กรมศิลป์เตรียมปรับโครงสร้างใหม่หลังสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ และหอภาพยนตร์แห่งชาติ ขึ้นตรง วธ.อธิบดีกรมศิลป์ ชี้ การปรับงานใหม่จะคล่องตัวมากขึ้น เตรียมทำแผนเสนอ รมว.วธ.
นายเกรียงไกร สัมปัชชลิต อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ตนได้ประชุมผู้บริหารกรมศิลปากร ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ผู้แทนคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างของกรมศิลปากร เนื่องจากขณะนี้สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ และหอภาพยนตร์แห่งชาติ ได้ออกจากการกำกับดูแลของกรมศิลปากร และขึ้นตรงกับกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ซึ่งที่ประชุมเห็นว่า ควรมีการปรับสำนักเลขานุการกรมศิลปากร ให้เป็น สำนักบริหาร เพราะมีหน้าที่ครอบคลุมหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเงิน การคลัง การติดต่อประสานงาน การวางแผนต่างๆ รวมทั้งให้มีการแยกงานบริการ อนุรักษ์เอกสาร จดหมายเหตุ กลุ่มงานอนุรักษ์ ให้เป็น ศูนย์อนุรักษ์ โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ เพื่อให้การทำงานเกิดความคล่องตัวและสามารถให้บริการความรู้แก่ประชาชนด้วย
นายเกรียงไกร กล่าวต่อไปว่า สำหรับสำนักศิลปากรทั้ง 15 แห่ง ทั่วประเทศ จะปรับบทบาทให้ชัดเจนยิ่งขึ้น นอกจากจะดูแลงานอุทยาน โบราณสถาน โบราณวัตถุ และมรดกโลกแล้ว จะเพิ่มบทบาทหน้าที่ในการจดแจ้งการพิมพ์ ตาม พ.ร.บ.จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ.2550 ด้วย ซึ่งที่ประชุม ผู้แทน ก.พ.ร.และผู้แทนคณะกรรมการกฤษฎีกา เห็นด้วยกับการปรับโครงสร้างดังกล่าว ส่วนกรอบโครงสร้างของอัตรากำลังนั้น จะไม่มีผลกระทบกับการปรับโครงสร้างครั้งนี้ แต่ในเรื่องอัตรากำลังที่จะมีการเกษียณอายุราชการในเดือนตุลาคมนี้ จำนวน 21 อัตรา กรมศิลปากรได้ดำเนินการเตรียมขอตำแหน่งคืนจากสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(ก.พ.) แล้ว
“การปรับโครงสร้างดังกล่าว จะต้องมีการแก้ไขกฎกระทรวงวัฒนธรรม และต้องนำเสนอต่อคณะกรรมการปรับโครงสร้าง ซึ่งมี นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเป็นประธานได้พิจารณาอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ผมคิดว่าการปรับโครงสร้างครั้งนี้เป็นไปตามความเหมาะสม และคิดว่าจะทำให้งานในกรมศิลปากรมีความชัดเจนขึ้น”อธิบดีกรมศิลปากร กล่าว
