กมธ.ต่อต้านคอรัปชั่นของวุฒิสภาชุด “รสนา” เตรียมทำหนังสือถึงสถานทูตออสเตรียถามความชัดเจนซื้อรถดับเพลิงกทม.เป็นแบบรัฐต่อรัฐหรือไม่ ขณะที่องค์กรต่อต้านคอรัปชั่นนานาชาติโดดขอข้อมูลชี้เหมือนกรณีที่แอฟริกา
นางรสนา โตสิตระกูล สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กรุงเทพมหานคร(กทม.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมาธิการการศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาลวุฒิสภา เรื่องการแก้ไขปัญหารถดับเพลิงมูลค่า 6,687 ล้านบาท ที่กทม.จัดซื้อจากบริษัทสไตเออร์ฯ ว่า ที่ประชุมได้เชิญผู้แทนคณะกรรมการป้องกันการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) มาหารือ พบว่าเรื่องนี้ติดขัดในข้อกฎหมายที่ 2 องค์กรเห็นสวนทางเรื่องสัญญา ซึ่งป.ป.ช. เห็นว่าสัญญาเป็นโมฆะเพราะการลงนามจัดซื้อในระดับรัฐบาลหรือ G to G มิชอบ ให้กทม.ฟ้องยกเลิกสัญญา ขณะที่อัยการเห็นว่าให้ตั้งคณะอนุญาโตตุลาการมาเจรจาก่อน ส่วนกทม. ก็ยังไม่ได้ดำเนินการใดๆ รอความเห็นจาก 2 หน่วยงานที่ตั้งกรรมการร่วมหาข้อสรุป
ขณะที่กระทรวงมหาดไทยซึ่งกำกับดูแลกทม.และเป็นต้นเรื่องจัดซื้อก็ไม่ลงมาดูแลแก้ไขปัญหา เป็นเรื่องที่นักการเมืองทำไว้ ไม่มีใครคำนึงถึงผลประโยชน์กับประชาชนผู้เสียภาษีและนำไปจ่ายค่ารถดับเพลิงทุกงวดแต่ไม่นำรถมาใช้งาน และเป็นปัญหาเรื่องนโยบายสาธารณะของรัฐบาลที่ถ่ายโอนงานให้ท้องถิ่นแต่เข้าไปก้าวก่ายงาน เพราะไปแทรกแซงออกสเปคจัดซื้อให้หน่วยงานเองพอเกิดปัญหาไม่ลงไปแก้ไขซึ่งมีปัญหาลักษณะนี้อีกแห่งที่จังหวัดนครสวรรค์และมีกระบวนการส่อไปในทางทุจริต รัฐบาลต้องลงมาเป็นเจ้าภาพหลักแก้ปัญหา ดังนั้นที่ประชุมเห็นว่าจะทำหนังสือถึงสถานทูตออสเตรียประจำประเทศไทยเพื่อสอบถามว่าการจัดซื้อครั้งนี้เป็นการซื้อในระดับรัฐบาลจริงหรือไม่ รวมทั้งจะทำหนังสือถึงกระทรวงมหาดไทยให้ลงมาแก้ปัญหานี้ด้วย
ด้านนางมาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าฯกทม.กล่าวว่า ตนเห็นด้วยกับแนวทางของกรรมาธิการฯเมื่อจัดซื้อในระดับรัฐบาลโดยกระทรวงมหาดไทยก็ควรลงมาช่วยแก้ปัญหาด้วย ปัญหานี้เริ่มมีทางออกเพราะหน่วยงานอื่นเข้ามาร่วมหาข้อสรุป ซึ่งการทำหนังสือถึงสถานทูตออสเตรียนั้นก่อนหน้านี้ผู้ว่าฯกทม.หารืออย่างไม่เป็นทางการกับทูตออสเตรียคนปัจจุบันไปแล้วแต่ไม่ได้มีหนังสือไปจึงไม่ได้รายละเอียดที่ชัดเจนมากนัก การที่องค์กรตรวจสอบอย่างส.ว. หรือคณะกรรมาธิการฯหารือไปน่าจะได้ข้อมูลที่ดีกว่า ในส่วนของกทม.จะเร่งทำหนังสือเสนอรัฐบาลให้ตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาในระดับชาติที่มีทุกหน่วยงานเกี่ยวข้องเข้าร่วมภายในกลางเดือนพ.ค.นี้ รวมทั้งรอผลจากที่ประชุมกรรมาธิการฯด้วย
อย่างไรก็ตามล่าสุดองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นนานาชาติ ยังมาขอข้อมูลจากกทม.ในเรื่องนี้ที่ส่อไปในทางทุจริตว่าซื้อแพง และจัดซื้อในระดับรัฐบาลที่มีการค้าต่างตอบแทน ซึ่งเห็นว่ามีลักษณะการทุจริตเหมือนที่ประเทศแอฟริกาที่มีประเทศที่เจริญแล้วติดต่อนักการเมืองที่นั่นจัดซื้อต่างตอบแทนเช่นกัน