“สำนักพิมพ์แม็ค” โร่ร้องศาลปกครองฟ้องกราวรูด กระทรวงศึกษาฯ-สพฐ-เลขา สพฐ.กรณีแทงกั๊กบังคับโรงเรียนให้ใช้แบบเรียนหลักสูตรเก่าในโรงเรียนที่ต้องใช้หลักสูตรใหม่ 2552 เผย ทำให้รัฐต้องเสียงบซื้อซ้ำซ้อน และทำให้สำนักพิมพ์ที่เตรียมพิมพ์แบบเรียนหลักสูตรใหม่ได้รับความเสียหาย
นายพีระ พนาสุภน กรรมการผู้จัดการบริษัทสำนักพิมพ์แม็ค จำกัด แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า วันนี้ (30 เม.ย.) ได้มอบอำนาจให้นายทวีศักดิ์ แสงเงิน และนายสมพงษ์ ตั่นไพบูลย์ ทนายความเดินทางไปยื่นฟ้องกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เรื่องกระทำและออกกฎโดยมิชอบ กรณีที่บังคับให้โรงเรียนใช้หนังสือเรียนหลักสูตรเก่าในการเรียนการสอนในโรงเรียนที่ต้องใช้หลักสูตรใหม่ในปีการศึกษา 2552 โดยขอให้ศาลปกครองพิจารณาคุ้มครองฉุกเฉิน และขอให้ผู้ถูกฟ้องยกเลิกแนวทางการดำเนินงานตามนโยบายเรียนฟรี 15 ปี อย่างมีคุณภาพที่กำหนดให้โรงเรียนพิจารณาคัดเลือกหนังสือเรียน ตามรายการบัญชีหนังสือเรียนที่ สพฐ.กำหนด ซึ่งมีเฉพาะหนังสือเรียนและสื่อการเรียนรู้ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2544 เท่านั้น และให้ผู้ถูกฟ้องคดีกำหนดนโยบายเรียนฟรี 15 ปี โดยให้โรงเรียนสามารถพิจารณาคัดเลือกหนังสือเรียนและสื่อการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551 ได้ และให้มีหนังสือแจ้งไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกเขตและสถานศึกษาทุกแห่งรับทราบ เพื่อปฏิบัติ
นอกจากนี้ ขอให้ผู้ถูกฟ้องคดียกเลิกแนวปฏิบัติในการเลือกใช้สื่อการเรียนรู้ของสถานศึกษา ที่ให้เลือกเฉพาะสื่อตามหลักสูตร พ.ศ.2544 และให้ออกแนวปฏิบัติในการเลือกใช้สื่อการเรียนรู้ของสถานศึกษาโดยให้สามารถพิจารณาเลือกใช้หนังสือเรียนตามหลักสูตรพ.ศ.2551ได้ และให้มีหนังสือแจ้งไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกเขตและสถานศึกษาทุกแห่งรับทราบและปฏิบัติ ซึ่งศาลปกครองได้รับคำร้องดังกล่าวไว้แล้ว
นายพีระ กล่าวต่อว่า การขอให้ศาลคุ้มครองให้สถานศึกษามีโอกาสได้เลือกซื้อ สื่อการเรียนรู้ตามหลักสูตร พ.ศ.2551 ในปีการศึกษา 2552 นอกจากทำให้ครูผู้สอนและนักเรียนสามารถใช้สื่อการเรียนรู้ดังกล่าวในปีการศึกษา 2552 แล้ว สื่อการเรียนรู้ที่สถานศึกษาซื้อตามนโยบายเรียนฟรี 15 ปี นั้น รัฐมีนโยบายให้ใช้เป็นระยะเวลา 3 ปี โดยจัดซื้อทดแทนเฉพาะสื่อการเรียนรู้ที่ชำรุดประมาณร้อยละ 30 ซึ่งการกำหนดให้สถานศึกษาขั้นพื้นฐานทั้งหมดทั่วประเทศใช้หลักสูตรขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551 ในปีการศึกษา 2553 เป็นต้นไป หากสถานศึกษาเลือกซื้อสื่อตามหลักสูตร พ.ศ.2551 จะทำให้ได้ใช้สื่อตรงตามหลักสูตรแกนกลาง พ.ศ.2551 ในปีการศึกษา 2553 และ 2554 ต่อไปอีกด้วย
แต่หากสถานศึกษาใช้สื่อการเรียนรู้ตามหลักสูตร 2544 ก็จะทำให้เสียงบประมาณจัดซื้อสื่อการเรียนรู้ใหม่ในปี 2553
“เมื่อต้นปี 2550 สพฐ.ได้จัดทำร่างหลักสูตรใหม่และได้เชิญสำนักพิมพ์เอกชนเตรียมทำหนังสือตามหลักสูตรใหม่และกลางปี 2551 กระทรวงศึกษาฯ มีคำสั่งให้ใช้หลักสูตรใหม่ในปีการศึกษา 2552 สำหรับโรงเรียนต้นแบบและโรงเรียนที่มีความพร้อม แต่ในการประกาศบัญชีรายชื่อหนังสือที่ให้สถานศึกษาเลือกซื้อ สำหรับปีการศึกษา 2552 นั้น มีเฉพาะหนังสือตามหลักสูตร 2544 ซึ่งเป็นหลักสูตรเก่า โดยสพฐ.อ้างว่าไม่สามารถตรวจหนังสือตามหลักสูตรใหม่ที่เอกชนยื่นให้ตรวจได้ทัน ทั้งๆ ที่นับจากการประกาศใช้หลักสูตรใหม่เมื่อกลางปี 2551 จนถึงเปิดปีการศึกษา 2552 เป็นระยะเวลา 1 ปี สพฐ.ไม่ได้ดำเนินการในการตรวจหนังสือใหม่เลย
นอกจากนี้ ในวิชา 3 กลุ่มสาระ ได้แก่ ศิลปะ สุขศึกษาและพลศึกษา การงานอาชีพและเทคโนโลยี และภาษาอังกฤษ (ลิขสิทธิ์ต่างประเทศ) ซึ่งสามารถขายก่อนตรวจได้ สพฐ.ก็มิได้ดำเนินการรับหนังสือใหม่ไว้เพื่อให้สำนักพิมพ์ประกันคุณภาพตนเองขายก่อนตรวจ ทั้งที่สพฐ.เคยทำมาตั้งแต่ปี 2546 ดังนั้นการประกาศให้โรงเรียนเลือกซื้อหนังสือเฉพาะหลักสูตรพ.ศ.2544 ทำให้สำนักพิมพ์เอกชนที่เตรียมการพิมพ์หนังสือตามหลักสูตร 2551 ไว้ ได้รับความเสียหาย” ประธานกรรมการบริษัท แม็ค จำกัด กล่าว
ด้าน นายสมพงษ์ กล่าวว่า ขณะนี้ศาลปกครองได้รับสำนวนคำฟ้องไว้แล้ว และได้ขอให้ศาลพิจารณา หรือมีคำสั่งคุ้มครองฉุกเฉินก่อนที่จะพิจารณาคดีถึงสิ้นสุด คาดว่าการพิจารณาให้การคุ้มครองฉุกเฉิน ใช้เวลาไม่เกิน 1 สัปดาห์