วิจัยพบสารสกัด “ใบพญายอ” มีฤทธิ์ทำลายเชื้อโรคเริม งูสวัด ช่วยแผลตกสะเก็ด หายเร็ว ลดอาการปวด ไม่มีผลข้างเคียง เตรียมถ่ายทอดเทคโนโลยีให้ อภ.ผลิตขายทดแทนนำเข้าจากต่างประเทศ
นพ.มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้ทำการศึกษาวิจัยสมุนไพรพญายอ ตั้งแต่ พ.ศ.2535 โดยศึกษาฤทธิ์ของสารสกัดจากใบเสลดพังพอน และใบพญายอต่อเชื้อโรคเริม ซึ่งเป็นไวรัสที่มีชื่อว่าเฮอร์ปีส์ ซิมเพลกซ์ ไวรัสชนิดที่ 2 หรือเอชเอสวี-2 เปรียบเทียบกับยามาตรฐานและกลุ่มควบคุม สารสกัดจากใบตำลึง พบว่าสารสกัดจากพญายอมีฤทธิ์ทำลายไวรัสเอชเอสวี-2ได้ แต่สารสกัดจากใบเสลดพังพอนและใบตำลึงไม่มีฤทธิ์ดังกล่าว
“นอกจากนี้ ได้ทดลองทางคลินิกรักษาผู้ป่วยโรคเริมที่อวัยวะสืบพันธุ์ชนิดเอชเอสวี-2 ด้วยยาครีมที่พัฒนาจากสารสกัดจากใบพญายอ โดยทาบริเวณที่เป็นโรค พบว่าครีมพญายอมีประสิทธิภาพดี ทำให้แผลหายเร็วขึ้น ลดความเจ็บปวดได้ดี ครีมพญายอไม่ทำให้แสบระคายเคืองที่แผลพร้อมกันนี้ได้ทดลองทางคลินิกกับผู้ป่วย โรคงูสวัดจากเชื้อไวรัสวาริเซลล่า ซอสเตอร์ หรือวีแซดวีด้วยยาเดียวกัน พบว่าครีมพญายอ สามารถรักษาผู้ป่วยโรคงูสวัดได้ ทำให้แผลตกสะเก็ดหายเร็ว ลดอาการปวดได้ดี และไม่พบผลข้างเคียงใดๆ จากการใช้ครีมพญายอไม่ทำให้เกิดอาการแสบระคายเคืองทาแล้วรู้สึกเย็นสบาย”นพ.มานิตกล่าว
นพ.มานิต กล่าวด้วยว่า กรมวิทยาสตร์ฯได้ถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีการผลิต ครีมพญายอให้แก่องค์การเภสัชกรรมเพื่อผลิตออกจำหน่ายในระดับอุตสาหกรรมเพื่อทดแทนยารักษาโรคเริมและงูสวัดที่นำเข้าจากต่างประเทศ และยังมีโครงการวิจัยสมุนไพรพญายออย่างต่อเนื่อง เพื่อคัดเลือกส่วนสกัดจากพญายอที่บริสุทธิ์ที่มีฤทธิ์เพิ่มขึ้น และศึกษากลไกการออกฤทธิ์ของสารจากพญายอ เพื่อพัฒนาเป็นยาใช้ภายในต่อไป ซึ่งจะช่วยสนับสนุนส่งเสริมนโยบายการพึ่งพาตนเองด้านสาธารณสุขของประเทศ
สำหรับสมุนไพรพญายอ หรือพญาปล้องทอง เป็นพืชที่หาได้ทั่วไป แพทย์พื้นบ้านใช้รักษาโรคผิวหนังจำพวกเริมและงูสวัด โดยใช้ใบสดประมาณ 1 กำมือ ตำผสมเหล้าใช้ทาบ่อยๆ หรือใช้ 2-10 ใบขยี้หรือตำให้แหลก นำมาทาหรือพอกแก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย ทั้งนี้ไม่สามารถใช้แก้พิษงูได้
นพ.มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้ทำการศึกษาวิจัยสมุนไพรพญายอ ตั้งแต่ พ.ศ.2535 โดยศึกษาฤทธิ์ของสารสกัดจากใบเสลดพังพอน และใบพญายอต่อเชื้อโรคเริม ซึ่งเป็นไวรัสที่มีชื่อว่าเฮอร์ปีส์ ซิมเพลกซ์ ไวรัสชนิดที่ 2 หรือเอชเอสวี-2 เปรียบเทียบกับยามาตรฐานและกลุ่มควบคุม สารสกัดจากใบตำลึง พบว่าสารสกัดจากพญายอมีฤทธิ์ทำลายไวรัสเอชเอสวี-2ได้ แต่สารสกัดจากใบเสลดพังพอนและใบตำลึงไม่มีฤทธิ์ดังกล่าว
“นอกจากนี้ ได้ทดลองทางคลินิกรักษาผู้ป่วยโรคเริมที่อวัยวะสืบพันธุ์ชนิดเอชเอสวี-2 ด้วยยาครีมที่พัฒนาจากสารสกัดจากใบพญายอ โดยทาบริเวณที่เป็นโรค พบว่าครีมพญายอมีประสิทธิภาพดี ทำให้แผลหายเร็วขึ้น ลดความเจ็บปวดได้ดี ครีมพญายอไม่ทำให้แสบระคายเคืองที่แผลพร้อมกันนี้ได้ทดลองทางคลินิกกับผู้ป่วย โรคงูสวัดจากเชื้อไวรัสวาริเซลล่า ซอสเตอร์ หรือวีแซดวีด้วยยาเดียวกัน พบว่าครีมพญายอ สามารถรักษาผู้ป่วยโรคงูสวัดได้ ทำให้แผลตกสะเก็ดหายเร็ว ลดอาการปวดได้ดี และไม่พบผลข้างเคียงใดๆ จากการใช้ครีมพญายอไม่ทำให้เกิดอาการแสบระคายเคืองทาแล้วรู้สึกเย็นสบาย”นพ.มานิตกล่าว
นพ.มานิต กล่าวด้วยว่า กรมวิทยาสตร์ฯได้ถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีการผลิต ครีมพญายอให้แก่องค์การเภสัชกรรมเพื่อผลิตออกจำหน่ายในระดับอุตสาหกรรมเพื่อทดแทนยารักษาโรคเริมและงูสวัดที่นำเข้าจากต่างประเทศ และยังมีโครงการวิจัยสมุนไพรพญายออย่างต่อเนื่อง เพื่อคัดเลือกส่วนสกัดจากพญายอที่บริสุทธิ์ที่มีฤทธิ์เพิ่มขึ้น และศึกษากลไกการออกฤทธิ์ของสารจากพญายอ เพื่อพัฒนาเป็นยาใช้ภายในต่อไป ซึ่งจะช่วยสนับสนุนส่งเสริมนโยบายการพึ่งพาตนเองด้านสาธารณสุขของประเทศ
สำหรับสมุนไพรพญายอ หรือพญาปล้องทอง เป็นพืชที่หาได้ทั่วไป แพทย์พื้นบ้านใช้รักษาโรคผิวหนังจำพวกเริมและงูสวัด โดยใช้ใบสดประมาณ 1 กำมือ ตำผสมเหล้าใช้ทาบ่อยๆ หรือใช้ 2-10 ใบขยี้หรือตำให้แหลก นำมาทาหรือพอกแก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย ทั้งนี้ไม่สามารถใช้แก้พิษงูได้