วธ.ดัน “หอภาพยนตร์-สำนักภาพยนตร์-สำนักส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์” เป็นองค์การมหาชน อธิบดีกรมศิลป์-ปลัด วธ.ชงเรื่องให้ “ธีระ” จ่อเข้า ครม.เร็วๆ นี้ คาด การเปลี่ยนผ่านเป็นผลดีต่อการทำงาน ทั้ง 3 องค์กร
นายเกรียงไกร สัมปัชชลิต อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ได้มีการประชุมเกี่ยวกับการปรับหอภาพยนตร์แห่งชาติเป็นองค์กรมหาชน ซึ่งในส่วนของกรมศิลปากร ได้ยืนยันตามมติของคณะกรรมการพัฒนาระบบข้าราชการ (ก.พ.ร.) ว่า เห็นสมควรให้หอภาพยนตร์เป็นองค์การมหาชน เพราะมีบทบาทสำคัญในการเก็บรวบรวมฟิล์มภาพยนตร์ต่างๆ เป็นจำนวนมาก ในขณะเดียวกัน ทาง ก.พ.ร.ยังได้ให้ข้อเสนอแนะด้วยว่า เมื่อกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) มีหน่วยงานภาพยนตร์ ถึง 3 ส่วน ได้แก่ สำนักภาพยนตร์และวิดีทัศน์ ในการดูแลของสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (สวช.) สำนักส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ที่จะอยู่ในความดูแลของสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย (สศร.) และหอภาพยนตร์แห่งชาติ ซึ่งอยู่ในความดูแลของกรมศิลปากร ควรที่จะรวมกันเป็นองค์การมหาชนหน่วยงานใหญ่ เพียงแห่งเดียว เพราะจะสามารถทำหน้าที่ได้อย่างครบวงจรด้านภาพยนตร์มากขึ้น
นายเกรียงไกร กล่าวต่อไปว่า กรมศิลปากร ได้นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับหอภาพยนตร์แห่งชาติในการออกเป็นองค์การมหาชน ต่อนายวีระ โรจน์พจนรัตน์ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เสนอให้ นายธีระ สลักเพชร รมว.วัฒนธรรม พิจารณานำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป ทั้งนี้ หาก ครม.เห็นชอบให้หอภาพยนตร์แห่งชาติเป็นองค์การมหาชน ทางกรมศิลปากร จะต้องดำเนินการสำรวจทรัพย์สินของหอภาพยนตร์ ว่า มีอะไรบ้างที่เป็นสมบัติของชาติ จะต้องโอนกลับมายังกรมศิลปากร เนื่องจากองค์กรมหาชนไม่ใช่หน่วยงานของทางราชการอีกต่อไป
ด้านนายวีระ โรจน์พจนรัตน์ ปลัด วธ.กล่าวว่า ขณะนี้ ตนได้นำเสนอข้อมูลการจัดตั้งหอภาพยนตร์แห่งชาติเป็นองค์การมหาชน ต่อ นายธีระ สลักเพชร รมว.วัฒนธรรม แล้ว คาดว่า จะนำเข้าสู่การประชุม ครม.ในเร็วๆ นี้ ซึ่งส่วนตัวเห็นว่า องค์กรมหาชนเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะทำให้ทำงานได้คล่องตัวยิ่งขึ้น แต่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน กรมศิลปากร ควรจะเข้ามาดูแลเกี่ยวกับทรัพย์สินที่จะต้องโอนกลับมายังราชการ โดยเฉพาะฟิล์มภาพยนตร์เก่า เพราะถือเป็นสมบัติสำคัญของชาติ