“อิสสระ” เตรียมเยือนพม่า ทำ MOU หวังป้องกันค้ามนุษย์ข้ามชาติ

พม.เตรียมทำ MOU ป้องกันปัญหาค้ามนุษย์กับพม่า เพื่อจัดรูปแบบการดูแล เข้มงวดในเรื่องการเข้าทำงานอย่างถูกกฎหมาย ผ่านการตรวจโรคติดต่อ รู้จำนวนแรงงานที่ชัดเจน หลังที่ผ่านมามีแรงงานพม่าลักลอบเข้าทำงาน และไม่ผ่านกระบวนการจำนวนมาก เผยที่ผ่านมาทำ MOU กับ 3 ประเทศเพื่อนบ้านแล้ว ได้รับผลการจัดการเป็นรูปธรรมขึ้น อย่างน่าพอใจ

นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 24 เมษายน 2552 นี้ กระทรวงจะเดินทางไปทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับรัฐบาลของประเทศพม่า ในสาระความสำคัญของปัญหาการค้ามนุษย์เป็นหลัก เพื่อป้องกันและจำกัดโอกาสการนำมนุษย์มาเป็นแรงงาน ในลักษณะของการเป็นทาส ถูกกดขี่ข่มเหง และนำมาทำงานอย่างผิดกฎหมาย เช่น แรงงานที่อยู่บนเรือประมง และประเทศไทยเองก็ถือได้ว่าเป็นแหล่งของการค้ามนุษย์ประเทศหนึ่งในภูมิภาคนี้ ซึ่งเป็นประเทศต้นทาง ปลายทาง และทางผ่าน ของขบวนการค้ามนุษย์

โดยก่อนหน้านี้ ประเทศไทย โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้ร่วมทำ MOU กับอีก 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศเวียดนาม ประเทศกัมพูชา และประเทศลาว มาแล้ว ซึ่งครั้งล่าสุดนี้ที่เลือกทำ MOU กับประเทศพม่า ก็เพราะต้องยอมรับว่าแรงงานทั้งถูกกฎหมาย และผิดกฎหมาย ที่หลั่งไหลเข้ามาทำงานในไทยส่วนใหญ่เป็นแรงงานที่มาจากพม่า แต่ที่มีการทำ MOU ช้าไปกว่าประเทศอื่นก็เนื่องมาจากรัฐบาลของพม่าเองยังไม่ยอมรับว่า แรงงานเหล่านั้นไม่ใช่คนของตัวเอง อ้างว่า เป็นเพียงชนกลุ่มน้อยต่างๆ แต่อย่างไรชนกลุ่มน้อยเหล่านั้นก็อยู่ในแผ่นดินของพม่าและหากการทำ MOU นี้ เกิดขึ้นก็เชื่อว่าผู้ที่จะได้รับประโยชน์ที่สุด ก็คือประเทศพม่านั่นเอง

นายอิสสระ กล่าวต่อว่า สำหรับสาระสำคัญในการทำ MOU ในเรื่องการป้องกันการค้ามนุษย์ในครั้งนี้นั้น จะครอบคลุมไปถึงการจัดรูปแบบในการดูแล ในการเดินทางเข้ามาทำงานของแรงงานพม่าในไทย การใช้หลักสิทธิมนุษยชนในการเข้ามาดูแล และเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเคารพ ทั้งยังจะมีการเข้มงวด กวดขัน ในเรื่องต่างๆ ทั้งการ ขออนุญาตเข้าทำงานที่ถูกขั้นตอนมีการทราบถึงจำนวนของผู้ที่เข้ามาทำงานอย่างแน่ชัดเจน และทุกคนต้องเข้าสู่กระบวนการตรวจโรคติดต่อ เพราะหากเดินทางเข้ามาอย่างถูกกฎหมายก็ต้องมีการตรวจอยู่แล้ว แต่ก็จะมีการเข้มงวดในการป้องกันการลักลอบเข้าประเทศ และนำแรงงานเหล่านั้นเข้าสู่ขั้นตอนของการตรวจโรคเช่นเดียวกัน โดยขณะนี้มีแรงงานพม่าไหลเข้ามาในไทยหลายแสนคน แต่เข้าสู่กระบวนการนี้เพียงแค่บางส่วนเท่านั้น ซึ่งตรงนี้ก็จะมีอำนาจการควบคุมที่เข้มงวดขึ้นกว่าเดิม

“ที่ผ่านมา หลังจากทำ MOU เรื่องของการค้ามนุษย์ กับทั้ง 3 ประเทศ ทางเราก็มีการติดตามผลอย่างต่อเนื่องเรื่อยมา ว่ามาตรการที่วางร่วมกันจะมีผลบังคับใช้อย่างจริงจังมากน้อยแค่ไหน และเท่าที่ติดตามผลที่ได้รับก็น่าพอใจ แต่ละประเทศมีรูปแบบการจัดการที่เป็นรูปธรรมขึ้น ทั้งเราและทุกๆ ประเทศต่างก็ได้รับความรู้ ได้รับสิทธิการคุ้มครอง ซึ่งคาดว่าหลังจากทำ MOU กับประเทศพม่าแล้วนั้น ก็ต้องมีการพูดคุยกันอีกครั้งว่าจะทำความร่วมมือในลักษณะนี้กับประเทศใดต่อไป แต่เบื้องต้นก็ถือว่าทั้ง 4 ประเทศที่มีอาณาเขตกับเราต่างก็มีความร่วมมือที่เป็นไปในทิศทางเดียวกันทุกประเทศแล้ว” รมว.พม.กล่าว