เนปาล ร่อนหนังสือถึงไทยช่วยสกัดหนัง “Chandni Chowk to China” อ้างเหตุบิดเบือนสถานที่ประสูติพระพุทธเจ้า วธ.รับลูกสแกนก่อนฉาย ชี้อาจห้ามไม่ได้ แต่ต้องตัดบางฉากออก พร้อมเตรียมดำเนินคดีกับ “ทรนง ศรีเชื้อ” เหตุใบปิดหนังไม่ผ่านเซ็นเซอร์
เมื่อวันที่ 31 มี.ค. นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ได้ทำหนังสือถึง วธ. เรื่องการตรวจพิจารณาภาพยนตร์ จันนิ ชอร์ค ทู ไชน่า (Chandni Chowk to China) เนื่องจากสถานเอกอัครราชทูตเนปาลประจำประเทศไทย ทำหนังสือชี้แจงว่า รัฐบาลเนปาลได้ห้ามฉายภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวในเนปาล ซึ่งให้เหตุผลว่า ภาพยนตร์ดังกล่าวบิดเบือนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานที่ประสูติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยระบุว่า ประสูติในประเทศอินเดีย ซึ่งไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่พระองค์ประสูติ ณ สวนลุมพีนี ประเทศเนปาล ดังนั้น จึงทำหนังสือขอให้ฝ่ายไทยพิจารณาประเด็นเกี่ยวกับข้อเท็จจริงดังกล่าวด้วย
นายธีระ กล่าวต่อว่า ตนได้มอบหมายให้สำนักภาพยนตร์และวิดีทัศน์ (สภว.) สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (สวช.) ในฐานะหน่วยงานที่ตรวจสอบเนื้อหาภาพยนตร์ก่อนอนุญาตให้ฉาย เผยแพร่และจัดจำหน่าย ภายในประเทศไทย ว่าจะต้องดำเนินการอย่างไร หากพบว่าเนื้อหามีการบิดเบือนจริงตามที่เนปาลกล่าวแจ้ง
นายประดิษฐ์ โปซิว รักษาการผู้อำนวยการสำนักภาพยนตร์และวีดิทัศน์ (สภว.) กล่าวว่า คณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวิดีทัศน์ได้รับหนังสือฉบับดังกล่าวแล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่มีการส่งภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวมาให้คณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์ฯ ตรวจพิจารณาเนื้อหา มีเพียงการส่งรูปแบบโปสเตอร์ที่จะใช้โฆษณาและประชาสัมพันธ์ ซึ่งก็ผ่านการตรวจสอบ เพราะไปสเตอร์ดังกล่าวไม่มีข้อความหรือภาพที่แสดงให้เห็นว่าเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง ดังนั้นจึงยังไม่สามารถให้ตอบได้ว่าจะดำเนินการอย่างไร ต้องรอจนกว่าจะส่งภาพยนตร์เข้าให้คณะกรรมการพิจารณา แต่เชื่อว่าการจะห้ามฉายในประเทศไทยคงเป็นไปไม่ได้ ซึ่งน่าจะเป็นการตัดฉาก ภาพ หรือเนื้อหาในส่วนที่มีการบิดเบือนข้อเท็จจริงออก หรือไม่ก็ขึ้นตัวหนังสือชี้แจงความจริงกรณีดังกล่าวว่า พระพุทธเจ้าประสูติที่ลุมพีนี ประเทศเนปาล ไม่ใช่ประเทศอินเดีย ทั้งนี้เท่าที่ทราบรายละเอียดของภาพยนตร์ดังกล่าว เป็นหนังอินเดียเรื่องแรกที่สร้างในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน และเป็นหนังแนวตลกและคำพูดที่บอกว่า พระพุทธเจ้า ประสูติในประเทศอินเดีย เป็นการพูดเชิงติดตลก จึงคิดว่าไม่น่าจะส่งผลกระทบจนถึงต้องห้ามฉายในไทย
นายประดิษฐ์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้สำนักภาพยนตร์ฯ กำลังรวบรวมข้อมูล เตรียมแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินคดีอาญากับนายทรนง ศรีเชื้อ ผู้กำกับภาพยนตร์ 2022 สึนามิ วันโลกสังหาร เนื่องจากได้นำภาพโปสเตอร์ที่ไม่ผ่านการตรวจพิจารณาจากคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ โดยโปสเตอร์ดังกล่าวเป็นภาพศพผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์คลื่นยักษ์ สึนามิ ซึ่งศพอยู่ในสภาพขึ้นอืดนอนเรียงรายอยู่ริมชายหาด บางรายอยู่ในสภาพไม่มีเสื้อผ้าห่อหุ้มร่างกาย มองเห็นอวัยวะเพศชัดเจน ส่วนด้านบนของโปสเตอร์มีข้อความว่า “มนุษย์ทำร้ายโลกมานาน ใกล้ถึงเวลาโลกทวงแค้นจากเรา” และด้านล่างมีข้อความเขียนเป็นภาษาญี่ปุ่น อยู่บนคำว่า “2022 สึนามิ วันโลกสังหาร 30 เมษายน 2009 ทุกโรงภาพยนตร์” ไปใช้ในการโฆษณาและประสัมพันธ์ภาพยนตร์ดังกล่าว ซึ่งมีความผิดตามมาตรา 78 ของ พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวิดีทัศน์ พ.ศ.2551 ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 2 แสนถึง 1 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม สำหรับเนื้อหาของภาพยนตร์ทางเจ้าของภาพยนตร์ยังไม่ได้ส่งเข้ามาให้คณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์ฯ ตรวจพิจารณา