาประมาณหนึ่งเดือน จากนั้นจะให้ผู้แทนเด็กและเยาวชนเป็นผู้มอบรายงานให้แก่กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อส่งให้มอบต่อคณะกรรมการสิทธิเด็กแห่งสหประชาชาติ ในช่วงเดือนกรกฎาคมต่อไป ซึ่งจะช่วยพัฒนาเรื่องสิทธิเด็กของประเทศไทยให้เป็นที่ยอมรับได้ในระดับสากล

นายณัฐกมล ตุ้มแปง คณะทำงานที่ปรึกษาสภาเด็กและเยาวชน จ.พะเยา กล่าวว่า ได้รับทราบข้อมูลปี 2551 จากสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) พะเยา พบว่าเด็กพะเยาติดเชื้อเอชไอวีเป็นอันดับ 4 ของประเทศไทย และเป็นอันดับ 1 ในภาคเหนือ เป็นปัญหาที่ที่น่าห่วงอย่างยิ่ง และสถิติในปี 2550 พบว่า เด็กพะเยาที่ตั้งครรภ์โดยไม่พร้อมมีอายุเพียง 11 ปีเท่านั้น สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าเด็กมีเพศสัมพันธ์ในช่วงอายุที่น้อยลง ส่งผลให้เด็กต้องออกจากการเรียนกลางคัน และเกิดปัญหาสังคมมากมาย ซึ่งการให้ความรู้เรื่องเพศศึกษานั้นเป็นเรื่องสำคัญ แต่สังคมยังมองเรื่องดังกล่าวเป็นการส่งเสริมเรื่องการมีเพศ ทั้งที่เป็นเรื่องของสุขภาวะทางเพศที่ต้องดูแลในทุกช่วงวัย

น.ส.ผัสชา พาชื่น ประชาสัมพันธ์สภาเด็กและเยาวชน จ.สุรินทร์ นำเสนอปัญหาการศึกษาและยาเสพติดว่า ปัญหาการศึกษาที่พบคือสถานที่ อุปกรณ์การเรียนการสอนและสาธาณูปโภคไม่เพียงต่อผู้เรียน ขณะเดียวกัน พบปัญหาจากตัวครูที่มีการเลือกปฏิบัติต่อเด็ก มีการใช้ความสัมพันธ์เชิงอำนาจ เช่น เด็กอยากเพิ่มเกรดต้องทำงานให้ครูหรือมีเพศสัมพันธ์ ตัวอย่างใกล้ตัวที่ตนทราบจากบิดาซึ่งพบเจอเหตุการณ์ในช่วงปีที่ผ่านมา พบครูชายโรงเรียนมัธยมบางแห่งใน จ.สุรินทร์ บังคับมีเพศสัมพันธ์กับเด็กนักเรียนชาย หรือแม้แต่ครูผู้หญิงกับเด็กนักเรียนหญิงก็เคยรับทราบข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตหรือจากการบอกเล่าจากเพื่อนๆ ซึ่งลักษณะการใช้ความสัมพันธ์เชิงอำนาจแม้จะไม่ปรากฎจำนวนว่ามีมาก แต่รูปแบบที่เกิดขึ้นน่าวิตกอย่างยิ่ง เรื่องนี้อยู่ที่จรรยาบรรณครูผู้สอนที่ต้องเข้มงวด ขณะที่เด็กผู้ถูกกระทำต้องหาช่องทางที่จะฟ้องร้องผู้ใหญ่

นายวัลลภ แก้วพนม คณะบริหารสภาเด็กและเยาวชน จ.เพชรบูรณ์ กล่าวถึงสถานการณ์ปัญหาเรื่องสื่อว่า สื่ออยู่กับเด็กตลอด 24 ชม.และมีอิทธิพลต่อการเรียนรู้ในรูปแบบต่างๆ ของเด็ก โดยเฉพาะสื่อที่ไม่เหมาะสมที่แอบแฝงในโฆษณา สื่อออนไลน์ ดังนั้นเยาวชนต้องใช้วิจารณญาณในการรับสื่อ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรณรงค์ให้ผลิตสื่อสร้างสรรค์

นายอำนาจ เสียงสวัสดิ์ รองประธานสภาเด็กและยาวชนจ.นครสวรรค์ กล่าวถึงปัญหาแรงงานเด็ก ว่า ความยากจนทำให้เด็กต้องเข้าสู่ตลาดแรงงานเพื่อหารายได้ด้วยอายุที่ต่ำกว่ากฎหมายกำหนด เป็นโอกาสให้ผู้ใหญ่แสวงหาผลประโยชน์ หรือเกิดการมั่วสุม จึงอยากเสนอให้รัฐจัดตั้งกองทุนส่งเสริมอาชีพให้เด็กทีเหมาะสม ส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมนายจ้าง สร้างความรู้ความเข้าใจให้กับนายจ้างและลูกจ้างเรื่องแรงงานเด็ก และส่งเสริมให้เด็กมีรายได้ช่วงปิดภาคเรียน

นายสอลาหุดดีน ใบหาด กรรมการสภาเด็กและเยาวชน จ.สตูล กล่าวว่า สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ส่งผลต่อโอกาสทางการศึกษาของเด็ก การบิดเบือนคำสอน การว่างงานที่ทำให้ถูกชักจูงไปกระทำผิดได้ง่าย จึงอยากให้ภาครัฐและเอกชนเอาจริงเอาจังในการแก้ปัญหาภาคใต้อย่างเด็ดขาด ให้การศึกษาอย่างทั่วถึง ปลูกฝังให้ประชาชนรักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ และสร้างครอบครัวและชุมชนให้เข้มแข็ง ปลูกฝังคำสอนทางศาสนาที่ถูกต้อง และรัฐบาลต้องสร้างงานสร้างอาชีพให้กับคนในพื้นที่
กำลังโหลดความคิดเห็น