"คุรุสภา" ย้ำชัดๆ ผู้ประกอบวิชาชีพครูจะต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพโดยเฉพาะสถานศึกษาเอกชน ที่มักพบครู-อาจารย์บางส่วนสอนโดยไม่มีใบอนุญาต เล็งตรวจสอบเข้มโดยเฉพาะโรงเรียนเอกชนชื่อดังในเมืองกรุง ชี้ หากตรวจพบทั้งครูและสถานศึกษาต้องได้รับการลงโทษ
นายองค์กร อมรสิรินันท์ เลขาธิการคุรุสภา กล่าวถึงกรณีที่คุรุสภา จะเปิดให้ผู้ประกอบวิชาชีพครูและผู้ประสงค์ขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ยื่นคำร้องขอใบอนุญาตได้ตั้งแต่ในวันที่ 20 พ.ค.นี้ ว่า ในครั้งนี้คุรุสภาได้ปรับปรุงระบบและขั้นตอนการขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูใหม่ ซึ่งจะทำให้คุรุสภาสามารถดำเนินการตรวจสอบข้อมูลของครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะในโรงเรียนเอกชน ที่มีปัญหามาก เมื่อมีการไปตรวจสอบกันภายหลังมักจะพบว่ามีครู อาจารย์หลายรายที่สอนอยู่โดยที่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพ อาทิ กรณีของครูสาวที่ก่อเหตุอนาจารนักเรียน เป็นต้น
ดังนั้นในครั้งนี้คุรุสภาจึงได้มีการจัดระบบข้อมูลใหม่ ซึ่งจะทำให้คุรุสภาได้รู้ว่า โรงเรียนแต่ละแห่งมีครูจำนวนเท่าใด และมีครูที่ยื่นขอใบอนุญาตจำนวนเท่าใด เพราะในครั้งผู้ยื่นขอใบอนุญาตจะต้องยื่นข้อมูลผ่านระบบของโรงเรียน ต่างกับในอดีตที่ต่างคนต่างยื่นเรื่องเข้ามายังคุรุสภาเอง ทำให้ควบคุมได้ลำบาก แต่ครั้งนี้หากผู้บริหารโรงเรียนรับรองข้อมูลจำนวนครูที่ยื่นขอใบอนุญาตเข้ามา เมื่อคุรุสภาไปตรวจสอบก็จะต้องมีจำนวนที่ตรงกัน
“ระบบใหม่นี้ทำให้คุรุสภาจะมีข้อมูลผู้ประกอบวิชาชีพแต่ละสังกัดว่ามีเท่าไร ดังนั้น หากโรงเรียนแจ้งว่ามีครูยื่นขอใบอนุญาต 20 คน เมื่อคุรุสภา ส่งเจ้าหน้าที่ไปสำรวจหากพบว่ามีครูที่สอนอยู่เกินกว่าจำนวนที่ขอใบอนุญาตมา ก็จะต้องมีการสอบสวนและชี้แจงให้ได้ ซึ่งที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า ช่วงที่ผ่านมา คุรุสภา อาจจะอะลุ้มอล่วยไปมาก เพราะถือว่าอยู่ในช่วงแรกของการทำความเข้าใจ ไม่ได้บังคับใช้ตามข้อกฎหมายอย่างเคร่งครัด แต่ครั้งนี้ก็มีผู้ที่จบตามหลักสูตรครู 5 ปีแล้ว หรือหากไม่ได้จบหลักสูตรครูก็สามารถเข้าอบรมต่ออีก 1 ปี และยื่นขอใบอนุญาตฯ ได้ ดังนั้นมาตรการจากนี้จะต้องเข้มข้น ในการเข้าไปดูแลตรวจสอบถึงโรงเรียน ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนรัฐ เอกชน หรือระดับท้องถิ่น” นายองค์กร กล่าว
นายองค์กร กล่าวอีกว่า หากคุรุสภาพบว่าโรงเรียนใดละเลย และปล่อยให้ครูที่ไม่มีใบอนุญาตสอนอยู่ ผู้บริหารและครูจะต้องได้รับโทษทั้งจำและปรับตามกฎหมายทันที โดยเฉพาะโรงเรียนเอกชนชื่อดังในกรุงเทพฯ หลายแห่ง คุรุสภาจะมีการดูแลตรวจสอบอย่างเข้มข้นเป็นพิเศษเพราะมีจำนวนครูมาก รวมทั้งมีการจ้างครูต่างชาติเข้ามาสอนด้วย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำรอยเหมือนที่ผ่านมา