กทม.ทุ่มงบอีก 561 ล้านบาท เดินตามนโยบายเรียนฟรีของรัฐบาลในปีการศึกษา 2552 พร้อมให้สถานศึกษาเรียกเก็บใบเสร็จค่าชุด-อุปกรณ์การเรียนจากนักเรียนและผู้ปกครอง ขณะที่เตรียมดึงงบประมาณจากหน่วยงานที่ไม่ก่อหนี้คืนเป็นเงินสะสมสร้างสมดุลรายรับ-จ่าย
วันนี้ (24 เม.ย.) ที่ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในการประชุมหัวหน้าหน่วยงานของ กทม.ประจำเดือนเมษายน 2552 โดยมี ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.เป็นประธาน ทั้งนี้ นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่า ในปีนี้ กทม.ตั้งป้าว่าจะมีรายรับจาการจัดเก็บภาษีและเงินสนับสนุนจากรัฐบาเต็มที่ 42,000 ล้าน ซึ่งทำให้ กทม.จะต้องดำเนินการดึงงบประมาณจากหน่วยงานที่ไม่ก่อหนี้กลับคืนมาเป็นเงินสะสมยกเว้นโครงการที่จำเป็นจริงๆ เท่านั้น และให้จัดตั้งงบประมาณเท่าที่เบิกจ่ายจริง
ทั้งนี้ เพื่อให้รายรับกับรายจ่ายสมดุลกัน นอกจากนี้ สำหรับเอกสารที่จะส่งไปยังกระทรวงมหาดไทยเพื่อนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณานั้น ขอให้แต่ละหน่วยงานทำสำเนาส่งนายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยด้วยในฐานะที่กำกับดูแลหน่วยงานกทม.
ด้านนางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวถึงแนวทางการดำเนินตามนโยบายเรียนฟรี 15 ปีของรัฐบาลว่า จากที่ได้หารือกักระทรวงศึกษาธิการเมื่อเร็วๆ นี้ กทม.ตกลงที่จะเพิ่มค่าเครื่องแบบและอุปกรณ์การเรียนให้กับนักเรียนในสังกัด กทม.ทั้ง 435 โรง โดยขอให้แต่ละโรงเรียนติดตามใบเสร็จจากนักเรียนและผู้ปกครอง หากพบว่าไม่มีการนำเงินที่ได้มาไปซื้อเครื่องแบบผู้ปกครองก็ต้องคืนเงิน โดยงบประมาณที่ กทม.จะต้องนำมาใช้เพื่อดำเนินการตามนโยบายเรียนฟรี 15 ปี ในปีการศึกษา 2552 นี้ ต้องเพิ่มอีกถึง 561 ล้านบาท
