“สภาคนพิการ” ติงรัฐบาลเมินการศึกษาคนพิการ ชี้นโยบายเรียนฟรี 15 ปี ไม่ระบุสาระสำคัญถึงคนพิการว่าจะได้อะไร เผย สถานศึกษาเพื่อคนพิการทั่วประเทศมี 20 แห่ง อยู่ในความรับผิดชอบของรัฐเพียงแห่งเดียว ที่เหลือเอกชนดูแล แขวะขอเข้าพบ “จุรินทร์” หลายครั้งไม่ได้รับการประสาน ถ้าเป็นนักธุรกิจกลับอ้าแขนรับ คนพิการกลับไม่ให้โอกาส ฝากรัฐบาลดูแลการศึกษา ฝึกอาชีพ เน้นศักยภาพในตัวผู้พิการ
อาจารย์ประหยัด ภูหนองโอง ประธานฝ่ายการศึกษา สภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า นโยบายรัฐบาลโดยเฉพาะด้านการศึกษามุ่งเน้นแต่ช่วยเหลือคนปกติที่มีโอกาสอยู่แล้ว แต่ไม่มีการพูดถึงคนพิการ ซึ่งข้อมูลจากสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษาการ ซึ่งทำการสำรวจผู้ที่ได้รับการศึกษา พบว่า คนทั่วไปซึ่งอยู่ในวัยเรียนที่ได้รับการศึกษามีจำนวนร้อยละ 97.6 ในขณะที่ผู้พิการในวัยเรียนซึ่งทั่วประเทศมีอยู่ประมาณ 3 แสนคน ในจำนวนนี้ได้รับการศึกษาเพียงร้อยละ 24 เท่านั้น โดยเฉพาะนโยบายเรียนฟรี 15 ปี อย่างมีคุณภาพ ยังไม่ทราบว่าคนพิการจะได้อะไรบ้างในนโยบายดังกล่าว
อ.ประหยัด กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันสถานศึกษาที่รองรับคนพิการทุกประเภทมีอยู่เพียง 20 แห่งทั่วประเทศ ในจำนวนนี้เป็นโรงเรียนสอนคนตาบอด 11 แห่ง โดยมีเพียงแห่งเดียวที่ดำเนินการโดยรัฐบาล ที่เหลือเป็นการดำเนินงานโดยองค์กรเอกชน ขณะที่นโยบายเรียนฟรี 15 ปี อย่างมีคุณภาพที่รัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่ในเวลานี้ ยังไม่รู้ว่าคนพิการจะได้รับสิทธิ์ในนโยบายดังกล่าวที่เป็นรูปธรรมอย่างไร โดยเฉพาะการแจกหนังสือเรียนฟรี ซึ่งคนตาบอดต้องใช้หนังสืออักษรเบรล ซึ่งต้องแปลงจากหนังสือเรียนทั่วไปเป็นอักษรเบรลที่มีค่าใช้จ่ายสูง เพราะที่ผ่านมารัฐบาลไม่เคยช่วยเหลือเลย มีแต่เอกชนที่อุดหนุน ดังนั้น การแจกหนังสือเรียนฟรีไม่แน่ใจว่าคนตาบอดจะได้สิทธิ์หรือไม่
อย่างไรก็ตาม ตนได้ทำหนังสือขอเข้าพบนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.ศึกษาธิการ เพื่อเสนอปัญหาการศึกษาคนพิการ โดยทำหนังสือไปเป็นเดือนแล้ว ยังไม่ได้รับการประสานให้เข้าพบ จึงไม่เข้าใจว่าทำไมเวลานักธุรกิจขอเข้าพบรัฐบาลชุดนี้ถึงได้พบง่าย แต่เวลาคนพิการขอเข้าพบเพื่อพูดคุยเรื่องการศึกษาทำไมถึงเข้าหายากมาก นโยบายด้านสังคมของรัฐบาลชุดนี้ค่อนข้างดี พูดอะไรออกมาก็ติดตลาด แต่สำหรับคนพิการดูจะไม่ค่อยได้รับความสนใจแม้แต่เข้าพบยังยาก ทั้งนี้ อยากฝากรัฐบาลให้ความสำคัญกับการศึกษา การฝึกอาชีพ และส่งเสริมการมีงานทำให้กับผู้พิการ เพราะผู้พิการมีความสามารถและศักยภาพหลายด้านที่สามารถช่วยเหลือตนเอง และทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติได้เช่นกัน